เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 446 พร้อมหน้าพร้อมตา (1)
บทที่ 446 พร้อมหน้าพร้อมตา (1)
บทที่ 446 พร้อมหน้าพร้อมตา (1)
ขณะที่กำลังบ่นถึงหลาน ๆ หลายชายของพวกเขาก็กลับมาพอดี พอคุณย่าซูเห็นหลายชายคนโตก็เลิกบ่นทันที แล้วปรี่เข้าไปสำรวจร่างกายเพื่อดูว่าเขาน้ำหนักลดหรือเปล่า จากนั้นก็เห็นฉืออี้หย่วนเดินตามหลังหลานเข้ามา
ตั้งแต่มาถึงเมื่อหลวง เด็กคนนี้ก็สูงขึ้นเยอะ แต่ผอมลงนิดหน่อย
“เสี่ยวหย่วนก็มาด้วยหรือ? โถ่ ไม่เจอกันตั้งหลายวัน ทำไมผอมลงขนาดนี้ล่ะ?”
คุณย่าไม่สนใจหลานอีกต่อไปแล้วหันไปห่วงอีกคนแทน ส่วนหลานแท้ ๆ ได้แต่รู้สึกขมขื่นเมื่อเห็นฉากนี้ ทำไมย่าถึงหันไปช่วยคนนอกเนี่ย?
พวกเขาเป็นหลานชัด ๆ!
แต่อีกฝ่ายไม่รู้ถึงความขุ่นเคืองใจของหลาน แล้วยังห่วงอี้หย่วนอยู่
“เสี่ยวหย่วน กินให้เยอะ ๆ หน่อยสิ การบ้านเยอะเกินไปหรือ? งั้นหลังจากนี้กลับบ้านมากินข้าวพร้อมเสี่ยวเถียนนะ”
“ที่บ้านมีแค่ปู่กับหลานสองคนเอง ไม่มีคนดูแลเรื่องอาหารด้วย”
“เด็กคนนี้ ยังเห็นเราเป็นคนนอกอยู่อีกหรือ แค่มากินข้าวที่บ้านเองจะเป็นอะไรไป? ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในชุมชนการผลิตที่มีแต่คนมองแล้วนะ!”
หญิงชราเดินไปเดินมา มันทำเด็กหนุ่มลังเล
จริง ๆ เขาชอบบรรยากาศบ้านซูนะ ก่อนหน้านี้ก็มาบ่อย ๆ แค่ช่วงนี้ติดธุระเลยไม่ได้มาเท่านั้น
“คุณย่าซูครับ ผมโตขึ้นก็เลยผอมนิดหน่อยครับ แต่จริง ๆ สุขภาพผมดีมากเลยนะ” เด็กหนุ่มยิ้ม
หญิงชราตบ ๆ มือของเขาแล้วคลี่ยิ้ม “โตก็ดีแล้ว เป็นเด็กผู้ชาย ตัวสูง ๆ ดูกระฉับกระเฉงดี”
จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า เด็ก ๆ มารวมตัวกันได้ยังไงนะ?
“แล้วหลานมารวมตัวกันได้ยังไงน่ะ?”
“เจอกันตรงทางเดินครับ เห็นว่ายังหัววันก็เลยชวนมาด้วยกัน” โส่วเวินตอบ ถึงจะไม่พอใจที่ย่าสนใจแต่คนนอก แต่ก็ยังพูดด้วยความสุภาพ
ฉืออี้หย่วนพยักหน้ายืนยัน
แกจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
“วันนี้บ้านเราทำของอร่อยเยอะแยะเลย ย่าให้เสี่ยวลิ่วกับเสี่ยวชีไปเชิญบ้านคุณปู่ตู้กับป้าเถาฮวามาด้วย รีบไปล้างมือเร็ว จะได้มากินกัน”
พูดจบแกก็ปลีกตัวไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
ส่วนพวกอี้หย่วนเห็นคุณปู่ฉือกำลังดื่มชาขณะเดินไปล้างมือ
“คุณปู่!”
“สวัสดีครับคุณปู่ฉือ!”
พวกเด็ก ๆ รีบเข้ามาทักทาย
“ไอ้เด็กคนนี้ มาบ้านซูไม่บอกกันเลยนะ!” ฉือเก๋อเขม่นเมื่อเห็นหลานชาย
ฉืออี้หย่วนก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าปู่จะมา
เขาเดินไปนั่งข้าง ๆ “แค่บังเอิญครับ ปู่ต่างหากล่ะ พอผมไม่อยู่ก็บอกเบื่อ แต่ก็มาหาปู่ซูนะครับ!”
ฉือเก๋อไม่คิดว่าหลานชายจะเอาชนะแบบนี้ แถมยังยิ้มเหมือนเยาะเย้ยอีก!
แต่เขากลับมีความสุขมาก หลานเป็นแบบนี้ยังดีกว่าทำตัวเฉยเมยเย็นชา ถึงจะเป็นหลานชายที่ไม่อ่อนโยนและอ่อนหวานได้เท่าหลานสาว แต่เขาก็หวังว่าเด็กคนนี้จะเปลี่ยนไปบ้าง และทำตัวน่ารักเหมือนเด็ก ๆ กับเขาสักหน่อย
แต่เขาเจออะไรมาเยอะ จิตใจแบกรับภาระหนัก
ไม่ต้องทำตัวเป็นเด็ก ๆ ก็ได้ แต่บางครั้งก็พูดจาเข้าใจยากไปหน่อย
เป็นแบบนี้แหละ ดีแล้ว!
