เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 327 ขาดทุน
บทที่ 327 ขาดทุน
บทที่ 327 ขาดทุน
รอบเมืองหลวงมีน้ำไม่เยอะ ปลาอะไรนั่นหายากมากโดยเฉพาะปลาสด
แม้ว่าเขาจะเพิ่งเริ่มเรียนทำอาหารได้ไม่นาน แต่เขาก็สามารถแยกแยะวัตถุดิบได้ว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี
ในความคิดของเขาคือ ตะกร้าปลาที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นของดีโดยแท้!
ไม่ต้องพูดเรื่องปลาไนตัวใหญ่ที่สดเหมือนเพิ่งตกมาจากน้ำนะ เอาเรื่องเกล็ดปลาก่อนเลย แค่เห็นก็รู้แล้วว่าของระดับสูง
แล้วดูปลาตะเพียนตัวเล็กพวกนั้นสิ ยาว 4.5 ชุ่น มีเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร?
แล้วนี่มันปลาชนิดไหนเนี่ย? เขารีบหันไปคิด แต่ก็คิดไม่ออก
หลังจากสิ้นเสียงของชายหนุ่ม ชายชราวัยหกสิบปีเศษก็เดินเข้ามา
พอมองท่าทางที่โง่เขลาของลูกศิษย์ สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียด ไอ้เด็กนี่ เป็นลูกศิษย์ของเขาแท้ ๆ ทำไมถึงทำตัวไร้ประสบการณ์ขนาดนี้?
“ไอ้เด็กเวร แกตามฉันมาสักพักนึงแล้ว ทำโหวกเหวกไปได้ ไม่ได้รู้เรื่องเลย!”
ถึงชายชราจะบ่น แต่สีหน้าไม่ได้คาดโทษ ฟังแล้วเหมือนเอ็นดูมากกว่า
ความรู้สึกแรกที่เสี่ยวเถียนมีต่อพ่อครัวคนนี้เป็นความรู้สึกที่ดีมาก
“อาจารย์ ดูตะกร้าปลาใบนี้เร็วครับ” ชายหนุ่มกระโดดขึ้นมา แล้วชี้ไปที่ตะกร้าใบนั้น
พ่อครัวติงมองไปในทิศทางที่ลูกศิษย์ชี้ไปโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่ลดสายตาลง เขาก็รีบเงยหน้าขึ้นทันที จ้องมองลูกศิษย์ด้วยสายตาเฉียบขาด
“ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า?”
ใจเย็นก่อน ๆ จะทำตัวเหมือนคนไร้ประสบการณ์ไม่ได้นะ!
“อาจารย์ คุณไม่ได้ฝันไปนะ ไม่ได้ฝันเลย มันคือของจริงครับ ของจริง!”
พ่อครัวติงนั่งยอง ๆ ข้างตะกร้าและมองดูมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในที่สุดก็เอื้อมมือไปจับปลาตะเพียนก่อนสังเกตอย่างระมัดระวัง
เสี่ยวเถียนมองดู สิ่งที่พ่อครัวติงถืออยู่คือปลาตะเพียนสีทองอ่อน เกล็ดบนตัวของมันยังมองเห็นสีทองจาง ๆ สวยงามยิ่งนัก
ตอนนั้นเสี่ยวเถียนกำลังรีบร้อนเลยไม่ได้สนใจมันนัก พอตอนนี้มาสังเกตดูก็พบว่ามันเป็นปลาตะเพียนที่ดีที่สุดจริง ๆ
ชายชรามองอย่างระมัดระวังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพึมพำ
“ลำตัวแบน หลังสีฟ้า เกล็ดออกสีเหลือง เหงือกสีแดงสด ปากสีเขียวอ่อน เป็นปลาตะเพียนที่ดีที่สุดจริง ๆ ตาแก่อย่างฉันอยู่มาครึ่งค่อนชีวิต ในที่สุดก็ได้เห็นของดีแบบนี้!”
