เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 319 รับไม่ได้
บทที่ 319 รับไม่ได้
บทที่ 319 รับไม่ได้
เดิมทีเธอไม่ใช่คนโผงผาง แต่หลายปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในหงซิน เธอเห็นความใจดีและความเกลียดชังของผู้หญิงบ้านนอกจนชิน เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
แต่ไม่คิดเลยว่าทำไมสามีภรรยาตรงหน้าจะมีความคิดเลวทรามขนาดนี้?
“ไอ้พวกสัตว์เดรัจฉาน คิดจะเอาทรัพย์สมบัติของเราไม่พอยังจะให้พวกเราอดตายอีกหรือ?”
อวี่รุ่ยหยวนที่เป็นคนอ่อนโยนกลับโมโหขึ้นมาเสียแล้ว เธอหาไม้กวาดอันใหญ่แล้วฟาดใส่ตู้เทียนเหอ
ตู้เทียนเหอวิ่งหนีทั้งยังไม่ลืมตะโกนใส่พี่ชายไปด้วย “นี่พี่เอาแต่มองภรรยาตีผมหรือ? พวกเราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่หรือไง?”
คนเป็นพี่ได้ยินก็ยิ้มเย็น “พี่น้องอะไร แม่มีฉันแค่คนเดียว แต่แกไม่ใช่น้องชายของฉัน แกเป็นลูกของศัตรูฉัน!”
พอตู้ถงเหอพูดเช่นนี้ แม้แต่อวี่รุ่ยหยวนก็ยังตกใจ ไม้กวาดอันใหญ่ในมือร่วงลงทันที
ส่วนตู้เทียนเหอกระสับกระส่ายมาก เขาโซเซจนเกือบล้มลง
“พี่… พี่พูดอะไร ผม… ผมไม่เข้าใจ!”
ว่าจบก็ยื่นหน้ายื่นตาพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น
แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน แต่สายตากลับทรยศตัวเอง
ตู้ถงเหอจ้องมองน้องชาย แววตาเย็นเยือกลงเรื่อย ๆ
ตู้เทียนเหอรู้เรื่องนี้แล้วสินะ!
รู้แล้วจริง ๆ ด้วย
ก็ใช่น่ะสิ ถ้าเกิดจากแม่เดียวกันก็ต้องมีนิสัยร้ายกาจเหมือนกันแล้ว และเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?
“ฟังเข้าใจก็ดี ไม่เข้าใจก็ดี เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว คนร้ายกาจคนนี้ก็ตายไปแล้วด้วย!” ตู้ถงเหอพูดอย่างเย็นชา
เขาไม่รู้เรื่องนี้เลยจนกระทั่งโตขึ้น แม่ของเขาไม่ได้ป่วยตาย แต่โดนแม่ของตู้เทียนเหอวางยาพิษ
แม่ของตู้ถงเหอเป็นภรรยาหลวง ส่วนแม่ของตู้เทียนเหอก็เป็นแค่ภรรยาน้อยที่ไม่คู่ควร
น่าเสียดายที่พอรู้เรื่องนี้ แม่ตู้เทียนเหอ ผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นก็ตายไปแล้ว
เหตุการณ์นี้กลายเป็นความเสียใจที่ฝังแน่นอยู่ในใจของเขา
หลายปีมานี้ เขาเสียใจเสมอมาที่ไม่สามารถจัดการศัตรูและล้างแค้นให้แม่เขาได้ แต่ก็ยังเกลี้ยกล่อมตัวเองอยู่หลายครั้งตั้งแต่ที่พ่อแม่จากไป และเหตุการณ์ในอดีตพวกนนั้นก็เหลือเพียงฝุ่นผง
แต่ใครจะรู้เล่าว่าตู้เทียนเหอกลับมีความทะเยอทะยานมากเสียจนอยากจะครอบครองทรัพย์สมบัติของบ้านเขา ขณะเดียวกันก็คิดจะทำให้เราสองคนหิวจนตายด้วย!
“ตู้เทียนเหอ ฉันคิดมาตลอดว่าแกมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน และวันนี้ก็เพิ่งรู้ด้วยว่าการที่เรียกแกแบบนั้นเป็นการดูถูกสัตว์เดรัจฉานมาก!”
