เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1146 คริสติน่าเราได้พบกันอีกครั้ง
บทที่ 1146 คริสติน่าเราได้พบกันอีกครั้ง
บทที่ 1146 คริสติน่าเราได้พบกันอีกครั้ง
คุณออกัสเห็นซูเสี่ยวเถียนพยักหน้าก็หันไปมองเธอ
เขาสนใจสาวน้อยคนนี้มาก
ตอนแรกคิดจะพากลับเยอรมนีด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวปฏิเสธ
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเสียใจเป็นอย่างมาก
ซูเสี่ยวเถียนยกยิ้มสุภาพ
เธอรู้ว่าหลายปีมานี้ฉืออี้หย่วนทำงานอยู่ที่บริษัท Fessenger ของคุณออกัสอยู่
ใจหนึ่งก็คิดว่าเขาอาจจะเดินทางมาด้วยในครั้งนี้
ทว่าก็ไม่มีพี่เขาอยู่ในกลุ่มผู้แทน
อีกทั้งครั้งนี้ยังเป็นการเยี่ยมเยือนอย่างเป็นทางการด้วย ฉืออี้หย่วนเป็นนักแปลของบริษัท Fessenger ไม่มีคุณสมบัติให้เข้าร่วมหรอก
ด้วยความคาดหวังที่รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้จึงไม่ผิดหวัง
เพื่อนร่วมงานหญิงอย่างจานจิ้งอวิ๋นที่ยืนอยู่ด้านข้างนึกประหลาดใจตอนเห็นปฏิสัมพันธ์ของสองพี่น้องและซูเสี่ยวเถียน
เด็กคนนี้เพิ่งทำงานในกระทรวงการต่างประเทศได้ไม่กี่เดือนเอง และนี่เป็นครั้งแรกที่คณะผู้แทนชาวเยอรมันมาเยือนประเทศเรา
ไม่มีทางที่เธอจะรู้จักสมาชิกในคณะหรอก
“เสี่ยวเถียน เธอรู้จักแขกต่างชาติทั้งสองท่านนี้ด้วยหรือ?” เธอลดเสียงถามด้วยความสงสัย
“ครั้งแรกที่หนูทำงานเป็นล่าม หนูได้ต้อนรับบริษัท Fessenger น่ะค่ะ”
ซูเสี่ยวเถียนไม่มีเจตนาจะปิดบัง เพราะอย่างไรคนก็ต้องรู้อยู่แล้ว พูดด้วยตัวเองคงจะดีกว่า
จานจิ้งอวิ๋นได้ฟังก็เข้าใจ
งานต้อนรับแขกชาวต่างชาติครั้งแรกของซูเสี่ยวเถียนไม่ใช่งานทางการ
งั้นน่าจะเป็นงานลักษณะเชิงพาณิชย์
เพราะการแปลศัพท์เชิงพาณิชย์ไม่ใช่เรื่องง่าย นักแปลจึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจพวกธุรกิจด้วยจึงจะแปลได้ถูกต้อง เพราะมีศัพท์เฉพาะหลายคำเลย
เธออดไม่ได้ที่จะมองเด็กสาวอีกสองรอบ
แต่เพราะนี่เป็นงานทางการ จึงไม่ได้พูดอะไรกันเยอะ
แล้วมุ่งความสนใจไปที่การเตรียมงานแทน
ที่จริงหลังจากคณะผู้แทนมาถึงเราไม่ได้เริ่มขั้นตอนต่อไปทันที
เพราะนั่งเครื่องบินเดินทางหลายพันลี้มันเหนื่อยมาก จึงบอกให้แขกชาวต่างชาติได้พักผ่อนก่อนดีกว่า
ช่วงเวลานี้เจ้าหน้าที่ต้อนรับคณะผู้แทนก็พักอยู่ในโรงแรมด้วย
ซูเสี่ยวเถียนไม่ต้องอยากเข้าไปพักในห้อง เลยนั่งอ่านนิตยสารอยู่ห้องโถง
โรงแรมฉางเฉิงเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ซึ่งดูดีเป็นอย่างมาก
ท่าทางของพนักงานบริการก็ดีเหมือนกัน ต่างจากงานบริการในโรงแรมของรัฐเมื่อก่อนเยอะ
เนื่องด้วยมีแค่ผู้หญิงอยู่สองคนในกลุ่มเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ จานจิ้งอวิ๋นจึงอยู่ห้องโถงด้วย
คนทั้งสองอ่านนิตยสารแฟชั่น และคุยเกี่ยวกับเนื้อหาในนั้น
เพราะคริสติน่าได้พบกับซูเสี่ยวเถียนแล้ว จึงไม่คิดจะพักผ่อน
หลังจากเก็บสัมภาระ รอให้สดชื่นขึ้นเล็กน้อยจึงเดินออกมาหาทันที
ตั้งใจจะไปถามหาที่ล็อบบี แต่พอลงมาก็เจอเจ้าตัวนั่งพลิกนิตยสารอยู่ตรงนั้น
เธอสาวเท้าไปหาด้วยความรวดเร็ว
ฝั่งซูเสี่ยวเถียนก็เห็นคริสติน่าแล้ว จึงวางนิตยสารลงแล้วยกยิ้ม
เธอยืนขึ้นแล้วมองด้วยสายตาอ่อนโยน
คริสติน่าไม่คิดปิดบังความสุขแล้วเข้าไปกอดแน่น
“ที่รัก ฉันคิดถึงเธอมากเลย! ทำไมไม่มาหาฉันที่เยอรมนีบ้างเลย? ถ้าไม่อยากเจอฉัน งั้นไม่อยากเจอพี่อี้หย่วนหรือ?”
คำพูดคำจาหึงหวงจนคนฟังรู้สึกตามไปด้วย
ซูเสี่ยวเถียนกอดตอบ “ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน แต่ฉันยังเรียนอยู่นี่นา แถมเยอรมนีกับจีนก็อยู่ไกลกันด้วยนะ”
จานจิ้งอวิ๋นตกใจกับการกระทำคนทั้งสอง
ทีแรกคิดว่ารู้จักกันเฉย ๆ แต่ทั้งสองคนดูจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันนะ!
ในฐานะที่เป็นพนักงาน เธอย่อมรู้จักตัวตนของคุณผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว
ท่านนี้คือน้องสาวเจ้าของบริษัท Fessenger สัญชาติเยอรมัน และเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้วย
“ฉันคิดว่าหลังจากมาถึงจีนจะหาเวลาไปเยี่ยมเธอได้ แต่จู่ ๆ ก็ได้เจอกันที่โรงแรมเลย น่าดีใจจริง ๆ!”
“ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ ยินดีต้อนรับจ้ะ!”
หลังเฮฮากันสักพักสองสาวงามก็นั่งจับมือคุยกันบนโซฟา
ทั้งสองเข้าขากันได้ดีมาก
เพราะงานทางการยังไม่เริ่ม เลยได้พักผ่อนและคุยเต็มที่
จานจิ้งอวิ๋นไม่ได้ขัดจังหวะ เธอนั่งอ่านนิตยสารอยู่เงียบ ๆ
ส่วนเข้าใจหรือไม่นั้นไม่อาจรู้ได้
จากการสนทนาทำให้ได้รู้ว่าฉืออี้หย่วนกำลังจะกลับประเทศจีน
คริสติน่าบอกว่าอย่างช้าคงเป็นเดือนสิงหาคม
น่าตกใจมากจริง ๆ
หลายปีแล้วที่ฉืออี้หย่วนเดินทางไป แม้ระหว่างนั้นจะกลับมาบ้าง แต่ซูเสี่ยวเถียนก็ยังคงคิดถึงเขามากอยู่ดี!
“ฉันพยายามให้เขาอยู่ต่อแล้วนะ แต่เจ้าตัวยืนกรานจะกลับจีนให้ได้”
หญิงสาวทำหน้ามุ่ย รู้เลยว่าไม่พอใจกับผลลัพธ์คร้ังนี้มาก
เธอชื่นชมฉืออี้หย่วนไม่น้อย และหวังว่าเขาจะทำงานกับเราต่อไป
แต่เจ้าตัวบอกญาติที่สนิทอยู่จีนหมดเลย จึงต้องกลับไปอยู่แล้ว
“ถ้าปู่ฉือยังอยู่ที่นี่เขาจะต้องกลับอยู่แล้วแหละ!” ซูเสี่ยวเถียนอธิบายด้วยรอยยิ้ม
คริสติน่ามองซูเสี่ยวเถียนด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบาย
คิดว่าที่เจ้าตัวยืนกรานขนาดนั้นเหตุผลน่าจะเป็นซูเสี่ยวเถียนมากกว่า
เพราะทุกครั้งที่ฉืออี้หย่วนพูดถึงซูเสี่ยวเถียน สีหน้ามีแต่รักใคร่จนทนแทบไม่ไหว
ทีแรกคิดว่าพอได้มาจีนจะเชิญชวนเพื่อนคนนี้ให้ตามกลับไปด้วยกัน
เพราะรู้สึกได้ว่าหากซูเสี่ยวเถียนเต็มใจไปเยอรมนีด้วย ฉืออี้หย่วนจะอยู่ทำงานที่บริษัทเราต่อแน่นอน