เสี่ยวเถียนเห็นภาพพ่อครัวติงกำลังจ้องมองปลาตะเพียนราวกับเขาเห็นคนรัก
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่าสายตาของชายชราตรงหน้าที่กำลังมองปลาเต็มไปด้วยความรักและความสุข
เสี่ยวเถียนกลัวจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ และจะทำให้คนอื่น ๆ เป็นกังวลจึงรีบสอบถามเรื่องราคา
“พ่อครัวติง ปลาตะเพียนแบบนี้ให้ราคาเท่าไรคะ?”
จากนั้นอีกฝ่ายจึงเลิกมองปลา และออกจากโลกของปลาตะเพียนในที่สุด
“ดีจริง ๆ สาวน้อย ปลาตะเพียนแบบนี้ไปเอามาจากไหนหรือ?”
น้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาลึกล้ำ และเฝ้ารอที่จะรู้แหล่งที่มาของสินค้า ปลาตะเพียนคุณภาพเยี่ยมแบบนี้ เขานึกไม่ออกเลยว่าต้นทางมาจากที่ไหน!
เขาเปิดร้านอาหารแบบส่วนตัวทันที แต่ต้องยุ่งอยู่กับปัญหาเรื่องวัตถุดิบ และทุกครั้งที่ไปซื้อก็ต้องเจอปัญหานี้ มันทำให้เขารำคาญมาก
“เรื่องนี้หนูบอกไม่ได้ค่ะ ขอโทษนะคะ” เสี่ยวเถียนยิ้มบาง ๆ และเอ่ยหนักแน่น
เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามันมาจากไหนน่ะ?
หรือจะบอกว่ามาจากระบบล่ะ?
คนอื่นจะไม่คิดว่าเธอป่วยทางจิตแล้วจับตัวเธอไปหรอกหรือ?
แต่พ่อครัวติงไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาแค่คิดว่ามันเป็นความลับของคนอื่น และพวกเขาก็คงไม่บอกหรอก
ก็จริง หากเขามีแหล่ง เขาก็คงไม่บอกใครเหมือนกัน
พอรู้ว่าตนประมาทก็รีบเอ่ยขอโทษ
“สาวน้อย เป็นความผิดฉันเอง ฉันไม่ควรถามอยู่แล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อครัวติง คุณดูวัตถุดิบก่อน แล้วค่อยให้ราคาที่เหมาะสมกับหนูนะ ตกลงไหมคะ?”
ชายชรารีบเปิดผ้าคลุมตะกร้าอีกใบแล้วมองอย่างละเอียด
“สาวน้อย มีแต่ของดีทั้งนั้น ฉันอยากได้หมดเลย”
ท่าทางของพ่อครัวติงนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังจะรวยแล้ว เขากำลังจะรวยแล้ว!
“บอกราคามาได้เลยค่ะ ถ้าราคาเหมาะสมก็เอาไปได้เลย!”
หมายความว่าเด็กคนนี้จะขายหมดเลยงั้นหรือ?
ก็ได้!
เดิมทีเสี่ยวเถียนคิดจะเก็บไว้ทำเป็นอาหารเย็น
แต่ช่วยคิดราคาเร็วขึ้นกว่านี้หน่อยได้ไหม?
ถ้าลุงเสิ่นกับปู่ตู้เกิดเป็นห่วงแล้วออกตามหา เธอจะทำอย่างไรล่ะ?
“ปลาตะเพียนหนึ่งจินฉันให้ 2.5 หยวน ปลาไนหนึ่งจิน 2 หยวน ปลาทองหนึ่งจิน 6 หยวน ซี่โครงหนึ่งจิน 1.8 หยวน เนื้อวัวหนึ่งจิน 2.5 หยวน แล้วก็เนื้อแกะหนึ่งจิน 5 หยวน เธอคิดว่ายังไง?”
พ่อครัวติงชั่งน้ำหนักเล็กน้อย และเสนอราคาสูงสุดที่เขาสามารถจ่ายให้ได้
“คุณแน่ใจหรือคะว่าอยากได้ทั้งหมดนี่?” เสี่ยวเถียนถามหลังจากมองตะกร้าทั้งสอง
รับลูกค้าวันละสี่โต๊ะต้องใช้เนื้อเยอะขนาดนั้นเลยหรือ?
