เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 169 ชอบฉืออี้หย่วน
บทที่ 169 ชอบฉืออี้หย่วน
บทที่ 169 ชอบฉืออี้หย่วน
ความคิดของซูเสี่ยวฉินบิดเบี้ยวไปนานแล้ว เธอคิดว่าถ้าตัวเองไม่มีชีวิตที่ดี คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มี
แต่กลับมีซูเสี่ยวเถียนที่ชีวิตสุขสบายมากในชุมชนการผลิตหงซิน
เด็กคนนี้เป็นที่รักของคนในบ้าน ปู่รัก ย่าเอ็นดู ถูกเหล่าพี่ ๆ ห้อมล้อมหวงแหน เป็นเป้าหมายและความอิจฉาริษยาของเสี่ยวฉิน
หลายครั้งที่เธอเห็นซูซื่อเลี่ยงกับซูซานกงวิ่งขึ้นเขาโดยแบกเสี่ยวเถียนไว้บนหลังและหัวเราะอย่างร่าเริงไปตลอดทาง ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะใส
เธออิจฉา อึดอัดจนหัวใจแทบจะระเบิดออก
พวกเธอเป็นพี่สาวน้องสาวกัน แต่ทำไมเสี่ยวเถียนถึงมีความสุขแบบนี้?
“โตจนป่านนี้แล้วยังต้องให้คนแบกอีก!”
“หน้าด้าน พวกชีวิตทุนนิยมแท้ ๆ!”
“คนแบบนี้สมควรโดนทุบตีนัก”
ซูเสี่ยวฉินที่แอบอยู่บริเวณมุมอับ สาปแช่งเสี่ยวเถียนอย่างบ้าคลั่ง
แต่ว่าสิ่งที่เธอสาปแช่งล้วนไม่มีเหตุผล กลับกันแล้วทำให้เห็นอีกว่าฉืออี้หย่วนเอ็นดูซูเสี่ยวเถียนมากเท่านั้น
อันที่จริงซูเสี่ยวฉินเองก็ชอบฉืออี้หย่วน และอีกฝ่ายยังมาจากเมืองหลวง
เด็กหนุ่มที่โตมาอย่างงดงาม หล่อเหลาเอาการ นิสัยดั่งสายลมหนาวและพระจันทร์สุกสกาว มีคนแบบนี้อยู่ในหมู่บ้าน จินตนาการถึงความประหลาดใจที่โดนดึงดูดได้เลย
คนที่มีการศึกษาของชุมชนเคยพูดไว้ว่า คำสรรเสริญบนโลกใบนี้ไม่พอที่จะบรรยายความงดงามฉืออี้หย่วนได้เลย
และสิ่งที่ผู้หญิงธรรมดาพวกนั้นฝันถึง ก็คือฝันถึงฉืออี้หย่วน
แต่เด็กหนุ่มคนนี้ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเย็นชา
ทว่ากลับกำลังยิ้มขณะมองซูเสี่ยวเถียน
ซูเสี่ยวฉินเห็นอีกฝ่ายแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นให้เด็กคนนั้นก็พลันรู้สึกอึดอัด
ฉืออี้หย่วนไม่เต็มใจที่จะคุยกับผู้อื่นเพราะถือตัว และเพราะเขาไม่ชอบคนพวกนี้
ทำไมล่ะ? คนอย่างเขามีสิทธิ์อะไรมาไม่ชอบพวกเขาที่เป็นชาวนายากจนแปดชั่วอายุคน?
ถึงจะมาจากเมืองหลวง แต่อาศัยอยู่ในชนบทมาหลายปีแล้วนี่ แล้วทำไมถึงอยู่อย่างสุขสบายนัก?
เพราะการดูแลเอาใจใส่ของซูเสี่ยวเถียน!
ถูกต้อง เธอมองออกถึงความเอาใจใส่ของเด็กคนนั้น
ครอบครัวของทั้งคู่ก็ใกล้ชิดกันมาก ทั้งยังเรียกคุณปู่คุณย่าอย่างสนิทสนม
เป็นไปได้อย่างไร?