ตู้ถงเหอหัวเราะด้วยความโกรธ ตอนที่ก่นด่า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่มันเป็นรอยยิ้มที่อ้างว้างเหลือทน
อวี่รุ่ยหยวนไม่สนใจที่จะเอาชนะตู้เทียนเหออีกต่อไป เธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อประคองสามี
“ตาเฒ่าใจเย็น ๆ นะ ไม่ต้องไปสนใจคนพวกนี้แล้ว จากนี้ไปอย่าให้คนพวกนี้มาบ้านเราอีก”
ถ้าปล่อยให้คนที่มีความคิดชั่วร้ายแบบนี้อยู่แล้วยังไม่คิดจะจัดการ พวกเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว
แต่ถ้าหลังจากนี้จะอยู่ให้ห่างจากคนพวกนี้ก็ไม่ผิดหรอก
“เสี่ยวเถียน ลำบากหลานแล้ว โยนผู้หญิงคนนี้ออกไปที” ตู้ถงเหอพูดด้วยความเหนื่อยหน่าย
เสี่ยวเถียนได้ฟังก็เกือบจะเข้าใจเป็นส่วนใหญ่แล้วถึงความบาดหมางของตระกูลตู้ที่มีมา เป็นอย่างที่ว่า…
พูดขึ้นมา ชีวิตคุณปู่ตู้ก็อาภัพจริง ๆ
เธอคิดมาตลอดเลยว่าเขาเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย หลายสิบปีมานี้น่าจะต้องมีความสุขบ้าง แต่วันนี้เธอได้ยินมันหมดแล้ว
ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมตู้ถงเหอและอวี่รุ่ยหยวนถึงคิดอุปการะเด็กผู้หญิงจากชนบทมาเป็นหลานมากกว่าจะเลือกเด็กจากตระกูลเดียวกัน
ตระกูลที่มีสัตว์เดรัจฉานแบบนี้ไม่มีทางเลี้ยงลูกออกมาได้ดีหรอก
ถึงจะรับไว้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากเลี้ยงงูเห่า!
ปกติแล้วเสี่ยวเถียนพูดเรื่องนี้ในใจนะ เธอไม่เคยพูดออกมาอย่างชัดเจน
“ได้ค่ะคุณปู่!” เสี่ยวเถียนลากหม่าซ่านฟางที่จับออกไปพร้อมกัน
“พวกแกมันไร้ความปรานีแล้วยังให้คนโยนฉันออกไปอีก พวกแกมันไม่ใช่มนุษย์ อวี่รุ่ยหยวน ตู้ถงเหอ พวกแกไม่ตายดีแน่!” หม่าซ่านฟางดิ้นรนสุดชีวิต
ไม่รู้ว่าเพราะคิดว่าตนไร้ความหวังหรือเปล่า จึงพูดออกมาหมดเปลือก
“คุณยังอยากตบตีอยู่อีกหรือเปล่า?” เสี่ยวเถียนพูดเสียงหวานเหมือนเคย แต่สำหรับหูของหม่าซ่านฟางแล้ว เสียงนั้นมันน่าสะพรึงกลัวเหมือนเสียงมารร้าย
“คุณปู่ตู้ แล้วคนพวกนี้จะทำยังไงครับ?”
เสี่ยวซื่อลับมีดรอเชือดและชี้ไปที่พวกตู้เทียนเหอกับหลาน ๆ ที่พามา
ตอนนี้หญิงชราผู้ทรยศถูกโยนออกไปแล้ว คนพวกนี้ยังจำเป็นอีกหรือ?
เสี่ยวเถียนลำบากมาครึ่งค่อนวันแล้ว ยังรอให้เสี่ยวเถียนจัดการคนพวกนี้อีกหรือ?
“ลำบากพวกหลานแล้วที่โยนพวกเขาออกไป!” คราวนี้เป็นอวี่รุ่ยหยวนที่พูด
ทำไมหญิงชราจะไม่รู้ว่าสามีของเธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความชอบธรรมมากแค่ไหน เขาจึงอดไม่ได้ที่จะโยนน้องชายออกไป
จะปล่อยให้คนร้าย ๆ แบบนี้มาทำดีได้อย่างไร?
ส่วนหลานบ้านซูไม่ใช่กระต่ายขาวตัวน้อย พอหญิงชราออกคำสั่งก็ลงมือทันที เริ่มจากโยนตู้เทียนเหอ และพวกหลาน ๆ ออกไปจนหมด
อีกฝ่ายตะโกนสาปแช่ง ทั้งยังบอกว่าตู้ถงเหอไม่สนใจความสัมพันธ์ในครอบครัวเลย ตายไปก็ฝังไม่ได้…อะไรทำนองนี้
“พี่ฉลาดมาทั้งชีวิต แม้แต่น้องชายตัวเองก็ยังขัดขวางอีกหรือ มองไม่มองหรือไงว่าคนพวกนี้มันมันจ้องจะเอาสมบัติของพี่น่ะ? ตู้ถงเหอ พี่คิดจะเอาให้คนพวกนี้จริงหรือ?”
เสียงของตู้เทียนเหอค่อย ๆ หายไป ตู้ถงเหอได้ฟัง แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร
กระทั่งพวกเสี่ยวเถียนกลับเข้ามา เขาก็ยิ้ม “เด็กดี ทำให้หลานต้องเจอเรื่องแย่ ๆ เสียแล้ว”
เสี่ยวเถียนยิ้มหวาน “คุณปู่ไม่เป็นไรนะคะ หนูโตแล้ว!”
