เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 435 โจมตีต่อเนื่อง (2)
บทที่ 435 โจมตีต่อเนื่อง (2)
บทที่ 435 โจมตีต่อเนื่อง (2)
“คุณปู่ ปู่ต่งเขาเห็นปู่เป็นพี่ชายจริง ๆ นะ” เสี่ยวเถียนมองชายชราด้วยสายตาจริงจัง
“เสี่ยวเถียน หลานยังเด็ก มีบางเรื่องที่หลานไม่เข้าใจหรอกนะ…”
คุณปู่ซูถอนหายใจ หากแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ในใจเขามองว่าหลานยังเด็ก มีหลายเรื่องไม่ควรจะรู้
“เข้าใจแล้วค่ะปู่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หนูมั่นใจมากว่าหนูทำได้”
ในเมื่อเกลี้ยกล่อมไม่ได้ก็ทำได้แค่ยอมแพ้
เด็กคนนี้ ไม่รู้ว่าเหมือนใคร!
นิสัยรั้นแบบนี้พูดยากจริง ๆ
และคนที่ทำให้เขาสบายใจคือฟ่านชูฟางที่ตอบตกลงแล้วว่าจะหาคนมาตรวจยาที่เสี่ยวเถียนทำให้ ถ้าตรวจแล้วมีปัญหาจริง ๆ ต่งหยวนจงก็กินไม่ได้ แบบนี้บ้านเราก็ไม่ต้องเสี่ยงตายแล้วสินะ?
ตอนเสี่ยวเถียนทำยา ไม่มีใครสนใจเลย
ทว่าไม่รู้ว่าเสี่ยวจิ่วเริ่มสนใจตั้งแต่เมื่อไร
ในทุก ๆ วันหลังเลิกเรียน เขาจะมาหาเสี่ยวเถียนเพื่อมาช่วยเธอสับและต้มยาเสมอ
เสี่ยวเถียนเองก็แปลกใจที่พี่เก้าเข้ามาช่วยเธอ
“พี่เก้า ทำการบ้านเสร็จแล้วหรือ?”
เพื่อเดินตามรอยเท้าเสี่ยวเถียน เวลาพี่ ๆ คนอื่นเรียนจะทุ่มเทแรงกายใจอย่างเต็มที่ หาได้ยากมากที่จะยอมเจียดเวลามาแบบนี้
เสี่ยวจิ่วบุ้ยปาก
“คะแนนพี่ดีที่สุดในห้องแล้ว ถ้าไม่ได้เทียบกับเธอนะ!”
นี่คือความจริง สามพี่น้องเรียนห้องเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่คะแนนของเสี่ยวจิ่วจะสูงกว่าเสี่ยวปา ส่วนเด็กคนอื่น ๆ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาด้วยซ้ำ
แต่เพราะมีเสี่ยวเถียนอยู่ด้วย อันดับของเขาจึงอยู่ที่สอง
เสี่ยวเถียนสัมผัสได้ถึงความเศร้าใจในน้ำเสียง จึงได้แต่ปิดปากหัวเราะ ช่วยไม่ได้นี่ หรือพี่เก้าจะเปลี่ยนห้องเรียนล่ะ?
โอ๊ะ สถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนห้องไม่ได้หรอกนะ
เพราะห้องพิเศษมีแค่ห้องเดียวน่ะ เปลี่ยนไม่ได้อยู่แล้ว
“พี่เก้า ไม่งั้นสอบรอบหน้าหนูไม่ตอบหน้าหลังดีไหม?” เสี่ยวเถียนลองเชิง
เธอคิดตลอดทุกครั้งที่สอบ ถ้ากดดันพี่ ๆ ทั้งสองมันจะเหมือนแทงใจพวกเขาไหม?
เสี่ยวจิ่วส่ายหน้าทันควัน
“ไม่ต้องเถอะเลยนะ”
เสี่ยวจิ่วไม่อยากเสียหน้าเพราะน้องไม่ยอมทำข้อสอบหน้าหลังหรอกนะ
เป็นที่สองแล้วยังไง? คนอื่นก็ทำไม่ได้เหมือนกัน!
แพ้น้องไม่เสียหน้าเท่าแพ้คนอื่นหรอก!
“จริงหรือ? พี่เก้าไม่อยากลองมารู้สึกว่าเป็นอันดับหนึ่งบ้างหรือ?” เสี่ยวเถียนยิ้ม
เธอปล่อยให้สักครั้งสองครั้งได้นะ
เสี่ยวจิ่วรีบตอบ “ไม่เอา ๆ พี่อยากทำด้วยตัวเอง รับไว้ก็อายเขา”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วว่าต่อ “ไว้เข้ามหาวิทยาลัยเมื่อไร พี่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับเธอแน่ ตอนนั้นฉันจะเป็นที่หนึ่ง”
เสี่ยวเถียน…
โอ๊ะ ต้องบอกว่าเป็นเป้าหมายที่ทำได้จริงนะ!
“สู้เขานะพี่เก้า!” เสี่ยวเถียนกำหมัดให้กำลังใจ
เสี่ยวจิ่ว…
“เสี่ยวเถียน ไม่งั้นสอนความรู้เรื่องการรักษาให้พี่สิ!”
“พี่เชื่อหนูหรือ?” เธอไม่อยากจะเชื่อเลย
เธอไม่เคยเรียนความรู้ด้านการแพทย์มาก่อน ที่เรียนมาก็แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จากหลี่หมิงไฉ ส่วนที่เหลือก็เรียนด้วยตัวเอง แล้วพี่เก้าเชื่อใจถึงขนาดนั้นเลยหรือ?
