เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 416 เธอผิดตรงไหนหรือ
บทที่ 416 เธอผิดตรงไหนหรือ
บทที่ 416 เธอผิดตรงไหนหรือ
คุณย่าซูเห็นแววตาของหลานสาวตัวน้อย จิตใต้สำนึกอยากจะบอกซื่อเลี่ยงว่าให้ดูน้องสาวดี ๆ ทว่าในตอนที่กำลังจะอ้าปากก็นึกบางอย่างได้ สุดท้ายจึงไม่พูดอะไร
เสี่ยวเถียนกล้าหาญเกินไป คราวนี้ต้องให้เธอรู้ซะบ้าง!
แต่สุดท้ายก็อดทนต่อสายตาของหลานสาวไม่ได้ เขาควรทำอย่างไรดี
คุณย่าซูเหลือบมองหลาน ก่อนจะหันไปทางอื่น
ครั้นเห็นคุณย่าเบือนหน้าหนี เสี่ยวเถียนก็รู้ว่าย่าไม่เต็มใจช่วยเธอ
เด็กหญิงส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางคุณปู่ เสี่ยวเถียนรู้ว่าปู่รักเธอมากที่สุด เขาจะต้องทนที่พี่รองจัดการเธอไม่ได้แน่นอน และพอเห็นท่าทางน่าสงสารของหลาน ชายชราอดใจอ่อนไม่ได้
หลานรักของเขา เขาไม่เคยดุมาตั้งแต่เด็กเลย
เจ้าซื่อเลี่ยงกล้ามาทำฉุนเฉียวใส่หลานสาวของเขาหรือ? ต้องลงมือจริง ๆ แล้ว
“คุณปู่ ถ้าเสี่ยวเถียนยังทำแบบนี้ต่อไป เธอจะกลายเป็นคนไม่มีกฎเกณฑ์นะ” มีหรือที่โส่วเวินจะมองไม่ออกว่าคุณปู่คิดอะไรอยู่?
เวลามีเรื่องไม่เกี่ยวกับเสี่ยวเถียน ปู่มีเหตุผลนะ
แต่ในเมื่อมันเกี่ยวกับเสี่ยวเถียน ความตั้งใจของปู่ก็ไร้ขอบเขตทุกที
ถ้าเป็นเวลาปกติก็ช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เสี่ยวเถียนต้องรู้บทเรียนเสียบ้าง
พอหลานคนโตพูดแล้ว คุณปู่ก็คิดว่ามันสมเหตุสมผลจริง ๆ
เสี่ยวเถียนในวันนี้ทำเรื่องใจกล้ามาก และไม่รู้ว่าวันอื่นจะทำอะไรอีก! วันนี้เจอคนดีเลยจัดการได้เรียบร้อยดี พี่ ๆ ไม่ต้องลำบาก
แล้วถ้าไม่ได้เจอคนดีล่ะ?
ใครมันจะรับประกันได้ทุกครั้งกัน?
ถ้าเจอคนไม่ดีขึ้นมา เสี่ยวเถียนจะไม่ลำบากเอาหรือ? พอคิดได้ คุณปู่แสร้งทำเป็นไอ แล้วลูบเคราตนเองช้า ๆ
“วันนี้ยังไม่ได้สูบบุหรี่ตั้งแต่เช้าเลย ตอนนี้อยากจะสูบเสียแล้วสิ ต้องไปเอากล้องยาสูบแล้ว”
ชายชราว่าแล้วหันกลับไป สับเท้าไวราวกับกลัวหลานสาวจะคว้าได้ทัน
หญิงชราเองก็รีบตามสามีไปเช่นกัน
ทั้งยังหิ้วสะใภ้สามให้ตามไปด้วย
เหลียงซิ่วกลัวลูกจะเสียใจเพราะโดนพี่ ๆ ดุเอา เลยคิดจะอยู่เพื่อคอยปลอบด้วย แต่ไม่คิดว่าแม่สามีจะพาเธอไปด้วย
“แม่…”
เหลียงซิ่วรีบกระซิบ
“ต้องให้เสี่ยวเถียนรู้จักความสำคัญของการกระทำเสียบ้าง ไม่งั้นอนาคตจะลำบาก”
เหลียงซิ่วได้แต่ทำตามคำสั่งของแม่สามี
วันนี้เสี่ยวเถียนใจกล้ามาก สมควรได้รับบทเรียนแล้ว
เธอมองย้อนกลับไปก่อนจะเห็นใบหน้าเรียบเฉยของซื่อเลี่ยง แววตาไม่ได้โกรธเคือง เห็นได้ชัดว่าแค่คิดจะสอนบทเรียนน้องเท่านั้น
เหลียงซิ่วเดินไปด้วยความสบายใจ ทิ้งลูกสาวที่ต้องการความช่วยเหลือเอาไว้ข้างหลัง
เสี่ยวเถียนตะลึงงัน ไม่คิดว่าผู้ใหญ่จะเมินเธอแล้วจากไปแบบนี้
“ปู่ ย่า แม่…” เสียงตะโกนเรียกของเธอได้แต่ทำให้พวกเขาเดินไวขึ้นเท่านั้น
เด็กหญิงมุ่ยหน้าอย่างไม่เข้าใจว่ามันกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? ไหนบอกว่ารักเธอไง?
แล้วมันหายไปไหนแล้ว?
ทำไมเดินหนีแล้วทิ้งกันไปแบบนี้ล่ะ?
ซื่อเลี่ยงมองผู้ใหญ่ที่เดินจากไป พวกท่านคงยอมรับในสิ่งที่เขาจะทำแล้วล่ะ ก่อนซื่อเลี่ยงจะเอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา
“เสี่ยวเถียน เธอรู้ไหมว่าตัวเองทำผิด?”
“พี่รอง หนูผิดไปแล้ว จากนี้ไปหนูจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ”
เสี่ยวเถียนจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเธอผิดตรงไหน? แต่เวลาแบบนี้ยอมรับผิดดีที่สุด เธอเป็นน้องสาวที่รู้ตัวเองดี จึงเอ่ยขอโทษตรง ๆ
ซื่อเลี่ยงที่เตรียมตัวจะสาธยายยาวเหยียดก็พลันสำลักทันที พูดอะไรไม่ออกสักคำ
น้องยอมรับความผิดแล้ว เขาจะพูดอะไรได้อีก?
ฉืออี้หย่วนระบายยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า
“เสี่ยวเถียน แล้วเธอผิดตรงไหนหรือ?” น้ำเสียงของเขาอ่อนละมุน
คราวนี้เป็นตาเสี่ยวเถียนที่ต้องตกใจ
เธอผิดตรงไหนหรือ?
สาวน้อยที่แสนฉลาดรีบคิดก่อนจะตอบออกไป
“พี่อี้หย่วน หนูผิดตรงที่ไม่ควรไปต่อยคนอื่นค่ะ!” เสี่ยวเถียนยิ้มหวาน พยายามทำผิดให้เป็นถูก
ทว่ามีหรือที่เด็กหนุ่มจะโดนกลอุบายหลอกได้น่ะ?
เขาพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไร ความหมายชัดเจนมาก
เสี่ยวเถียนลูบหัว เธอเดาผิดหรือ? มันไม่ใช่เพราะเธอไปต่อยคนอื่นหรือ? โอ๊ะ! ไม่สิ ไม่ได้ต่อยเสียหน่อย ต้องบอกว่าไปทะเลาะกับเขามาต่างหาก
เสี่ยวเถียนคิดว่าตัวเองรู้แล้วจึงตอบอีกครั้ง “หนูไม่ควรไปทะเลาะกับคนอื่น!”
พี่ ๆ ต้องไม่พอใจที่เธอไปแย่งคู่ต่อสู้ของพวกเขาแน่ ๆ เลย ฮึ ๆ รู้แล้ว พวกพี่ก็อยากสู้เหมือนกันสินะ
“เยี่ยมเลยค่ะ ไว้คราวหน้าพวกเรามาสู้ด้วยกันนะ!” เสี่ยวเถียนเอ่ยอย่างน้อยใจ
มีเนื้อก็กิน มีน้ำก็กิน แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหมล่ะ?
เมื่อเห็นท่าทางเศร้าสร้อยของน้อง ฉืออี้หย่วนและคนอื่น ๆ แทบจะหัวเราะออกมา
เด็กคนนี้คิดอะไรอยู่กันเนี่ย?
