เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 166 ถ่มน้ำลายใส่
บทที่ 166 ถ่มน้ำลายใส่
บทที่ 166 ถ่มน้ำลายใส่
ผู้ดูแลเฉียนหยิบกระดาษสองแผ่นออกมาจากกอง ก่อนจะถืออ่านในมืออยู่สักพัก
“กระดาษสองแผ่นนี้ไม่นับว่าดี เขียนไม่สวย แต่ตอบถูก และยังเสนอความคิดเห็นของตัวเองออกมาด้วย หาได้ยากมาก”
ทุกคนมองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ
ผู้ดูแลเฉียนโกหกใช่ไหม? แต่ว่าในฐานะผู้ดูแลของชุมชนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องพูดโกหกเลยนี่
“หัวหน้าซู ฉันไม่คิดเลยว่าสหายหญิงในชุมชนของคุณจะมีระดับการศึกษาด้านวัฒนธรรมแบบนี้!”
นี่เป็นคำชมที่สมบูรณ์แบบ แต่บางคนที่ได้ยินกลับไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้
ซูเสี่ยวฉินในตอนนี้กำหมัดแน่น ปลายนิ้วเปลี่ยนเป็นสีขาว เธอแทบจะระงับความโกรธในใจไว้ไม่อยู่แล้ว!
ไม่… เธอไม่ต้องการเห็นจุดจบแบบนี้
อะไรที่เธอไม่ได้ คนอื่นก็อย่าได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพวกคนบ้านซู
ถึงตำแหน่งจะถูกยึดคืนไป แต่เธอก็ไม่ยินดี
“ผู้ดูแลเฉียน บางทีข้อสอบอาจจะหลุดออกมาก่อนก็ได้ คนที่ไม่เคยเรียนมาก่อนจะได้คะแนนแบบนี้ได้อย่างไร”
ตอนนี้เธอแทบไม่สนใจสิ่งอื่นใด คิดแต่จะทำลายอนาคตของเหลียงซิ่วและฉีเหลียงอิงเท่านั้น
“ในความคิดของฉัน ต่อให้คำถามรั่วไหลออกมา แต่ถ้าเธอไม่รู้วิธีเขียนหรืออ่านก็ตอบไม่ได้ สาวน้อย วิธีการคิดของเธออันตรายมากเลยนะ!” ผู้ดูแลเฉียนเห็นเด็กคนนี้แล้วรู้สึกคุ้นเคยมาก แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
“ฉันไม่เชื่อ! ถ้าคุณให้คำตอบฉันล่วงหน้า ฉันก็ตอบได้อยู่แล้ว”
ไม่รู้ว่าใครเอ่ยขึ้นมากันแน่
ซูฉางจิ่วไม่คิดว่า ในเวลาแบบนี้ทุกคนยังคิดจะโวยวายอยู่
เขาเหลือบมองไปยังต้นทางของเสียง ก่อนจะพูดอย่างรังเกียจว่า “งั้นเดี๋ยวฉันพูดสักย่อหน้าแล้วให้คุณเขียนมา!”
น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีสักเท่าไร
เห็น ๆ กันอยู่ว่าตำแหน่งไม่มีอีกแล้ว ทำไมยังจะสร้างเรื่องอยู่อีก?
สมองพังไปแล้วหรือ?
คนผู้นั้นพึมพำเล็กน้อย ไม่กล้าสบตาหัวหน้าและไม่กล้าพูดด้วย
เธอพูดได้ แต่เธอเขียนไม่ได้
“สะใภ้หม่านหยวน เธอมาเขียนสักคำสองคำสิ ฉันจะเอากระดาษคำตอบแผ่นนี้ให้คุณเอง” ซูฉางจิ่วเรียกชื่อของสะใภ้หม่านหยวนอย่างเจาะจง
คนถูกเรียกจะมีหน้ากล้าออกไปได้อย่างไร แค่หวังจะซ่อนตัวอยู่ข้างหลังคนอื่นก็เท่านั้น
พอเห็นว่าแค่นี้ก็มีปัญหามากพอแล้ว ผู้ดูแลเฉียนจึงไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก เขาจึงเอ่ยปาก
“เอาล่ะ ๆ กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ สาวน้อย ต้องให้เธอบอกแล้วว่าทำไมผู้อำนวยการหลี่ถึงเลือกห้าคนนี้ออกมา!”
