เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1220 อย่าได้อ่อนข้อ
บทที่ 1220 อย่าได้อ่อนข้อ
บทที่ 1220 อย่าได้อ่อนข้อ
เสี่ยวเถียนเป็นคนกล้าตัดสินใจ
เธอสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัวทันที
“ผู้อาวุโสคะ คณะของเรามีคนรู้เรื่องการตัดเย็บเสื้อผ้าน้อยค่ะ นอกจากคุณที่เป็นปรมาจารย์ด้านนี้แล้วก็มีนางแบบคนนั้นที่พอรู้นิดหน่อยนะคะ”
ผลการสำรวจเป็นเช่นนั้นน่ะ ผู้หญิงยุคนี้เย็บปักถักร้อยเป็น แต่คณะเดินทางที่มามีผู้หญิงน้อยคนมาก
นอกจากเธอก็มีแค่นางแบบอีกคนเท่านั้น
ทว่าตอนนี้เรากำลังตรวจสอบนางแบบอยู่ ไม่รู้ว่าเชื่อถือเจ้าตัวได้หรือเปล่า
มีเรื่องเกิดขึ้นในกลุ่มแบบนี้ เรายิ่งไม่อยากให้เกิดปัญหามากขึ้นไปอีกจนส่งผลกระทบต่อตารางเวลา
พูดมาขนาดนี้เฟิงอวี้ซูย่อมเข้าใจได้ รัฐมนตรีต้วนต้องการจะสื่อว่าให้เขาจัดการชุดทั้งสามนี้ด้วยตัวเองใช่ไหม?
แต่ว่ายังไม่เห็นเนื้อผ้าเลย
“ผมขอดูผ้าที่เตรียมไว้หน่อยได้ไหม?”
เฟิงอวี้ซูมีสีหน้าจริงจัง มั่นคงดั่งภูผา ไม่มีความตื่นเต้นอย่างก่อนหน้านี้แล้ว
คนเห็นแบบนี้ก็สบายใจ
“เสี่ยวเถียน ช่วยเตรียมผ้าให้ผู้อาวุโสดูหน่อยได้ไหม?”
รัฐมนตรีต้วนเอ่ยด้วยความสุภาพ เพราะไม่คิดว่าเสี่ยวเถียนต้องเห็นแย้งอะไร
เพราะแบบเสื้อผ้าพวกนี้ก็ยังให้เขาดูเลย
“ได้ค่ะ ผู้อาวุโสลองดูนะคะ นี่เป็นผ้าที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ฉันนำมาด้วยตั้งแต่แรกเลยค่ะ ชิ้นนี้ใช้ทำกระโปรงหม่าเมี่ยน เพราะมันมีลวดลายเอามาใช้ได้เลย ประหยัดเวลาด้วย ส่วนผืนนี้…”
เธอหยิบออกมาทีละชนิดแล้วแสดงให้ดู
ถึงหัวหน้าทั้งสองจะเป็นกังวลกับตัวสมาชิก แต่ถ้าเราพาเฟิงอวี้ซูมาที่นี่ได้ แค่นี้ก็พิสูจน์ความน่าเชื่อถือได้แล้วละ
ส่วนงานตัดเย็บในวันพรุ่งนี้ให้เขาทำดีกว่า ไม่ใช่อู๋เมิ่งหลานที่เป็นนางแบบ
“ผ้าเนื้อดีเลยนะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย”
“ไม่สิ ตาแก่อย่างฉันไม่เคยเห็นวัสดุนี้ขายในตลาดเลยมากกว่านะ? สาวน้อย ไปเอามาจากไหนหรือ?”
ผู้อาวุโสเฟิงอวี้ซูมองด้วยสายตาอยากจะรู้
“ตอนนี้ยังเป็นความลับค่ะ แต่ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานมันจะมีออกขายสู่ตลาดแน่”
เธอบอกคร่าว ๆ และตัดสินใจว่ากลับบ้านไปจะตามหาโรงงานที่น่าเชื่อถือได้เพื่อผลิตผ้าพวกนี้
เฟิงอวี้ซูคิดว่ามันเป็นความลับทางการค้า ไม่สามารถเปิดเผยได้จึงไม่ถามต่อ
ชายชราลูบผ้าอย่างระมัดระวัง
รัฐมนตรีต้วนถาม “ผู้อาวุโส ท่านเห็นด้วยหรือเปล่าครับ?”
“ผมเห็นด้วย จะไม่อ่อนข้อให้แน่”
หลายวันมานี้อู๋เมิ่งหลานไม่ได้สร้างความประทับใจให้เขามากนัก ตนจึงไม่ไว้ใจให้อีกฝ่ายเข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะหญิงสาวเป็นนางแบบคนเดียวในกลุ่ม ป่านนี้เขาคงบอกให้เปลี่ยนตัวไปนานแล้ว!