สู้ด้วยกัน?
เธอจัดการคนเดียวไม่พอหรือไง ต้องสู้ด้วยกันหมดเลยหรือ?
เสี่ยวเถียนมองสีหน้าพี่ชาย แล้วก็รู้ว่าเธอยังพูดไม่ถูก
เธอยู่หน้า ขบคิดอย่างเศร้าใจ เดายากจัง
แล้วเธอผิดตรงไหนล่ะ?
“พี่รอง มันเป็นความผิดของหนูเอง เพราะงั้นอย่าทะเลาะกับหนูเลยนะ หนูเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึง พี่ทนได้หรือ?”
พอน้องสาวออดอ้อนซื่อเลี่ยง หัวใจอันแข็งแกร่งของเขาอ่อนยวบทันที
เสี่ยวเถียนก็หันไปเอ่ยกับอี้หย่วนเช่นกัน “พี่อี้หย่วน พี่ไม่รักหนูแล้วหรือ? ไหนบอกว่าจะรักหนู ปฏิบัติต่อหนูเหมือนน้องสาวแท้ ๆ ไง!”
ฉืออี้หย่วนตะลึงงัน เขาไปพูดแบบนั้นตอนไหน?
น้องสาวแท้ ๆ?
เขาจะทำได้หรือ?
ไม่ต้องดูก็รู้แล้วว่าเธอมีพี่ชายเป็นโขยงปกป้องไว้อย่างแน่นหนา มันลำบากมากสำหรับเขาที่ไม่ได้เป็นพี่ชายทางสายเลือด
พอเสี่ยวเถียนพูดเช่นนั้น พี่ชายบ้านซูจ้องเขม็งไปที่ฉืออี้หย่วน
ไอ้หนุ่มนี่ แค่เห็นก็ไม่เจริญหูเจริญตาแล้ว แถมหลายปีมานี้ยังพยายามแย่งน้องสาวไปจากพวกเขาอีก
แต่อีกฝ่ายช่วยเสี่ยวเถียนได้ที่แม่น้ำนะ เป็นผู้ช่วยชีวิตเสี่ยวเถียน พวกเขาหาเหตุผลมาโกรธไม่ได้หรอก
ฉืออี้หย่วนสัมผัสได้ถึงสายตาที่ไม่เป็นมิตร
พี่ชายของเสี่ยวเถียนเยอะขนาดนี้ จะรับมืออย่างไรดี?
“ผมไม่มีเจตนาจะแย่งน้องสาวจากพวกพี่นะ!” เขากล่าวด้วยความจริงใจ
เขาพูดด้วยความจริงใจมาก จนพวกโส่วเวินเชื่อว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาจริง ๆ แต่ซื่อเลี่ยงค้านหัวชนฝา ไอ้เด็กนี่มันไม่คิดจะเป็นพี่ชายเสียหน่อย เขาสงสัยมาตั้งนานแล้วว่ามันต้องมีแรงจูงใจซ่อนเร้นแน่!
ซื่อเลี่ยงมองฉืออี้หย่วนด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
ส่วนฉืออี้หย่วนทำได้แค่มองด้วยแววตาสงบนิ่ง
ช่างเถอะ!
แล้วจู่ ๆ ซื่อเลี่ยงก็ละสายตาไม่เป็นมิตรออกไป
เพราะน้องยังอยู่ในความดูแลของเรา ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็ไม่มีโอกาสเสียหรอก
หลังจากจบฉากแสดงละคร บรรยากาศก็ดีขึ้นกว่าเก่ามาก เสี่ยวเถียนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่เบาบางลง
“เสี่ยวเถียน แล้วรู้ไหมว่าเธอผิดตรงไหนน่ะ?” ฉืออี้หย่วนกดดันต่อ
เธอมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเศร้าสร้อย
พี่อี้หย่วนหมายความว่าอย่างไร?
พี่ ๆ อุตส่าห์ลืมไปแล้วนะ ทำไมยังเอามาพูดอีก?
“หนู…”
“เสี่ยวเถียน วันนี้เธอต้องไตร่ตรองการกระทำของตัวเองให้มาก!” พี่ใหญ่เห็นด้วยกับสิ่งที่อี้หย่วนกล่าว