“เพราะเวลาพวกเขานวดแป้ง ไม่ได้ลงมือนวดเลยค่ะ แต่ล้างมือก่อนแล้วก็ตรวจดูความสะอาด จากนั้นค่อยเริ่มนวดค่ะ” เสี่ยวเถียนตอบอย่างมั่นใจ
ครั้นเสี่ยวเถียนเอ่ยขึ้น ทุกคนก็จำได้ว่าเป็นแบบนี้นี่เอง
“หมายความว่าอย่างไร?” มีคนพูดอย่างไม่เชื่อ
ไม่ใช่แค่นวดแป้งหรือไง? ทำไมต้องสนใจเรื่องพวกนี้ด้วย?
“ใช่ ๆ จะล้างหรือไม่ล้าง กินเข้าไปก็ไม่ป่วยหรอก แล้วจะไปล้างทำไม?”
ซูเสี่ยวเถียนมองสองคนนั้น นี่มันไร้เหตุผลเกินไปแล้ว!
“ผู้อำนวยการหลี่ ที่หนูพูดใช่หรือเปล่าคะ?” ซูเสี่ยวเถียนถามหลี่ฉางชิ่งด้วยรอยยิ้ม
อีกฝ่ายพยักหน้า “ใช่แล้ว สาวน้อยช่างสังเกตมากเลย!”
“แต่ฉันล้างมาจากบ้านแล้ว มือของฉันสะอาดมาก” ตอนนั้นเองที่มีคนคัดค้าน
ซูเสี่ยวเถียนมองไปที่เขาและใบหน้าที่ยื่นออกมา รอยยิ้มของเธอก็สดใสขึ้นเรื่อย ๆ
“นี่คือแป้งที่คุณนวดใช่ไหม? คุณดูสิคะ แป้งของแม่รองกับแม่ของหนูเป็นสีอะไร แล้วของคุณเป็นสีอะไร?”
แป้งก้อนนั้นแทบจะกลายเป็นสีดำแล้ว เอาอะไรมาพูดว่าล้างมือแล้วค่อยมาสอบล่ะ?
“ไม่ใช่แค่ไม่ล้างนะ คุณยังเกาเท้าแถมแคะขี้มูกอีก” ซูเสี่ยวเถียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
คำพูดพวกนี้ก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก แถมทุกคนก็ไม่คิดว่าผิดปกติด้วย แต่พอเสี่ยวเถียนเอ่ยออกมา สีหน้าทุกคนไม่ค่อยดีเลย
ตอนนวดแป้งทั้งเกาเท้าทั้งแคะขี้มูก ถ้าคนคนนี้ต้องไปที่โรงงานขนมไข่จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรแปลก ๆ อีกหรือเปล่า
ซูเสี่ยวฉินยืนขึ้น “ตอนฉันนวดแป้ง ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนี้เลยนะ”
“เธอไม่ได้ทำจริง ๆ” ผู้อำนวยการหลี่กล่าว
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของซูเสี่ยวฉิน เธอไม่ได้ทำแล้วทำไมถึงถูกคัดออก?
“แป้งที่นวดก็ไม่มีปัญหาด้วย ทั้งเนียนและเหนียว” ซูเสี่ยวฉินกล่าวต่อ
“เธอนวดแป้งได้เก่งจริง ๆ ดูออกเลยว่าเคยทำมาไม่น้อย!” แล้วก็ตอบอย่างไหลลื่นเหมือนเดิม
ซูเสี่ยวฉินเริ่มพึงพอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ อันที่จริงเธอปฏิบัติตามข้อกำหนดได้หมดเลย แล้วทำไมถึงถูกคัดออก?