“เชื่อสิ ถ้าเสี่ยวเถียนทำเป็น พี่เชื่ออยู่แล้ว!”
“พี่เก้า หนูทำเรื่องยาเป็นหลัก ไอ้ความสามารถตรวจโรครักษาอะไรก็ไม่ได้สูงนะ!”
คราวนี้เธอรู้สึกแล้วว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอ
ระบบห้องสมุดมีแต่หนังสือภาษาต่างประเทศ ต่อให้อยากอ่านหนังสือเรื่องแพทย์ก็ไม่มีให้
ทันใดนั้นที่นึกว่าได้ตนเข้าใจผิดไป
ปกติจะใช้เวลาอ่านหนังสือจากตัวระบบทุกวัน เธอเลยลืมไปว่าการอ่านหนังสือในโลกแห่งความเป็นจริงก็สะสมเวลาได้
เพราะการอ่านหนังสือจากระบบจะได้โบนัสด้วย แต่ถ้าอ่านหนังสือเล่มจริง ๆ จะได้เหมือนกันหรือเปล่า?
ไว้พรุ่งนี้ค่อยลองดีกว่า
ถ้าแบบนี้เกิดเราอยากอ่านอะไรก็เลือกตามที่อยากอ่านได้เลย มีสิทธิ์ให้เลือกสินะ
เสี่ยวจิ่วกำลังคุยกับน้องอยู่ แต่สีหน้าน้องเหมือนกำลังสับสน
“เสี่ยวเถียน เสี่ยวเถียนเป็นอะไรไป? ไม่อยากสอนพี่หรือ?” เสี่ยวจิ่วเหมือนโดนฮุค
เสี่ยวเถียนไม่เต็มใจจะสอนเขาหรือ?
“พี่เก้า หนูกำลังคิดเรื่องสำคัญน่ะเลยไม่ได้ฟังที่พี่พูด” เสี่ยวเถียนรีบยิ้มปลอบ
“พี่บอกว่า พี่เริ่มเรียนจากการจ่ายยาก่อนก็ได้” เสี่ยวจิ่วเศร้าเล็กน้อย
“งั้นพี่คอยตามหนูแล้วกันค่ะ ค่อย ๆ เรียนทีละนิด แต่ว่าจะช้าไม่ได้นะ เพราะหนูจะสอนไม่ได้!”
เสี่ยวเถียนเสริมอีกประโยค
พี่ ๆ จะวางความสำคัญสลับกันไม่ได้
เวลาเรียนต้องอย่าวอกแวก
เสี่ยวเถียนชัดเจนในจุดนี้ตลอด
มีแค่การได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ เท่านั้นถึงจะช่วยให้เราก้าวไปสู่อันดับที่สูงขึ้นได้
ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนที่อยากจะช่วยพวกเรา แต่ในอนาคนก็มีแค่พี่น้องด้วยกันเท่านั้นที่พึ่งพากันได้
ถ้าพี่ ๆ เปลี่ยนเป็นคนเก่งเมื่อไร สถานะของบ้านเราในตอนนั้นได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแน่นอน!
ขอแค่ลูกหลานของบ้านเราได้เป็นเจ้าคนนายคนเมื่อไร ถึงตอนนั้นแหละที่เราจะเทียบเคียงและยืนอยู่เหนือตระกูลอื่น ๆ ได้
ตอนที่เสี่ยวเถียนมาถึงเมืองหลวงก็เพิ่งจะรู้ว่าครอบครัวที่เราเคยช่วยไว้ที่หงซินมีภูมิฐานขึ้น
ยังไม่ต้องพูดถึงตระกูลเสิ่นกับตระกูลตู้ที่ร่ำรวยและมากด้วยอำนาจนะ แค่ตระกูลเสิ่นที่ว่ามีภูมิหลังย่ำแย่ ยังเทียบกับบ้านเราไม่ได้เลย
เพราะแบบนี้เธอจึงตั้งใจจะกระตุ้นพี่ ๆ ให้ตั้งใจเรียนต่อไปเพื่อที่จะได้เปลี่ยนแปลงสภาพครอบครัวของเราเสีย
“พี่รู้ ไม่ต้องห่วงหรอก พี่จะตั้งใจเรียนอย่างดี ไม่ให้พี่แปดเกินหน้าเกินตาได้แน่!”
เสี่ยวปาบังเอิญเดินผ่านมาพอดี…
อะไรเนี่ย?
ยังอยากเป็นพี่น้องกันอยู่ไหม?
ไม่ใช่ว่าเสี่ยวปาไม่ตั้งใจเรียนสักหน่อย แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ยังสู้น้อง ๆ ของตนเองไม่ได้
เขาอายุมากที่สุด แต่ว่าเรียนหนังสือแย่ที่สุด แค่นี้ก็ไม่สบายใจพออยู่แล้ว ทำไมสองคนนั้นถึงต้องพูดแทงใจดำกันด้วยนะ
เด็ก ๆ ในห้องคุยกันอย่างสนุกสนานโดยที่ไม่รู้ว่าข้างนอกมีคนกำลังคิดมากอยู่
สองคนนั้นกำลังร่วมมือกัน และมันจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก
เสี่ยวเถียนจึงให้คำแนะนำแก่พี่เก้าเป็นครั้งคราว
โชคดีที่ความสามารถในการทำความเข้าใจของพี่เก้าดีมาก เขาจำสิ่งที่น้องสอนได้และก็เอามาประยุกต์ใช้
มีเสี่ยวจิ่วคอยช่วยเหลือ ความเร็วของเธอเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก