เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 408 เรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น
บทที่ 408 เรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น
บทที่ 408 เรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น
พอเห็นเสี่ยวเถียนเดินเข้าห้องมา ซ่งหลิงหลิงพลันตื่นตระหนก ซูเสี่ยวเถียนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
เธอไม่ควร…
ซ่งหลิงหลิงไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เธอคิดว่าตนเองต้องมองผิด จะต้องมองผิดไปแน่ ๆ แวบแรกที่ความคิดนี้แล่นผ่านเข้ามา ซ่งหลิงหลิงหลับตาลง ทว่ายามที่ลืมตามองอีกครั้งก็ยังเห็นซูเสี่ยวเถียนมีชีวิตอยู่ตรงหน้า
เธอต้องลืมตาผิดวิธีแน่ ๆ ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะกลับมาในสภาพดี ๆ ได้หรอก!
ซ่งหลิงหลิงหลับตาอีกครั้ง
“พอได้แล้ว หยุดเล่นละครลิงสักที!” เสี่ยวเถียนเคาะโต๊ะ
ซ่งหลิงหลิงไม่เคยรู้สึกว่าเสียงของซูเสี่ยวเถียนน่ากลัวมากขนาดนี้มาก่อน เธอหวาดกลัวยิ่งนักพอลืมตามาก็เห็นอีกฝ่ายจ้องเขม็งมาที่เธอ
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่ใช่ฝัน
“ซูเสี่ยวเถียน…”
ซ่งหลิงหลิงคิดจะพูดบางอย่างแต่ไม่กล้าพูดออกไป เธออยากจะถามว่าทำไมยังอยู่อีก? ทำไมเธอถึงยังมีชีวิตอยู่? หรือจะถามว่าทำไมถึงไม่โดนคนอื่นทำลายดีล่ะ!
เสี่ยวเถียนก็คิดได้เหมือนกันว่าคำพูดของอีกฝ่ายต้องมีเป้าหมายบางอย่างแน่นอน
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาก่อนเธอจะคว้าเอาไว้
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเกี่ยวข้องกับเธอด้วยสินะ? พอคิดเช่นนี้เสี่ยวเถียนรู้สึกว่าทุกอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ก่อนหน้านี้พลันมีเหตุผลขึ้นมาทันที
เธอขอลาไปทำธุระชั่วคราว แล้วทำไมโจวหรุ่ยซูถึงรู้? เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะจ้องมองเธอได้ตลอด และคนเดียวที่ทำได้คือนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้
ต้องบอกว่าเฉพาะเด็กในห้อง 18 เท่านั้นที่ทำได้
เธอมองไปที่ซ่งหลิงหลิงอย่างครุ่นคิด ถ้าเป็นอีกฝ่ายจริง ๆ ก็ใช่แล้วล่ะ!
ซ่งหลิงหลิงเองก็เคยมีความขัดแย้งกับเธอเช่นกัน และเหมือนสองคนนั้นจะเป็นเพื่อนร่วมห้องกันด้วย เพราะรู้จักกันมานานจึงเป็นไปได้ว่าทั้งสองจะร่วมมือกันจัดการกับเธอ
ตอนนั้นเองที่แววตาของเสี่ยวเถียนมีความหวาดกลัววาดผ่าน ถ้าไม่รู้ว่าทั้งสองเคยจัดการกับตนอย่างโหดเหี้ยมมาก่อน คงรับประกันสภาพเธอในตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ
อายุแค่นี้ แต่กลับมีความคิดชั่วร้ายเสียแล้ว หรือเธอเองที่ไร้เดียงสาเกินไป?
หลังจากนี้เธอต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้
เมืองหลวงกว้างใหญ่เกินไป ไม่ว่าคนแบบไหนก็มีหมด!
เด็กในเมืองหลวงอายุไม่เยอะก็จริง แต่ในจิตใจกลับเต็มไปด้วยภาระหนักอึ้ง!
เธอจะทำเป็นเล่น ๆ ไม่ได้แล้ว แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร เธอก็ยังเป็นแค่เด็ก
ต้องลองดูว่าอีกฝ่ายจะเผยไต๋ออกมาหรือเปล่า
เธอเหล่มองแล้วเอ่ยถามอย่างไม่ตั้งใจ
“ซ่งหลิงหลิง เธออยากจะถามฉันสินะว่าทำไมถึงกลับมาเรียนได้? ถ้าฉันกลับมาได้เธอจะเสียใจล่ะสิ?”
ประโยคนี้ทำให้ซ่งหลิงหลิงตกตะลึง
เธอไม่คิดว่าเสี่ยวเถียนจะเอ่ยในสิ่งที่ตนคิด
ซูเสี่ยวเถียนยังมียางอายอยู่ไหม? กลายเป็นผู้หญิงเสียตัวแล้วแท้ ๆ ยังยโสโอหังได้อีกหรือ? หรือเพราะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นไปแล้วจึงไม่มียางอายอีกต่อไป?
ซ่งหลิงหลิงไม่สงสัยเลยว่าเสี่ยวเถียนไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว
โจวหรุ่ยซูบอกว่าคนพวกนั้นเชื่อถือได้ และสามารถจัดการอีกฝ่ายได้แน่นอน
“ซูเสี่ยวเถียน เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่น่ะ? เราเกี่ยวข้องอะไรกันหรือไง?”
เธอไม่กล้ามองไปเพราะกลัวอีกฝ่ายจะมองออก เพราะเจ้าตัวไม่ใช่แค่เรียนเก่งแต่ยังฉลาด ทั้งยังช่างสังเกต เกิดโดนจับได้ขึ้นมาจะทำอย่างไร?