ตอนแรกซูเสี่ยวฉินคิดว่าความสัมพันธ์ของสองครอบครัวนี้ไม่ชัดเจน เพราะรายงานไปก็ไม่ได้ตรวจสอบอะไร
เธอต้องการทำให้ทุกอย่างเป็นระบบระเบียบ เธอต้องทุบฉืออี้หย่วนให้แหลกเป็นผุยผง ให้ความภาคภูมิใจทั้งหมดของเขาหายไปเลย
เธอยังต้องการให้ซูเสี่ยวเถียนรู้ว่ามีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการเป็นมิตรกับคนแบบนี้
ซูเสี่ยวฉินไม่ยอมรับว่าเธอมีความคิดที่อิจฉาซูเสี่ยวเถียนกับฉืออี้หย่วน และคิดว่าตัวเองค่อนข้างมีความยุติธรรม
เพราะแบบนี้จึงลอบสังเกตพวกซูเสี่ยวเถียน
และมันทำให้เธอเห็นจริง ๆ ว่าพวกซูเสี่ยวเถียนที่ขึ้นเขาไปทุกวันได้ของบางกลับอย่างมาด้วย
ข้าวของที่หามาได้จากบนภูเขามีแต่ของดี ๆ ทั้งนั้น ทำเอาเธออิจฉาตาร้อน ทั้งยังพยายามไปหาด้วยตัวเองแต่กลับมามือเปล่าเสมอ
เพราะเอาแต่อยู่บนเขาทุกวัน และยังกลับมามือเปล่าให้ทำถูกผู้เป็นย่าตบตีและดุด่าอยู่บ่อยครั้ง
แต่เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าบนเขามันมีอะไรให้กินหรือใช้เงินแลกได้
ซูเสี่ยวฉินคิดว่าตัวเองแอบทำทุกอย่างด้วยความแนบเนียน แต่ไม่รู้เลยว่าซูเสี่ยวเถียนรู้ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายเริ่มลอบสังเกตแล้ว
แล้วเธอรู้ได้อย่างไรน่ะหรือ?
ยังต้องถามอีกหรือไง? มันก็ต้องเป็นต้นไม้ที่บอกอยู่แล้ว
ซูเสี่ยวเถียนแอบคุยกับต้นไม้ว่า ถ้ารอบตัวเธอมีคนเจตนาร้ายคอยจ้องมองอยู่ก็ให้บอกกับเธอในทันที
เธอรู้สึกรำคาญกับการลอบสังเกตของเสี่ยวฉิน แต่ก็ไม่อยากทำให้เกิดความขัดแย้ง ตอนนี้เลยรู้สึกหดหู่ใจมาก
พอเห็นเด็กหญิงไม่มีความสุข ฉืออี้หย่วนจึงสานหญ้าเป็นตั๊กแตนให้เธอเล่น
“เสี่ยวเถียน น้องดูสิ ตั๊กแตนตัวนี้ไม่สวยหรือ?” ฉืออี้หย่วนถือตั๊กแตนที่เหมือนจริงไว้ในมือแล้วห้อยลงตรงหน้าเธอ
ซูเสี่ยวเถียนถูกตั๊กแตนสานตัวนี้ดึงดูดจริง ๆ
“พี่อี้หย่วนสานเองหรือคะ? สวยมากเลย มันเหมือนกับมีชีวิตเลยค่ะ” ใบหน้าของซูเสี่ยวเถียนประดับไปด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม
เด็กหนุ่มยิ้ม “ใช่แล้ว ชอบไหม?”
“ชอบค่ะ ชอบมากเลย พี่อี้หย่วน พี่สานสัตว์ตัวอื่น ๆ ได้ไหมคะ?”
