เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 196 พวกคุณทะเลาะกันทำไม
บทที่ 196 พวกคุณทะเลาะกันทำไม?
cw // เนื้อหาในตอนนี้มีพฤติกรรมของตัวละครที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากมีความคิดและพฤติกรรมที่ผิดปกติทางจิต ซึ่งตัวละครนี้เป็นโรคใคร่เด็ก (Pedophilia) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
บทที่ 196 พวกคุณทะเลาะกันทำไม?
ซูเถาฮวาเป็นสตรีแกร่งตอนยังสาว อันที่จริงเธอมีพละกำลังมาก
แต่หลี่จื่อกั๋วเป็นผู้ชาย ความแข็งแกร่งมีไม่น้อย เถาฮวาไม่อาจขวางเขาได้สำเร็จ
แม้ว่าชายมากตัณหาจะไม่อาจปรามเถาฮวาได้ แต่ก็ดึงแขนเสี่ยวเถียนไว้ได้
“ปล่อยนะ แกปล่อยฉันนะ ไอ้คนเลว! แกมันคนเลว!”
บางทีคงเป็นเพราะหวาดกลัวเกินไป เสี่ยวเถียนจึงเปล่งเสียงออกมาในโดยฉับพลัน และเสียงนั้นเสียดแทงหัวใจเหลือเกิน
เส้นทางนี้ไม่ใช่ถนนตรง ถึงข้าวโพดสองข้างทางจะบังร่างคนได้ แต่ยังได้ยินเสียงอยู่ดี
อย่างที่คิด ในไม่ช้าก็มีคนมาจริง ๆ
ไม่ใช่ใครอื่นนอกไปจากเสิ่นจื่อเจิน
พอกินข้าวเสร็จ ก็นึกได้ว่าใบข้าวโพดในไร่สองต้นเริ่มแห้งโดยไม่ทราบสาเหตุ เลยคิดว่าจะมาดูสักหน่อย
คนในหงซินปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี เขาจึงหวังจะทำเพื่อหงซินได้มากขึ้น
ใครจะรู้เล่าว่าได้ยินเสียงเสี่ยวเถียนพอดี
มาถึงหงซินตั้งนานแล้ว และเสิ่นจื่อเจินก็ปฏิบัติต่อซูเสี่ยวเถียนเหมือนลูกของตัวเอง เขารีบไปทันทีเหมือนได้ยินเสียงของเด็กหญิง
“แกเป็นใคร แล้วกำลังทำอะไรกันแน่?” เสิ่นจื่อเจินตะโกน ก่อนจะขวางอยู่เบื้องหน้าเถาฮวาและเสี่ยวเถียน
ครั้นเห็นผู้ชายคนหนึ่งมา หลี่จื่อกั๋วก็รู้แล้วว่าวันนี้คงไม่ได้ทำอะไรจึงคิดจะจากไป
แต่เสิ่นจื่อเจินเห็นซูเสี่ยวเถียนร้องไห้อย่างน่าสงสารก็ปวดใจมาก และไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยอีกฝ่ายไป
พอถูกหยุดไว้ ใบหน้าชายมากตัณหาเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ เขาจะจัดการกับชายคนนี้อย่างไรดี
เขามาจากอำเภอนะ จะกลัวพวกขาจุ่มโคลนได้อย่างไร?
ทั้งผู้หญิงและผู้ชายคนนี้ จะไม่ปล่อยไว้สักคน
“แกอยู่ชุมชนไหน? ทำไมต้องมาขวางผู้หญิงกับเด็กไว้ด้วย?” เสิ่นจื่อเจินถาม
หลี่จื่อกั๋วร้องเหอะ “ถ้ารู้แล้วก็ไปซะ ไม่งั้นฉันจะทำให้แกกลายเป็นพวกกินไม่หมดแอบเอากลับบ้านแน่*[1]”
เสิ่นจื่อเจินยืนกรานไม่ไปไหน
ใบหน้าของหลี่จื่อกั๋วยิ่งดำมืด ไอ้คนผู้นี้มันดื้อรั้นไม่ยอมไปไหนโดยแท้
“เชื่อไม่เชื่อ พรุ่งนี้จะจับแกมาเดินประจาน!”