เธอลังเลก่อนจะว่าต่อ “คุณปู่ อย่าไปสนใจที่ตู้เทียนเหอว่านะคะ หนูไม่ได้สนใจทรัพย์สมบัติของปู่จริง ๆ นะ…”
ไม่รอให้ซูเสี่ยวเถียนพูดจบ หญิงชราก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน “หลานไม่ได้ทำอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ที่เราสองคนไม่มีเงิน ทั้งยังบาดเจ็บมาที่หงซินด้วย หลานจะทำแบบนั้นได้ยังไง?”
ตอนนั้นพวกเขาไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้กลับไปเมืองหลวงหรือเปล่า แล้วเสี่ยวเถียนจะตีสนิทเพื่อเงินทองของพวกเขาได้อย่างไร?
อีกอย่างนะ ความใจดีของคนบ้านซูคนในชุมชนการผลิตหงซินต่างรู้กันอย่างทั่วถึง คนที่อยู่ชุมชนรอบนอกก็รู้
“เด็กดี คนคนนั้นมีแต่จะพูดจาหยาบคาย! หลานไม่ต้องใส่ใจหรอก ปู่กับย่ารับมาเป็นหลานสาวก็ถือว่าเป็นหลานสาวแท้ ๆ อยู่แล้ว!”
ทรัพย์สินบ้านเราจะตกเป็นของเสี่ยวเถียนอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรผิดปกติเลย ต่อให้พูดอะไรก็ไม่ผิดทั้งนั้น!
และบรรยากาศที่กลมกลืนถูกทำลายลงด้วยการมาถึงบ้านตู้เทียนเหอ
โชคดีที่มีคนเยอะ และยังมีฮั่วซิวเฉิงที่หน้าไม่อายด้วย ในไม่ช้าบรรยากาศก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
อวี่รุ่ยหยวนไม่อยากพูดถึงพวกเขาอีก เลยถามสามี
“ผู้เฒ่าตู้ ดูเหมือนว่าคุณจะสนใจฮั่วซิวเฉิงเป็นพิเศษนะ!”
ตู้ถงเหอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนมองภรรยาด้วยสายตาล้ำลึก
เธอเลยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกจับตามองเช่นนี้
“อวี่รุ่นหยวน ถ้าฉันบอกเธอ เธออย่าเสียใจไปเลยนะ!”
พอได้ยินเช่นนั้น จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าไม่อยากฟัง แม้ว่าจะเชื่อในตัวสามี แต่พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?
ฮั่วซิวเฉิงคือใคร? ไม่ใช่ลูกนอกสมรสของสามีเธอกับหญิงอื่นใช่ไหม?
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ อวี่รุ่ยหยวนยอมรับว่าเธอกลัวจริง ๆ
สองสามีภรรยาเคารพซึ่งกันและกันมาชั่วชีวิต นับว่าเป็นสามีภรรยาแบบอย่าง แต่พวกเราในวัยแก่ปูนนี้ จู่ ๆ สามีก็มีลูกนอกนอกสมรส จะไม่ให้เธอรู้สึกอับอายได้อย่างไร?
“ฉัน…ฉันจะไม่ฟัง!” อวี่รุ่ยหยวนคิดจะหนี
“รุ่ยหยวน!” ตู้ถงเหอไม่รู้ว่าทำไม ทีแรกก็เหมือนจะสนใจ แต่ทำไมจู่ ๆ ถึงไม่ฟังแล้วล่ะ?
จิตใจสตรีละเอียดอ่อนอย่างที่ว่าจริงหรือ?
ขณะที่ตู้ถงเหอกำลังงุนงง จู่ ๆ อวี่รุ่ยหยวนก็ผละออกไปอย่างรวดเร็วและวิ่งกลับห้อง!
พอกลับมาถึง เธอพยายามสงบจิตสงบใจไม่ได้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกหวาดกลัวไปหมด
ลูกชายเธอตายไปหลายปีแล้ว และถึงสามีเธอจะมีลูกนอกสมรสก็ตาม แล้วมันอย่างไรล่ะ?
ทำไมเธอต้องกังวลมากขนาดนี้ด้วย?
ลองคิดในอีกมุมหนึ่ง ถ้าชายหนุ่มคนนั้นเป็นลูกของผู้เฒ่าตู้จริง ๆ พวกเขาก็จะมีผู้สืบทอดไง จะยังมีอะไรอีก?
แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกว่ามันปวดใจและรับไม่ได้แบบนี้นะ?
อวี่รุ่ยหยวนคลี่กระดาษที่อยู่บนโต๊ะ ตั้งใจเขียนระบายอารมณ์อันซับซ้อนและไม่สบายใจของเธอลงบนกระดาษ
แต่คนเราเมื่ออยู่ในช่วงเวลากระสับกระส่าย พวกเขาไม่มีแม้แต่สมาธิจะเขียนเลย
อวี่รุ่ยหยวนโยนปากกาลงบนโต๊ะด้วยความปั่นป่วน แล้วยกมือปิดหน้า…