ไม่ เธอไม่ยอมรับจุดจบแบบนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะต่อสู้เพื่อเพื่อให้ได้ตำแหน่งงานนั้นมา
“ถ้าผู้อำนวยการหลี่จะเรียกคืนตำแหน่งทั้งหมด ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่ถ้าตำแหน่งทั้งห้านี้ยังคงอยู่ แล้วให้คนพวกนั้นได้ตำแหน่งไป เช่นนั้นฉันมีสิทธิ์ที่จะขอหนึ่งตำแหน่ง!” เมื่อซูเสี่ยวฉินพูดแบบนี้ ท่าทีของเธอแข็งกร้าวมาก
เธออยู่อำเภอมานาน ตามติดเซี่ยงหงตลอด ไม่ได้เรียนรู้การพูดเลย แต่ท่าทางแข็งกร้าวกลับเรียนมาได้ดีมาก
“ตอนเธอนวดแป้ง เธอถ่มน้ำลายลงไปในแป้งที่กำลังนวด”
ถึงจะช่วงสั้น ๆ แต่หลี่ฉางชิ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เขาตกตะลึงมากที่เธอทำอย่างรวดเร็ว ทำไมถึงถ่มลงไปในนั้น แล้วคนอื่นจะกินได้อย่างไร?
ซูเสี่ยวฉินไม่คาดคิดว่าหลี่ฉางชิ่งจะเห็นการกระทำอันเล็กน้อยพวกนั้นของเธอ
เพราะการถ่มน้ำลายเป็นการกระทำที่ทำไปโดยจิตสำนึกแล้ว
เธอเรียนรู้นวดแป้งตั้งแต่หกขวบ แล้วก็ทำมาหลายปี
เพราะทุกครั้งที่ทำบะหมี่แป้งสาลี ที่บ้านก็จะยกบะหมี่แป้งสาลีให้หลานชายได้กินอย่างอิ่มหนำ แต่เธอกลับไม่ได้กินบะหมี่แป้งสาลีนั้นเลย
เธอไม่พอใจจึงพยายามหาทางระบายความอัดอั้นตันใจออกมา
เมื่อได้ถ่มน้ำลายลงไปครั้งแรกแล้วก็เสพติดจนกลายเป็นนิสัย
วันนี้ที่นวดแป้ง ทีแรกไม่คิดจะทำ แต่เพราะจิตใต้สำนึกเลยถ่มน้ำลายลงไป
“นังตัวหลอกลวง แกถ่มน้ำลายใส่อาหารที่ทำให้พวกเราด้วยใช่ไหม?” หลิวซิ่วอิงตะคอกแล้วพุ่งเข้าไปหาซูเสี่ยวฉิน ก่อนจะเหวี่ยงฝ่ามือขนาดใหญ่เท่าพัดฟาดลงไปที่ซูเสี่ยวฉินอย่างไม่ยั้งมือ
แค่คิดว่าบะหมี่ที่กินมาหลายปีผสมกับน้ำลายของเสี่ยวฉินก็รู้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว
ต้องตบหลาย ๆ ที จะได้ระบายความอัดอั้นตันใจที่มีทั้งหมดออกมา
“นังตัวดี แกกล้าทำกับแป้งสาลีอย่างนี้หรือ! คอยดูยายแก่คนนี้ตบแกจนตายได้เลย!”
ความสามารถในการต่อสู้ของหลิวซิ่วอิงไม่ได้อ่อนด้อย โดยเฉพาะเวลาเผชิญหน้ากับซูเสี่ยวฉิน เธอมีพลังอย่างมาก
ซูเสี่ยวฉินชินกับการถูกตบตีแล้ว เธอคิดว่าตัวเองอยู่ในอำเภอตั้งนานจะแข็งแกร่งขึ้น แต่ไม่คิดว่าตอนนี้ก็ยังถูกตบตีอีก