พอพูดเช่นนี้ เสี่ยวเถียนก็รู้สึกว่าร่างกายของเสิ่นจื่อเจินแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด
ก่อนที่จะมาหงซิน อีกฝ่ายทนทุนข์มามากมาย แล้วโดนจับเดินประจานไปตามท้องถนน รวมถึงล้างห้องน้ำอะไรพวกนี้ด้วย
เธอกังวล กลัวว่าอีกฝ่ายจะกลัวแล้วจากไป
เถาฮวาก็รู้สึกเช่นกัน กลัวว่าเสิ่นจื่อเจินจะจากไปหลังจากได้ยินคำขู่ของหลี่จื่อกั๋ว
หากเจ้าตัวไป เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนเดียว และเสี่ยวเถียนที่เป็นเด็กคงไม่อาจต่อกรกับชายเบื้องหน้าได้แน่
“อาจารย์เสิ่น…” ซูเถาฮวาทนไม่ไหวจนตะโกนออกมา
แค่ประโยคเดียวได้เผยตัวตนของเสิ่นจื่อเจิน
ตั้งแต่ที่หลี่จื่อกั๋วมาที่หงซิน แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ได้เข้าใจถึงข้อมูลของหงซินมาก่อน
แต่สองสามวันนี้ยุ่งมาก เลยไม่ได้สนใจทักทายพวกไอ้แก่ตายยาก ใครจะรู้เล่าว่าอีกฝ่ายจะมาหาถึงประตูบ้านเลย
ก่อนที่จะมา มีคนที่ได้บอกไว้เป็นพิเศษให้เขาดูแลคนพวกนี้ให้ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสกุลเสิ่นที่อยู่เบื้องหน้า เขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มาจากเมืองหลวง
ตอนนั้นเองที่มุมปากหลี่จื่อกั๋วมีรอยยิ้มเย็น
ไม่ต้องไปหาเลย เพราะเจ้าโง่เง่ามันมาหาถึงที่
“ดีจังเลย ที่แท้ก็อยู่บ้านเล็กท้ายหมู่บ้านนี่เอง ฉันขอให้แกไว้หน่อยแล้วกัน ถ้าอยู่ได้ไม่ถึงสามวันอย่ามาโทษฉันแล้วกัน!”
ตอนเขาพูดน้ำเสียงไม่ได้สูงแต่คำขู่หนักแน่นมาก มันหนาวเย็นจนทำให้คนฟังอึดอัดเหลือทน
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายผู้ไม่สนร้อนสนหนาวที่อาศัยอยู่ในคอกวัวจะไม่กลัวคำขู่เช่นนี้
เสิ่นจื่อเจินตอนนี้ตัวสั่น ที่จริงผิวเขาซีดลงเยอะ
เขารู้ว่าหลี่จื้อกั๋วหมายถึงอะไร เพราะเคยถูกทรมานแบบนั้นมาก่อน
ความเจ็บปวดเสียดแทงและความทรมานที่มาจิตวิญญาณทำให้เขารู้สึกอนาถจนแทบสิ้นใจ
เขาอยากให้ตัวเองตกอยู่ในความเจ็บปวดเช่นนี้อีกครั้งกับการเข้าไปยุ่งในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองจริง ๆ เหรอ?
สำหรับเสิ่นจื่อเจิน การตัดสินใจแบบนี้มันยากเกินไป!
แต่พอมองคนทั้งสองที่อยู่ข้างกาย เขารู้สึกผิดที่คิดเช่นนี้
ตั้งแต่มาถึงหงซิน เสี่ยวเถียนช่วยเขาไว้ไม่น้อย
คนบ้านซูช่วยเหลือเขาไว้มากเหลือเกิน
และคนหงซินก็จิตใจดีกันทั้งนั้น ทุกคนต่างมีหัวใจที่ภักดีต่อการปฏิวัติวัฒนธรรม
ถ้าทรยศพวกเขา เสิ่นจื่อเจินคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
แล้วถ้าเขาทรยศคนแบบนี้ จะไปแตกต่างจากภรรยาและลูกชายลูกสาวได้อย่างไรที่ทำไปเพราะเห็นแก่ตัวเองน่ะ?