เมื่อได้ยินคำตอบ รัฐมนตรีต้วนก็สบายใจ
ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่ม
“พรุ่งนี้เรายังต้องไปสู้กันต่อ ผู้อาวุโสเฟิงอวี้ซู ซูเสี่ยวเถียน พักผ่อนกันเถอะ!”
ฝ่ายผู้อาวุโสพลันโบกมือไปมา “แบบที่สาวน้อยร่างไว้ยังมีปัญหาอยู่น่ะ รอตาแก่แก้ก่อนนะ!”
ระหว่างที่ซูเสี่ยวเถียนวาด เขาก็เจอปัญหาพอดี แต่เพื่อไม่ให้ขัดความคิดเลยอดทนเอาไว้
ตอนนี้จึงพูดให้ฟัง
หากไม่สามารถแก้ในคืนนี้ เขาไม่มีทางนอนหลับแน่
เนื่องด้วยเฟิงอวี้รั้นมาก กว่าจะแยกย้ายก็ตีสอง
เด็กสาวอาบน้ำเสร็จถึงกับล้มตัวลงนอนทันที
ก่อนนอนเธอใส่ภาพวาดที่แก้ไขเสร็จเรียบร้อย รวมถึงตัวผ้าไว้ในช่องเก็บของของระบบ
กลางดึกดื่นเด็กสาวสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังเข้ามาค้นของในห้องแต่ลืมตาไม่ขึ้น
แต่ซูเสี่ยวเถียนคือใครกันล่ะ?
เธอเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก จนสามารถฝืนความง่วงงุนลืมตาขึ้น
ก่อนจะเห็นร่างร่างหนึ่งกำลังค้นหาของอยู่ในห้องท่ามกลางความมืด แม้กระทั่งกระเป๋าก็ยังไม่เว้น
เธอเหนื่อยมาก แต่ยังอยากจะลุกขึ้นสู้
เสี่ยวเถียนส่งเสียงดังขึ้น ทำให้ฝ่ายนั้นที่กำลังหงุดหงิดหวาดกลัวขึ้นมา
คงเพราะกลัวจะโดนจับได้จึงรีบหนีออกไป
เธอไม่สบายใจสักนิด ไม่เหลือแรงจับมันด้วย
แต่รู้ว่าตัวเองโดนวางยา
จึงใช้แรงที่เหลือแลกยาแก้พิษ ครึ่งชั่วโมงต่อมาถึงฟื้นตัวเต็มที่
เธอนั่งคิดอยู่บนเตียง
ห้องมืดมาก สิ่งที่เห็นคือแผ่นหลังของเขาเท่านั้น เห็นหน้าไม่ชัดเจน
แม้รูปร่างก็ยังตัดสินได้ยาก เพราะไม่ได้เห็นหุ่นชัดเจนขนาดนั้น
แต่มั่นใจว่าต้องเป็นคนในคณะผู้แทนแน่นอน เป้าหมายคือแบบเสื้อผ้าไม่ก็ตัวผ้า
ขอบคุณตัวเองจริง ๆ ที่เอาใส่ระบบเอาไว้ ไม่อย่างนั้นตื่นมาคงโดนเอาไปหมดแล้ว
ไม่รู้พอออกจากห้องเธอไปจะค้นหาในห้องคนอื่นหรือเปล่า
แต่เด็กสาวไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น จึงแค่ตรวจประตูห้องแล้วเอาเก้าอี้มาค้ำเอาไว้ จากนั้นก็กลับมานอน
ซูเสี่ยวเถียนเริ่มคิดอีกครั้ง
ในเมื่อมันเผยตัวออกมาแบบนี้ อีกไม่นานเดี๋ยวได้รู้กัน
จากนั้นก็หลับไปอีกครั้ง
ครึ่งคืนที่เหลือเธอนอนอย่างสงบ ไม่มีใครรบกวนเลย
ก่อนจะตื่นอีกทีตอนเจ็ดโมงเช้า
อาหารเช้าคือเวลา 7.30 น. – 8.00 น. และต้องไปสถานที่จัดงานนิทรรศการเวลา 8.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสม
เธออาบน้ำและแต่งตัวเรียบร้อยในฐานะล่ามของประเทศจีน
จากการแต่งกาย ทำให้รูปลักษณ์เธอดูเป็นลูกครึ่ง
เครื่องสำอางที่แลกมาใช้ดีมาก จนดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเลย