เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1202 เลือกปฏิบัติ
บทที่ 1202 เลือกปฏิบัติ
บทที่ 1202 เลือกปฏิบัติ
ท่ามกลางผู้คน ซูเสี่ยวเถียนที่เป็นชาวผิวเหลืองคนเดียวดูสะดุดตาไม่น้อย
หลายคนมองมาที่เธอ บางคนมองแล้วกระซิบกระซาบกัน
เสี่ยวเถียนล้วนฟังออกทั้งหมด มีคนบอกว่าเด็กสาวชาวตะวันตกที่หน้าตาสวย ๆ มาจากประเทศนั้นสินะ
บางคนบอกเสื้อผ้าที่เธอใส่สวยมาก
บางคนก็ว่าหน้าตาสวยไม่พอ เห็นแล้วยังรู้สึกมีความสุข
แต่เธอแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน และยังคงเดินไปห้างสรรพสินค้าด้วยท่าทางสบาย ๆ หยุดเป็นบางครั้งยามดูร้านรวงรอบข้าง
เธอคิดเสมอเลยว่า เวลาไปต่างประเทศควรให้ความสำคัญกับคำพูดและการกระทำ ชาวต่างชาติจะได้ไม่รู้สึกแย่กับประเทศจีนเพราะสิ่งที่ไม่เหมาะสม
ทว่าแม้คนต่างชาติจะชอบที่คนจีนเดินทางมาท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับพวกเขา แต่เพราะการกระทำคนของเรา เลยทำให้โดนรังเกียจ
ถึงบางส่วนจะเป็นการใส่ร้าย แต่ที่ว่านิสัยคนจีนบางส่วนไม่ดีนั้นก็ยังเป็นเรื่องจริง
เพราะแบบนี้ การกระทำและคำพูดของเธอจึงมีความสง่ามากขึ้น
คนหลายคนมองไปที่เด็กสาว และไม่สามารถละสายตาได้
ส่วนคนโดนมองกลับถูกสินค้าต่าง ๆ นานาดึงดูดจนลืมไปเลยว่ามีคนมองมา
ห้างของต่างประเทศและที่บ้านต่างกันจริง ๆ ด้วย
ถึงสองปีนี้ในประเทศจีนจะมีห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นเยอะ แต่มันก็มีขนาดเล็กกว่า
มีอะไรให้เรียนรู้เพียบเลย
เธอตั้งใจว่ากลับไปจะเล่าให้พี่สี่ฟัง เขาจะได้เอาไปปรับปรุงกิจการตัวเอง
และห้างสรรพสินค้าสูงหกชั้นแห่งนี้ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกชนิด รวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือยมากมาย
คงเพราะเธอมีระบบร้านค้าเลยไม่ค่อยสนใจของจำเป็นในชีวิตประจำวัน
จนกระทั่งเห็นนาฬิกาแบรนด์ดังจึงเรียกความสนใจขึ้นมา
แบรนด์นี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งนาฬิกา
แม้ชีวิตครั้งที่แล้วจะใช้ชีวิตธรรมดาสามัญ แต่เคยได้ยินคนพูดถึงแบรนด์นี้อยู่
และอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอสนใจคือ รู้ว่ายิ่งเก็บรักษาไว้นานราคายิ่งสูง
แต่ไม่รู้รูปแบบไหนถึงจะได้ราคาดี
และต่อให้มันเก็บรักษาคุณค่าไว้ไม่ได้คุณภาพของมันถือว่าดีมาก
ราคาของมันก็สำคัญ
ยิ่งสูง ยิ่งรู้สึกควรซื้อกลับไปหลายเรือน
ที่จีนก็มีแบรนด์นี้นะ แต่มันหายากมากและซื้อยากด้วย
พอเจอก็อยากจะได้เป็นธรรมดา
เธอเดินไปยังเคาน์เตอร์และรบกวนให้พนักงานหยิบนาฬิกาออกมาสองเรือนโดยพูดภาษา L
ทักษะทางภาษาของเด็กสาวยอดเยี่ยมมาก แทบเทียบเท่าได้กับคนในท้องถิ่นเลย
แต่สีผิวและลักษณะใบหน้าเลยทำให้พนักงานที่เคาน์เตอร์ทำตัวแปลก ๆ
เรียวคิ้วของอีกฝ่ายขมวดเข้าหากัน
หล่อนมองเด็กสาวขึ้น ๆ ลง ๆ ถึงไม่ได้พูดอะไร แต่นัยยะชัดเจน
เหมือนกับหาว่าซูเสี่ยวเถียนเป็นคนที่ไหน
หน้าตาแบบชาวตะวันออกแบบนี้ สาวงามตรงหน้าต้องเป็นคนจีนแน่
ได้ยินคนบอกว่าประเทศจีนยากจนมาก จนมาก ๆ!
