เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1219 ตั้งใจรับเป็นลูกศิษย์
บทที่ 1219 ตั้งใจรับเป็นลูกศิษย์
บทที่ 1219 ตั้งใจรับเป็นลูกศิษย์
แววตาของเขามีประกายที่น่ากลัว
ในยุคนี้ไม่มีเรื่องใดน่าหดหู่ใจไปกว่าชื่อเสียงของเด็กสาวที่โดนทำลาย
ดึกดื่นในห้องเด็กสาวที่มีชายวัยกลางสามคน เรื่องนี้ต้องกระตุ้นความสนใจแน่
เสี่ยวเถียนไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
หลังจากวาดนานกว่าสองชั่วโมงเธอก็ได้วางมือเสียที ร่างกายตึงไปหมด
เด็กสาวเหยียดขาขยับตัว ก่อนพบว่าอีกสามคนกำลังมองเธออยู่
ผู้อาวุโสเฟิงอวี้มองเธอออกแบบเสื้อผ้า
เห็นแบบร่างก็มั่นใจว่าเจ้าตัวไม่รู้วิธีออกแบบจริง ๆ
แต่น่าแปลกที่วาดงานคุณภาพดีแบบนี้ออกมาได้
“ทำไมทุกคนถึงมองฉันล่ะคะ?”
ซูเสี่ยวเถียนสงสัย
“เธอยอดเยี่ยมมากเลย ตาแก่คนนี้ขอซูฮก!”
ในที่สุดก็ได้พบกับอัจฉริยะด้านการออกแบบที่แท้จริงเสียที
ไม่รู้ว่าอยากเรียนออกแบบกับเขาบ้างไหม
ถ้าสนใจจริง ๆ ละก็ อนาคตได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดแน่
ซูเสี่ยวเถียนยิ้ม “สุภาพเกินไปแล้วค่ะ คุณเป็นปรมาจารย์ดีไซเนอร์เลยนะคะ”
“ฉันมองออกเลยว่าเธอไม่เคยเรียนด้านออกแบบจริง ๆ แต่ว่าสนใจอยากเรียนกับฉันไหม?”
เขามองด้วยสายตาคาดหวัง
ซูเสี่ยวเถียนตกใจมาก
เธอไม่ได้สนใจ และไม่ได้อยากเป็นดีไซเนอร์ด้วย
เธอมีความฝันของตัวเอง คงต้องปฏิเสธแล้วละ
“ตอนนี้ฉันเป็นพนักงานของกระทรวงต่างประเทศค่ะ อนาคตคงทำงานในด้านที่ตัวเองเรียนมา ไม่เคยคิดทำงานด้านออกแบบมาก่อนเลยค่ะ”
ถึงไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้จริง ๆ
ชายชราผิดหวังจริง ๆ
เขาชอบซูเสี่ยวเถียนมาก และหวังว่าจะได้เธอมาเป็นลูกศิษย์
“ไม่อยากพิจารณาสักหน่อยหรือ? ถึงการเป็นล่ามจะมีอนาคตก็จริง แต่ดีไซเนอร์ก็ไม่แย่นะ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้”
ผู้อาวุโสเฟิงพยายามโน้มน้าวเต็มที่จนลืมอีกสองคนที่เหลือไปเลย
ยังมีรัฐมนตรีต้วนและรองหัวหน้าเหวยอีกนะ
คนทั้งสองรู้สึกว่าเรื่องราวชักจะต่างจากที่จินตนาการไว้มาก
ซูเสี่ยวเถียนเป็นคนที่ต้องได้รับการคุ้มครอง แต่ไม่รู้ว่ามันดูแลไปถึงเรื่องที่คนจากหน่วยงานอื่นแย่งตัวไปทำงานด้วยหรือเปล่า
ถ้าแบบนั้นก็ลำบากแล้วสิ
“ผู้อาวุโสเฟิงให้เธอค่อย ๆ คิดดีกว่าไหมครับ?” รองหัวหน้าเหวยกัดฟันพูด
ผู้อาวุโสเฟิงหันมามองด้วยความตกใจ “รองหัวหน้าเหวย อ้าว ท่านรัฐมนตรี ยังอยู่อีกหรือครับ?”
เฟิงอวี้ซูไม่ได้สังเกตพวกเขาจริง ๆ เพราะมัวแต่คิดว่าจะหาทางให้เธอมาเป็นลูกศิษย์ยังไงดี
รองหัวหน้าเหวย “…”
รัฐมนตรีต้วน “…”
เสี่ยวเถียน “…”
ทั้งสามไม่รู้เลยว่าจะพูดอะไรดี
“เรื่องนี้ท่านก็เห็นข้อพิสูจน์แล้วนี่ ช่วยตาแก่คนนี้หน่อยไม่ได้หรือ ชักชวนเบื้องบนให้สาวน้อยมาเรียนออกแบบกับผมได้ไหม? ผมเพิ่งได้เจอเด็กเก่ง ๆ แบบนี้ครั้งแรกเลย!”
ซูเสี่ยวเถียน “…”
เธอไม่อยากเป็นจริง ๆ นะ ไม่ใช่เพราะเก่งหรืออะไรหรอก แต่เห็นจากอนาคตมาเยอะแล้วว่าก็แค่วาดไปงั้น ๆ เอง!
ซูเสี่ยวเถียนไม่กล้าพูด กลัวคนจะหาว่าบ้า
“ไว้ค่อยว่ากัน ตอนนี้เรามีเรื่องสำคัญกว่า!”
รัฐมนตรีต้วนเปลี่ยนเรื่อง
เฟิงอวี้ซูมองด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นก็จำเหตุผลที่สองคนนี้มาหาได้
มีเรื่องอะไรนะ?
เพราะไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยคาดเดาไม่ออกสักนิด!
“ในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้าของคณะ หากมีเรื่องอะไรบอกได้เลยครับ ผมย่อมต้องทำตามคำสั่งคุณอยู่แล้ว!”
ผู้อาวุโสเฟิงแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนว่าง่าย
แต่เรารู้ดีว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเพราะเจ้าตัวจะต้องบ่นในใจเป็นแน่
‘ตาแก่นี่เวลามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือเขาก็คุยง่ายเหลือเกิน! ไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าตัวเองอารมณ์ร้ายขนาดไหนน่ะ?’
ทว่าเขาก็ทำได้เพียงก่นด่าอยู่ในใจ
“เรื่องเป็นแบบนี้ครับ ในเมื่อคุณทราบเรื่องที่เสี่ยวเถียนไม่ใช่ดีไซเนอร์มืออาชีพแล้ว อีกเรื่องก็คือเธอออกแบบเป็นแต่ตัดเย็บเสื้อผ้าอะไรไม่เป็นเลยครับ”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง เพราะอยากให้เวลาผู้อาวุโสเฟิงในการตอบ
และตอนนี้เจ้าตัวก็ยังไม่พูดอะไรเลย
คงแปลกถ้าผู้อาวุโสผู้อยากได้ลูกศิษย์ตอบสนองในทันที
ซูเสี่ยวเถียนได้ยินแบบนั้นก็เขิน ๆ
กับคนที่อะไร ๆ ก็ทำได้ แล้วจู่ ๆ ก็ดันมีหนึ่งอย่างที่ทำไม่ได้ขึ้นเลย จึงทำให้ตนรู้สึกผิดไม่น้อย
ยังนึกอยู่เลยว่าเรียนรู้เรื่องนี้ดีไหม
เพราะที่บ้านมีจักรอยู่เครื่องหนึ่ง ถ้าฝึกบ่อย ๆ น่าจะทำได้
แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้
ไม่ยอมแพ้ได้ด้วยหรือ?
ทำไมต้องทิ้งสิ่งที่ตัวเองถนัดเพื่อไปทำเรื่องที่ไม่ถนัดด้วยล่ะ?
คนมักพูดว่า ‘360 ศาสตร์อาชีพ ย่อมมีจอหงวนของตน’*[1]
เหมือนกับเธอที่ไม่มีทางเก่งทุกอย่างในโลกนี้หรอก
ช่างเถอะ ขอแค่ถนัดสักอย่างเช่นทำงานแปล เดี๋ยวอนาคตก็มีงานทำเองนั่นละ!
[1] 360 ศาสตร์อาชีพ ย่อมมีจอหงวนของตน เปรียบว่า ไม่ว่าอาชีพใด หากทุ่มเทแรงกายใจย่อมได้เป็นหนึ่งในอาชีพนั้น ๆ