“ต้องการหมดเลย กวางฮุยเอ้ย แกกลับไปเชิญตาแก่หลี่มาดูได้เลย เนื้อพวกนี้ตาแก่นั่นเห็นแล้วต้องอิจฉาตาร้อนแน่” พ่อครัวติงหัวเราะลั่น เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความพึ่งพอใจและโอ้อวด
หลังจากที่ร้านอาหารของเขาเปิดตัว รอบข้างก็มีร้านอาหารส่วนตัวแบบนี้เปิดขึ้นอีกหลายแห่ง
ช่วงนี้ตาแก่หลี่นั่นก็แย่งวัตถุดิบของเขาไปตั้งหลายครั้ง ไม่งั้นเขาจะลำบากขนาดนี้ได้อย่างไร
เสี่ยวเถียนไม่สนใจเรื่องของชายชรา และทำเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ
ราคาพวกนี้สูงกว่าที่เธอคาดไว้มาก และเธอก็ไม่ได้ไม่พอใจแต่อย่างใด
แต่ถ้าไม่แสดงตัวว่าดีใจ เกิดชายชราเปลี่ยนใจขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ?
“ได้ค่ะ ตกลงราคาตามนี้เลย!” หลังจากแสดงท่าที เสี่ยวเถียนก็พยักหน้า
พ่อครัวติงสั่งให้ลูกศิษย์ไปรับของแล้วคิดเงินให้เสี่ยวเถียน
ล้อกันเล่นแล้ว ของดีขนาดนี้ไม่รีบคว้าเอาไว้ ถ้าเกิดสาวน้อยเปลี่ยนใจจะทำอย่างไร?
อวี่กวางฮุยคำนวณราคาของพวกนี้ในหัวอย่างว่องไว
“อาจารย์ ยอดทั้งหมดคือ 128.8 หยวนครับ”
เขาคิดกับตัวเอง ไม่แปลกใจเลยที่สาวน้อยจะแข็งแรงขนาดนี้ จะต้องเป็นเพราะได้กินของดี ๆ ตั้งแต่เด็กแน่เลย
ไม่รู้ว่าอาหารที่อาจารย์ใช้ปลาดี ๆ พวกนี้ทำ จะให้เขากินสักหน่อยได้บ้างหรือเปล่า
คิด ๆ ดู ทำไมคนเราถึงแตกต่างกันขนาดนี้นะ?
“สาวน้อย นี่ค่าของนะ ทั้งหมด 128.8 หยวน ฉันปัดเลขขึ้นให้ เป็นเลขมงคลเลย”
พ่อครัวหยิบเงินมาวางไว้บนมือของเสี่ยวเถียนโดยไม่ลังเล
เสี่ยวเถียนบ่นในใจ พูดจาหวานหูเหลือเกิน เธอจะไม่เต็มใจได้อย่างไร?
ช่างเถอะ ราคาไม่ได้ต่ำเสียหน่อย
ทำเงินได้ขนาดนี้ เยอะกว่าเงินเดือนคนอื่นสองเดือนเลยนะ อิ่มอกอิ่มใจมาก!
หลังจากรับเงินมาและคิดคำนวณว่าไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เสี่ยวเถียนก็รีบออกไปทันที
“เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูไปแล้วนะคะ! ลาก่อนค่ะ!”
เสี่ยวเถียนไม่อยากเสียเวลาอีก แต่พอจะไปก็โดนชายชรารั้งไว้
“สาวน้อยรอสักครู่”
เสี่ยวเถียนผงะ แต่ก็ยังหันหลังไปมอง
“สาวน้อย ฉันแค่อยากจะถามว่าเธอชื่ออะไร แล้วเธอยังมีของดี ๆ แบบนี้อยู่อีกไหม?”
เสี่ยวเถียนได้ยินก็เข้าใจทันที นี่เป็นการวางแผนธุรกิจระยะยาวสินะ
เธอคาดว่าคราวนี้เธอน่าจะอยู่ในเมืองหลวงประมาณครึ่งเดือน น่าจะทำข้อตกลงทางธุรกิจได้บ้าง
“ขอไม่เอ่ยชื่อก็แล้วกันค่ะ เราพบกันโดยบังเอิญไม่ต้องเอ่ยชื่อก็ได้ และคงทำธุรกิจด้วยแค่ไม่กี่ครั้ง หากถ้าคุณต้องการ พรุ่งนี้หนูจะมาส่งของให้ค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของพ่อครัวติงก็ปราฏรอยยิ้มทันที
มีแบบนี้ด้วย ดีเหลือเกิน
สวรรค์ดลบันดาลสินะ!
“พรุ่งนี้มาเวลาเดิมก็ได้นะถ้าเธอจะมาส่งของ สาวน้อย ถ้ามีเนื้อสดอื่น ๆ อีกก็เอามาส่งนะ ฉันเอาหมดเลย”
เสี่ยวเถียนสงสัยเล็กน้อย สภาพอากาศแบบนี้จะอยู่ได้นานขนาดไหน?
แค่อย่าปล่อยให้มันเน่าเสียก็พอ
ขณะที่เสี่ยวเถียนกำลังคิด ก็ได้ยินพ่อครัวติงเตรียมการกับกวางฮุยลูกศิษย์ของเขาอย่างร่าเริง
“กวางฮุย เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย ตอนกลางวันเราจะเปิดสี่โต๊ะ ตอนเย็นสี่โต๊ะเพื่อตอบแทนลูกค้า!” หัวหน้าติงพูด
ก่อนหน้านี้เขาเปิดได้แค่สี่โต๊ะต่อวัน ไม่ใช่ว่าเขาสงวนไว้หรือไม่ใส่ใจอะไรหรอกนะ
แต่เขาใช้ชีวิตเป็นตาแก่ติงมานานแล้ว และไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินด้วย
แต่เพราะไม่มีวัตถุดิบ ก็เลยดูเหมือนทำเงินไม่ได้น่ะสิ!
แขกมากี่คนไม่สำคัญ ที่สำคัญคือต้องมีวัตถุดิบ
“พรุ่งนี้เช้าไปตลาดหน่อยนะ ไปซื้อผักสด ขอเยอะหน่อย” หัวหน้าติงวางแผนต่อ
หญิงฉลาดทำอาหารไม่เป็น และหัวหน้าติงก็ไม่สามารถทำอาหารดี ๆ ได้หากไม่มีวัตถุดิบที่ดี!
ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว เรามีของดี ๆ มากมาย ใช้มันได้อย่างเต็มที่เลย
กวางฮุยตอบตกลง
เสี่ยวเถียนได้ยินก็เข้าใจ วัตถุดิบพวกนี้ ถ้าผสมกับผักจะทำอาหารโต๊ะใหญ่ได้แปดโต๊ะ
หากมีวัตถุดิบแบบนี้ ราคาร้านอาหารตระกูลติงจะเพิ่มขึ้นแน่นอน วันนี้พวกเขาก็ได้เงินไปสามสิบหยวนสำหรับโต๊ะธรรมดา ๆ
และถ้าใช้วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมที่เธอจัดหาให้ โต๊ะหนึ่งจะมีราคาสูงถึงห้าสิบหยวน
คิด ๆ ดูแล้ว พรุ่งนี้รายได้ของร้านเกือบห้าร้อยหยวนเลยนะ!
อืม… คนเปิดร้านได้เงิน ส่วนคนขายวัตถุดิบอย่างเธอขาดทุน!
ไม่มีเวลาให้เสียใจมากนัก เสี่ยวเถียนรีบออกจากร้านอย่างว่องไว
ชายชรามองเนื้อจำนวนมากมายพวกนี้ และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป
กวางฮุยทำตามแผนที่อาจารย์ได้บอกไว้ นั่นคือไปอวดตาแก่หลี่นั่นเอง