“อ๋อ อย่างนั้นหรือ? แน่ใจนะว่าไม่เกี่ยวข้องกันน่ะ?”
เสี่ยวเถียนกึ่งยิ้ม ๆ น้ำเสียงและท่าทางทำให้ซ่งหลิงหลิงรู้ว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องอะไรมาแน่นอน
หรือว่าจะล้มเหลว? ได้ยินว่าเด็กบ้านซูมีความสามารถมาก หรือซูเสี่ยวเถียนก็มีเหมือนกัน?
“นะ แน่นอนสิว่าไม่เกี่ยวน่ะ…”
ซ่งหลิงหลิงคว้าหนังสือด้วยความตื่นตระหนกและแสร้งทำเป็นอ่าน
แต่เสี่ยวเถียนก็เตือนสติอีกครั้ง
“ซ่งหลิงหลิง เหมือนเธอจะลุกลี้ลุกลนนิดหน่อยนะ! เธอรู้สินะว่าโจวหรุ่ยซูเพื่อนที่แสนดีของเธออยู่ที่ไหนน่ะ?”
ประโยคเรียบง่าย แต่สำหรับซ่งหลิงหลิงเหมือนฟ้าถล่ม
ซูเสี่ยวเถียนกำลังพูดถึงอะไรอยู่?
ที่พูดมันหมายความว่าอย่างไร?
โจวหรุ่ยซู?
รู้ทุกอย่างแล้วใช่ไหม?
“เธอ…เธอพูดอะไรน่ะ ฉัน…ฉันไม่เข้าใจ! โจว..โจวหรุ่ยซูเป็นใครฉันไม่รู้จักสักหน่อย…”
ตอนที่ซ่งหลิงหลิงบอกว่าไม่รู้จักโจวหรุ่ยซู เสี่ยวเถียนก็แสยะยิ้ม แต่ไม่ทันจะพูดจบ เสียงของตู้หย่งเฮ่อก็ดังมาจากข้าง ๆ
“เอ๊ะ เธอกับโจวหรุ่ยซูโตมาด้วยกันไม่ใช่หรือไง? เป็นเพื่อนมาตั้งกี่ปี ทำไมถึงไม่รู้จักกันล่ะ?”
เด็กชายพูดพร้อมขยับแว่นบนจมูก
เขามองเด็กสาวราวกับอีกฝ่ายเสียความทรงจำไปเสียแล้ว
ดีจริง ๆ ซ่งหลิงหลิงไม่รู้ว่าเธอทำเวรทำกรรมอะไรมาถึงได้มาชอบอีกฝ่าย
แถมอีกฝ่ายก็รู้ด้วยว่าพวกเราเป็นเพื่อนกันมากี่ปี?
แล้วทำไมในตอนที่คับขันถึงไม่ช่วยกันเลย? ทำไมถึงไปช่วยซูเสี่ยวเถียน
เพราะมีตู้หย่งเฮ่อเข้ามายุ่ง เสี่ยวเถียนเลยดูไม่ค่อยดี
ที่เอ่ยตรง ๆ ก็เพื่อช่วยซ่งหลิงหลิง ถ้าได้พูดอีก อีกฝ่ายคงเผยไต๋และบอกความจริงออกมาแล้ว
เสี่ยวเถียนมองซ่งหลิงหลิงด้วยความเสียใจ
เพราะมีบุคคลที่สามปรากฏตัว จึงไม่คิดจะพูดเรื่องนี้ต่อ
เธอเดินกลับไปที่โต๊ะแล้วทรุดตัวลงนั่งด้วยท่าทีสงบ ก่อนหยิบหนังสือมาอ่าน
เมื่อวานเสียเวลาไปตั้งครึ่งค่อนวัน ไม่ได้รางวัลสะสมอ่านหนังสือถึงสิบชั่วโมงเลย
จนถึงวันนี้ก็ยังเสียใจที่เสียรายได้ไป
ตอนเช้าตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะตั้งใจทำงานให้หนัก
ส่วนซ่งหลิงหลิง ถ้าตรวจสอบไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็หาทางได้เองแหละ
เสี่ยวเถียนง่วนกับการอ่านหนังสือตลอดทั้งเช้าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตรงกันข้ามกับซ่งหลิงหลิงที่กระสับกระส่าย ทั้งยังถูกครูหลายคนดุว่าไม่ตั้งใจเรียน
ตกบ่าย มีข่าวหนึ่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในโรงเรียนมัธยมอันดับเจ็ด
ข่าวที่ลือกระฉ่อนไปทั่วได้ทำลายความสงบของโรงเรียนของเรา
ซ่งหลิงหลิงห้อง 18 สมรู้ร่วมกับคนอื่นพยายามทำร้ายเพื่อนร่วมห้องของตน
ข่าวนี้ทำให้นักเรียนทั้งหลายตื่นตระหนก ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย กระทั่งบอกว่าเป็นเรื่องโกหกใช่ไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานะของห้อง 18 ที่ไม่มีใครในโรงเรียนเทียบได้
นักเรียนของห้องนี้เป็นที่รู้จักในฐานะดาวแห่งอนาคต และจะเป็นนักศึกษาที่เหมาะสมในภายภาคหน้าด้วย
แต่ห้องเรียนที่แสนโดดเด่นและยอดเยี่ยมกลับมีเรื่องอื้อฉาว!
เพราะในชั่ววินาทีเดียวที่ข่าวลือถูกปล่อยออกมา มันก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
และข่าวที่แพร่สะพัดไปทั่ว ซูเสี่ยวเถียนผู้ที่เกี่ยวข้องกลับมีท่าทีสงบที่สุด