ไม่มีกิน ต้องกินผักป่าเปลือกไม้อะไรพวกนั้นด้วยซ้ำ
แล้วถ้าผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนจีน จะมีปัญญาซื้อหรือ?
“คุณผู้หญิง คุณซื้อนาฬิกาได้ทั้งสองเรือนใช่ไหมคะ?” สุดท้ายก็ถามออกไป
ซูเสี่ยวเถียนไม่สนใจ หากสังเกตดี ๆ จะรู้ว่ารอยยิ้มเธอส่งไปไม่ถึงดวงตา
“การให้บริการลูกค้าเป็นงานพื้นฐาน แล้วคุณถามอะไรแบบนี้กับทุกคนเลยหรือ?”
เธอคาดเดาได้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น
ถ้ามีจริง ๆ ป่านนี้หล่อนคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก
“แต่คุณเป็นชาวตะวันออก!” พนักงานที่เคาน์เตอร์ทำท่าราวกับว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
หล่อนรู้สึกว่าที่ทำอยู่ถูกต้องแล้ว กับลูกค้าที่ไม่มีเงินซื้อนาฬิกาหรูแบบนี้จะบริการดี ๆ ไปทำไม?
คนประเภทนี้ต้องไล่ออกไปจากห้าง
สถานที่อันสูงส่งไม่เหมาะสำหรับคนยากจน
ซูเสี่ยวเถียนไม่รู้ความคิดของอีกฝ่าย
แต่เธอโกรธมากกว่าที่เจ้าตัวไม่คิดว่าตัวเองผิด แถมยังพูดจาเสียงดังใส่ด้วย!
“ฉันขอพบผู้จัดการคุณค่ะ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าซูเสี่ยวเถียนเลือนหายไป สีหน้าเย็นชา มีออร่าความแข็งแกร่งแผ่ออกมาจนสัมผัสได้
“ผู้จัดการของเราไม่ใช่คนที่คุณอยากจะเจอก็อยากได้ ต้องนัดหมายก่อนค่ะ!” อีกฝ่ายเชิดคางขึ้น
ซูเสี่ยวเถียนไม่คิดหรอกว่าพนักงานจะเก่ง
อีกฝ่ายเพียงคิดง่าย ๆ ว่ายืนขวางทางเธอก็ไม่สามารถเข้าไปพบผู้จัดการได้แล้ว
แม้แต่ผู้จัดการก็ไม่ทราบว่าวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้น
ไม่คิดเลยว่าจะต้องเจอเรื่องแย่ ๆ ในตอนที่กำลังอารมณ์ดี
ความอยากเดินช็อปปิงพังทลายลงทันที
เธอขบคิดก่อนหมุนตัวจากไป
ถึงอย่างไรนาฬิกาก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น
ไว้ไปซื้อที่ประเทศอื่นเอาก็ได้
โต้เถียงไปก็เสียอารมณ์เปล่า ๆ
ในตอนที่เธอหมุนตัวจาก พนักงานคนนั้นดูภาคภูมิใจยิ่งนัก
ทั้งยังด่าทิ้งท้ายกลับมาด้วย “รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นแค่คนจน!”
ถึงจะเอ่ยด้วยเสียงอันเบา แต่มันไม่ได้เบาขนาดนั้นก็พอให้เธอได้ยิน
ทีแรกคิดจะไปเฉย ๆ แต่อีกฝ่ายไม่ปล่อยไว้
เลยหันขวับไปจ้องเขม็งอีกฝ่ายซึ่งมองด้วยสายตาดูแคลนกลับมา
พนักงานตกใจกลัว แล้วเบี่ยงสายตาไปทางอื่นทันที
ซูเสี่ยวเถียนมองอย่างไม่ลดละ
เธอไม่ซื้อนาฬิกาก็ได้ แต่ศักดิ์ศรีก็ต้องไม่เสียหายเหมือนกัน
“สะกดคำว่าเคารพเป็นไหม?”
“ลูกค้าผู้มีเกียรติบางท่านสมควรได้รับค่ะ แต่บางท่านก็ไม่สมควรเรียกว่าลูกค้าด้วยซ้ำ…”
ไม่ทันเอ่ยจบ กลับมีเสียงกรีดร้องดังมาแต่ไกล