เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1229 การคุ้มครองคูณสอง
บทที่ 1229 การคุ้มครองคูณสอง
บทที่ 1229 การคุ้มครองคูณสอง
วันนี้ยุ่งมากจนไม่ได้คุยกับรัฐมนตรีต้วนและรองหัวหน้าเหวยเลย ต้องหาเวลาเสียแล้ว
แผนการของประเทศญี่ปุ่นต้องไม่เล็กแน่ ๆ
ซูเสี่ยวเถียนคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
“ขอคิดก่อนนะคะ อย่างที่คุณรู้ว่าฉันเป็นคนจีน ยังไงก็ต้องกลับบ้านไปใช้ชีวิตค่ะ”
เธอพยายามทำน้ำเสียงให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้สุด ๆ
แน่นอนว่าความตื่นเต้นที่ว่าเป็นการแสดง
ตอนนี้กลัวมากว่าฝ่ายนั้นจะปฏิเสธแล้วไปหาคนอื่นแทน
คนผู้นั้นดูประหลาดใจ
เขาคิดว่าเสี่ยวเถียนกำลังหลอกล่อ เผลอ ๆ อาจกำลังต่อสู้เพื่อตัวเองด้วยซ้ำ
“คุณก็รู้ด้วยว่าฉันเป็นเพียงล่ามตัวเล็ก ๆ ไม่ได้มีบทบาทมากนักหรอกค่ะ”
“ผู้อาวุโสคงไม่ให้ฉันจับผ้าพวกนั้นแน่ ๆ ถ้าทำงานไม่เสร็จก็ไม่สามารถรับประกันอะไรได้อยู่ดีนะ”
ทว่าอีกฝ่ายกลับเข้าใจไปอีกแบบ
เฟิงอวี้ซูจะระวังตัวขนาดนั้นได้ยังไง?
ผู้ช่วยตัวเองแท้ ๆ ใจคอจะไม่ปล่อยให้หยิบจับอะไรเลยหรือ ดูเหมือนต้องไปหาคนอื่นเสียแล้ว!
แต่พอคิดว่าคนอื่นอาจจะเป็นเหมือนกัน ท่าทางก็เปลี่ยนไป
“เอาเถอะ ถึงยังไม่ได้ตอบตกลง แต่ถ้าเธอทำงานได้ดีตามที่เราคาดหวัง เราจะตกรางวัลให้อย่างงาม”
ซูเสี่ยวเถียนไม่เห็นด้วยเท่าไร
“งานที่ทำมันอันตรายมากนะคะ ถ้าไม่ระวังให้ดีอาจจะต้องชดใช้ไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ แต่ถ้าฉันทำสำเร็จ ต้องเพิ่มรางวัลให้ฉันด้วยนะ”
คำพูดของเสี่ยวเถียนช่วยคลายความสงสัย
ถ้าไม่ต่อรองเนี่ยสิถึงจะแปลก
“ฉันไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ แต่จะพยายามแล้วกัน เธอคิดหาวิธีไว้เยอะ ๆ ด้วยละ”
ว่าจบก็จากไป
ซูเสี่ยวเถียนตกเหยื่อได้ตัวใหญ่
ผู้อาวุโสเฟิงอวี้ซูถาม “เขามาตามหาคุณหรือ?”
เด็กสาวพยักหน้า เพราะกลัวจะมีพวกเจตนาไม่ดีหลงเหลืออยู่ จึงไม่ได้พูดต่อ
ฝั่งฟูจิวาระทราบเรื่องกลับรู้สึกแปลก ๆ
แต่บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร รู้แค่ว่าแปลกก็เท่านั้น
ส่วนตาแก่ตายยากอย่างเฟิงอวี้ซูไม่ยอมให้ใครเข้ามายุ่มย่ามกับงานเลย บ่งบอกเลยว่าให้ความสำคัญกับงานครั้งนี้มาก
งั้นก็สมเหตุสมผลแล้วละ
ถ้าไม่ใช่ผู้ช่วยประจำ จะไม่ได้รับความไว้วางใจใด ๆ ทั้งสิ้น
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผู้อาวุโสเฟิงและซูเสี่ยวเถียนก็ทยอยกันกลับ ตามด้วยรัฐมนตรีต้วนและรองหัวหน้าเหวย
เมื่อพวกเขาแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแถวนี้ถึงค่อยคุยกัน
ซูเสี่ยวเถียนเล่าคร่าว ๆ ถึงแผนการของประเทศญี่ปุ่น และบอกสิ่งที่พวกนั้นสั่งให้ทำ
รัฐมนตรีต้วนหัวเราะเสียงเย็น “รู้มาตั้งนานแล้วว่าความสามารถเจ้านั่นมันก็แค่นี้”
แต่วิธีการแบบนี้ ผลลัพธ์กลับออกมาดีเสียด้วย
หากสำเร็จจะส่งผลกระทบต่อจีนแน่
“เมื่อคืนนี้มีขโมยเข้าห้องฉันด้วยค่ะ”
เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นสั้น ๆ
สีหน้าของรัฐมนตรีต้วนเข้มขึ้น เช่นเดียวกับรอยยิ้มของรองหัวหน้าเหวยที่จางหายไป
ไปห้องซูเสี่ยวเถียนเลยหรือ?
“คุณไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?” เขารีบถาม
ซูเสี่ยวเถียนเป็นผู้หญิง ถ้ามีคนเข้าห้องไปแล้วเอาใส่สีตีไข่ ชื่อเสียงเธอจะเสื่อมเสียได้
แต่อีกฝ่ายดูไม่ได้คำนึงถึงเรื่องแบบนั้นเลย “เหมือนเขาจะกลัวฉันค่ะ พอได้ยินเสียงก็รีบหนีไปเลย”
น่าแปลก…
“คงเพราะคุณเคยจับโจรได้ล่ะมั้ง” รัฐมนตรีต้วนไม่รู้จะต้องรู้สึกยังไงดี
โชคดีจริง ๆ
คนฟังได้ยินก็เข้าใจ
ถ้าไม่กลัวจริง ผู้ใหญ่คนหนึ่งย่อมจัดการเด็กได้อยู่แล้ว
แต่นี่เลือกที่จะวิ่งหนีแทน หนึ่งคือกลัวความผิด สองคือกลัวเสี่ยวเถียน
เด็กสาวคาดไม่ถึงสักนิด
ถ้าฝ่ายนั้นรู้สถานการณ์ของเธอดี งั้นก็ต้องเป็นคนคุ้นเคยสิ ตัดความเกี่ยวข้องกับคนที่มาหาในวันนี้ได้เลย
เพื่อไม่ให้เป็นที่ต้องสงสัย หัวหน้าทั้งสองจึงรีบแยกย้าย
ซูเสี่ยวเถียนไม่ได้อยู่ต่อ
เธอทำเท่าที่ได้แล้ว ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้อาวุโสเถอะ
เด็กสาวกลับมาทำงาน
ในเวิร์กช็อปที่มีแค่ผู้อาวุโสคนเดียว สองคนหน้าประตูคอยเฝ้าเอาไว้
ส่วนคนที่ฟูจิวาระส่งมาคิดหาโอกาสและหมายหัวคนอื่นเอาไว้เพราะเสี่ยวเถียนไม่ได้ตอบรับ ฝ่ายนั้นต้องหาคนอื่นมาแน่
แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เอื้ออำนวย เพราะไม่มีใครเข้าใกล้ผ้าได้เลย
ฟูจิวาระไม่คิดว่ารัฐบาลจีนจะทำแบบนี้
ปล่อยให้ตาแก่นั่นทำอยู่คนเดียวไม่กลัวมันเหนื่อยตายหรือไง?
ประเด็นคือเราต้องทำลายผ้าให้ได้
ต้องหาวิธีอื่นเสียแล้ว
เราคงวางเพลิงให้มอดไหม้ไปทั้งบูทรวมถึงเวิร์กช็อปนั่นไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?
ถ้าบูทของเราไม่ได้ตั้งใกล้กันเกินไป เขาคงตัดสินใจไปแล้ว
สุดท้ายก็ล้มเลิกความคิด
มีโอกาสอื่นอีกไหมนะ
ตามกำหนดการคือต้องเสร็จงานก่อนสี่โมงเย็น
หลังทำเสื้อผ้าเสร็จ จะต้องให้นางแบบเดินโชว์อีก ชุดไหนได้ผลโหวตมากที่สุดจะชนะไป
และถ้าชุดทั้งสามของทุก ๆ คณะผู้แทนได้คะแนน เราก็จะมาตัดสินต่อว่าใครจะได้รับรางวัลใหญ่
ผู้จัดงานหัวหมอจริง ๆ รางวัลใหญ่คือออเดอร์มูลค่าสิบล้าน
คณะผู้แทนที่คว้าแชมป์จะได้เซ็นสัญญาซื้อขาย สำหรับผู้จัดงานแล้วถือว่ามีประโยชน์มาก
แต่ไม่ว่าอย่างไร แม้เป็นรางวัลเล็กเราก็ยังต้องตั้งใจกับสิ่งที่ทำอยู่ดี
ฟูจิวาระไม่สนใจอะไรแบบนั้นหรอก เพราะสิ่งสำคัญสำหรับเขาคือโอกาสจัดการพวกจีนต่างหาก!