แบบนี้เขาจะยังนับว่าเป็นมนุษย์อีกไหม?
ในหัวมีความคิดมากมาย อันที่จริงมันก็แค่ชั่วพริบตาเท่านั้น
ในขณะที่เห็นคนข้างกายทั้งสองหน้าซีดเผือด ในที่สุดก็เลือกในสิ่งที่ผู้ชายควรทำ
ตอนนี้เขาควรปกป้องพวกเธอต่อให้ต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม
“ฉันไม่สนใจแกหรอก แกต่างหากที่ต้องไป!” เสิ่นจื่อเจินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูด
เขาหวังว่าคนตรงหน้าจะเลือกจากไปด้วยความสมัครใจเพราะรู้สึกผิด นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
แต่เห็นชัดว่าเสิ่นจื่อเจินไม่รู้จักหลี่จื่อกั๋วดีเท่าไร
เพราะอีกฝ่ายคิดว่าตนไม่มีอะไรต้องกลัว คนอยู่แค่ปลายนิ้วจะปล่อยไปได้อย่างไร?
เขามองเสิ่นจื่อเจินด้วยสายตาดำมืด แค่คนที่อยู่คอกวัวคนเดียวยังกล้าหาญขนาดนี้
ก่อนจะมองเสี่ยวเถียนอีกครั้ง
เด็กคนนี้หายากมาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเอามาให้ได้
ถ้าวันนี้พลาด เธอจะต้องระวังตัวแน่นอน และจากนี้ไปโอกาสก็มีไม่มากแล้ว
ต้องบอกเลยว่าหลี่จื่อกั๋วตอนอยู่อำเภอทำตามอำเภอใจมาก
ถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ยอมแพ้
เสิ่นจื่อเจินมองเห็นเป้าหมายและรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมรามือง่าย ๆ
ตอนนั้นเสิ่นจื่อเจินคิดว่าคนที่หลี่จื่อกั๋วอยากจะล่วงเกินคือซูเถาฮวา
ถึงจะไม่สนิทกันมาก แต่เขาไม่เต็มใจจะเห็นเธอลำบาก
เขาทำมือส่งสัญญาณให้เถาฮวาพาเสี่ยวเถียนไปตามหาคน
หลี่จื่อกั๋วเห็นผู้หญิงทั้งสองหมุนตัวหมายจะเดินไปก็รีบเข้าไปจับไว้
เสิ่นจื่อเจินพุ่งเข้าไปเช่นกัน แล้วกอดเอวชายมากตัณหาอย่างแรง
เถาฮวาคิดจะพาหลานไปทันที แต่เพียงชั่วครู่ก็พบว่าคนที่มาช่วยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่จื่อกั๋วเลย
แค่การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เสิ่นจื่อเจินก็กลายเป็นผู้ที่ถูกกระทำ!
ต้องบอกเลยว่าถึงหลี่จื่อกั๋วจะดูอ่อนโยน แต่ไม่ว่าจะเป็นจิตใจหรือทักษะร่างกายเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย
อันที่จริงเขาเป็นพวกลงมือได้โหดเหี้ยม และเสิ่นจื่อเจินเป็นบัณฑิตที่อ่อนแอจริง ๆ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอก
ซูเถาฮวามองหลี่จื่อกั๋วชกไปหลายครั้ง แล้วปากของเสิ่นจื่อเจินก็มีเลือดออกไหลออกมา
ถึงจะโดนต่อยและก็โดนแรงมาก แต่เสิ่นจื่อเจินก็ยังคงกอดเอวหลี่จื่อกั๋วไว้แน่น ไม่ปล่อยออกไปเลย
“รีบไปซี่!” พอเห็นหญิงทั้งสองยังยืนอยู่เขาก็ตะโกนสามคำนี้ออกอย่างหดหู่
เขารู้ว่าจะทนไว้ได้อีกไม่นาน เพราะไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกฝ่ายเลย
แต่ตอนนี้เถาฮวากลับก้มหัวลงพูดกับหลานแทน “เสี่ยวเถียน กลับบ้านไปตามคนมาซะ ป้าจะช่วยอาจารย์เสิ่น!”
เพื่อช่วยพวกเธอแล้ว เถาฮวาทนมองอีกฝ่ายโดนต่อยจนบาดเจ็บไม่ได้จริง ๆ
ว่าจบ เถาฮวาก็พุ่งเข้าไป ฝ่ามือของเธอกำหมัดแน่นแล้วต่อยเข้าใส่หลี่จื่อกั๋วเลย
เสี่ยวเถียนเพิ่งตอบสนองได้ เธอรีบก้าวขาวิ่งกลับไปที่บ้านทันที
เธอต้องหาใครสักคนโดยเร็ว ป้าเถาฮวากับลุงเสิ่นไม่สามารถเอาชนะไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ได้แน่
ถ้าตนเองวิ่งช้า ป้าต้องทุกข์ทรมาณ และลุงก็อาจจะโดนต่อยจนตายก็ได้
เธอเพิ่งวิ่งไปได้ไม่ไกล เบื้องหน้าก็มีกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่ง
คนที่นำมาคือหัวหน้า ตามด้วยคนอีกไม่น้อยเลย แล้วก็มีซูเหล่าซาน พ่อแท้ ๆ ของเธอด้วย
เสี่ยวเถียนร้องไห้โฮก่อนจะโดดเข้าใส่อ้อมแขนของพ่อ
ซูฉางจิ่วคิดจะถาม แต่เห็นหลานสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นหนัก
“นี่มันอะไรกัน?” ซูฉางจิ่วเอ่ยดุ ๆ
ได้ยินคนบอกว่าฝั่งนี้มีเรื่องเกิดขึ้นเลยรีบพาคนมาดู แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากที่เห็นคนที่โดนเถาฮวาต่อย คิ้วของเขาก็กระตุก
มาต่อยคนจากคณะทำงานแบบนี้ได้อย่างไร? ทำได้อย่างไร?
และในตอนที่เห็นว่าคนที่โดนต่อยอีกคนทั้งยังอยู่ใต้ร่างหลี่จื่อกั๋วคือเสิ่นจื่ออันด้วย ซูฉางจิ่วรู้สึกว่าวันนี้คงจบลงแล้ว
คนชนบททะเลากับคนเมือง ไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด แต่คนชนบทต้องเสียเปรียบเนี่ยสิ
อันที่จริงแค่ไม่ระวังคนเดียวก็สายเกินแก้แล้ว
แต่เสิ่นจื่อเจินเป็นคนดีจริง ๆ นะ และเขาไม่อยากให้เจ้าตัวมีปัญหาด้วย
แต่เถาฮวาเนี่ยสิ ทำไมต้องไปต่อยกับพวกเขาด้วย?
อายุเท่าไรแล้ว? อารมณ์ร้ายแบบนี้ยังไม่เปลี่ยนอีกหรือ!
ซูฉางจิ่วรู้สึกขมขื่นเหลือเกิน
ไม่ว่าจะทุกข์แค่ไหนก็ต้องทำในสิ่งที่ควรทำ
“สหายหลี่ เถาฮวา เสิ่นจื่อเจิน พวกคุณทะเลาะกันทำไมเนี่ย? เกิดอะไรขึ้น?”
ไม่รอให้อีกสองคนตอบ เถาฮวาก็พูดทันที แต่สิ่งที่กล่าวออกมาทำคนประหลาดใจมากจนไม่อยากจะเชื่อ
*[1] จะทำเรื่องอะไรอย่าลืมคำนึงถึงผลที่ตามมา