“ได้สิ น้องชอบอะไร พี่จะสานให้เล่นเอง” น้ำเสียงของฉืออี้หย่วนเต็มไปด้วยความเอ็นดู
“หนูอยากได้กระต่ายน้อยค่ะ หมาน้อย ไก่น้อยด้วยค่ะ พี่อี้หย่วนสานอะไรมาให้หนูก็ชอบหมดค่ะ หนูจะเอากล่องมาใส่ให้หมดเลย!”
ฉืออี้หย่วนบีบจมูก “เป็นเด็กที่โลภจริง ๆ อยากได้เยอะจังเลยนะ!”
ซูเสี่ยวเถียนยิ้ม “หนูรู้ว่าพี่อี้หย่วนเก่ง อะไรก็ทำได้ค่ะ!”
โดนสาวน้อยชมแบบนี้ เขามีความสุขเหลือเกิน
ว่าจบก็เหลือบมองไปตรงจุดหนึ่งไม่ไกล
สายตาของซูเสี่ยวฉิน เห็นแค่แวบเดียวก็ทำหัวใจสั่นไหว
ซูเสี่ยวฉินไม่เคยพูดมาก่อนว่าชอบฉืออี้หย่วน แต่ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่หงซินไม่ได้เข้าใกล้กันมากเกินไปเพราะสถานะของเด็กหนุ่ม
หลังจากไปอำเภอก็คิดว่าในเมืองจะมีเด็กหนุ่มที่ดูดีกว่าฉืออี้หย่วน แต่พอไปจริง ๆ ถึงได้รู้ว่าไม่มีใครเทียบได้เลย แต่คนที่เธอแอบชอบ ในสายตาของเขาดันมีแต่ซูเสี่ยวเถียน
เธอรับไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!
ถึงเธอจะรับไม่ได้ ซูเสี่ยวเถียนก็ไม่อยากให้รับได้เช่นกัน
แต่ถ้าทำลายซูเสี่ยวเถียนไม่ได้ แต่เธอทำลายฉืออี้หย่วนได้
ใบหน้าของซูเสี่ยวฉินเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ฝ่ามือกำมือแน่นราวกับว่าตัดสินใจบางอย่างได้
ซูเสี่ยวเถียนกับคนอื่น ๆ ไปขึ้นเขาทุกวัน และระมัดระวังมากกว่าเดิม หลังจากพบของดี ๆ จะไม่ขนมันลงไปทันที แต่จะหาที่ซ่อนเพื่อเก็บมันไว้ก่อน แล้วให้พี่ชายทั้งสามของบ้านซูเป็นคนมาขนในตอนกลางคืน
แบบนี้แล้วซูเสี่ยวฉินก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอีก และคิดว่าก่อนหน้านี้เสี่ยวเถียนแค่โชคดีที่หาของได้มาก และจะต้องไร้ค่าแน่ ๆ
“พี่อี้หย่วน หนูคิดว่าช่วงนี้ซูเสี่ยวฉินมีบางอย่างผิดปกติ พี่ต้องระวังด้วยนะ” ซูเสี่ยวเถียนพูดกับคนเป็นพี่อย่างเคร่งขรึมหลังจากเรียนเสร็จ
เขามองท่าทางจริงจัง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “สาวน้อยคนนี้ ยังมองออกถึงความผิดปกติของคนอื่นด้วยหรือ?”
ซูเสี่ยวเถียนขมวดคิ้ว “รู้สิคะ พี่ต้องฟังหนูนะ หนูว่าเธอจะจัดการกับพี่แน่”
เขาไม่สงสัยในสิ่งที่ซูเสี่ยวเถียนพูดเลย
เพราะอย่างไรเสีย แม้แต่คนที่ใจดีด้วย เสี่ยวฉินก็ยังไปรายงานได้เลย นับประสาอะไรกับเขา!
“พี่เข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ พี่จะปกป้องตัวเอง แล้วก็ปกป้องพวกคุณปู่ให้ดีเลย”
หลังจากได้ยินการรับประกัน เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้น
“ช่วงนี้จะไม่ส่งของดี ๆ ไปให้ก่อนนะคะ รอผ่านไปสักพักค่อยว่ากันค่ะ”