ฉือเก๋อมองด้วยสายตาพึงพอใจ
แต่หลานชายกลับไม่เข้าใจว่าทำไมมองแบบนั้น?
เขาอดสำรวจตัวเองไม่ได้ แต่หลังจากเห็นว่าเสื้อผ้าเรียบร้อยดีก็ยิ่งกังวล
และแววตาแบบนั้นมันทำให้กลัวมาก!
ปู่เขาเป็นอะไรเนี่ย?
ทำไมเหมือนจะดูเบลอ ๆ แบบนั้น? แถมยังยิ้มแปลก ๆ อีก?
เด็กหนุ่มรู้สึกขนกายลุกชัน
ด้วยความตื่นตระหนก เขารีบผุดลุกขึ้นหาข้ออ้างไปห้องน้ำแล้ววิ่งไป
ฉืออี้หยวนตัวใหญ่ เวลาวิ่งจึงไวมาก แทบไม่ทันได้พูด
เห็นหลานชายหนีกระเจิง ชายชราอดเสียใจไม่ได้
ทำไมหนีไปแบบนี้เล่า?
ฉือเก๋อมองแผ่นหลังของหลานชาย แววตาบ่งบอกเลยว่า ไม่ต้องพูดถึงมันแล้วกัน!
“คุณปู่ฉือ ตาเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ถ้ารู้สึกไม่ดีตรงไหนให้เสี่ยวเถียนดูไหมครับ?”
ซานกงเห็นฉือเก๋อกะพริบตาเหมือนจะเป็นตะคริว เขาเลยกลัวปู่จะเป็นอะไรที่ตาหรือเปล่าจึงรีบถาม
ชายชราพูดไม่ออก!
เสี่ยวซาน ทำไมโง่เขลาแบบนี้นะ??
ตาเขายังดีอยู่นะ ดีมากเลยด้วย!
แต่ดูเด็กคนนี้สิ อายุยังน้อย แต่ตาไม่ดีเสียแล้ว!
ซานกงไม่เข้าใจว่าทำไหมอีกฝ่ายถึงจ้องกันขนาดนี้ สีหน้าของปู่ดูว่างเปล่ามาก แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักนิด แล้วทำไมสีหน้าถึงยิ่งดำทะมึนแบบนั้นล่ะ?
หรือนอกจากสายตาไม่ดีแล้ว สุขภาพยังไม่ดีด้วย?
ขณะที่กำลังจะถาม คุณปู่ซูได้กลับมาแล้ว
แต่พอคุณปู่ซูเห็นใบหน้าของสหายดำมืด เขาก็ยิ่งแปลกใจ
ชายชราคนนี้สภาพจิตใจดีมาตลอด แต่หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเขาโกรธเลย วันนี้ไปเจออะไรมา? อุตส่าห์มาอยู่เมืองหลวงแล้วยังงุ่นง่านอีกหรือ?
“ไปทำอะไรมา ทำไมหน้าตาถมึงทึงแบบนั้น? หน้าตาหงุดหงิดแบบนี้ หลานรักฉันจะกลัวเอานะ!”
คุณปู่ซูทำให้สีหน้าฉือเก่อกลับมาดีขึ้นได้ในที่สุด อีกฝ่ายลูบหัวตัวเอง เขาลืมนึกถึงเสี่ยวเถียนไปเลย ก่อนจะหันไปหาเด็กสาว “เสี่ยวเถียน ปู่ไม่ได้จ้องหลานนะ ตกใจหรือเปล่า?”
เด็ก ๆ บ้านซูสับสน นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย?
น้องเล็กขี้กลัวตั้งแต่เมื่อไร
หลังจากยืนยันว่าตนไม่ได้กลัว ฉือเก๋อก็กล่าวต่อ “หลานพูดหน่อยสิ พี่สามเขาโตขนาดนี้แล้วแต่พูดไม่รู้เรื่องเลย จากนี้ไปจะทำยังไง?”
โชคดีที่ไม่ใช่ศิษย์ของตน ไม่งั้นคงกังวลตายแล้วสินะ?
กลับไปต้องบอกเสิ่นจื่อเจินหน่อย ให้สอนเขาดี ๆ ไม่งั้นจะกลายเป็นคนขี้กังวลเอา หรืออาจจะหาลูกสะใภ้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
ซานกงถูจมูก เขาไปทำอะไรเนี่ย?
เหมือนจะไม่ได้พูดอะไรเลยนี่?
เสี่ยวเถียนยิ้ม แถมยังยิ้มอย่างชั่วร้ายอีกต่างหาก น่ารักเสียจริง
พี่สามผู้โง่เขลาคนนี้เอาแต่ห่วงแผ่นดิน ใจก็เต็มไปด้วยผืนดินและพืชผลทั้งนั้น…
มีเชาวน์พอแล้ว แต่ความฉลาดเรื่องอารมณ์เนี่ยสิ น่าป็นห่วง!
ช่างเถอะ ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกัน
เสี่ยวลิ่วพาสองสามีภรรยาตู้มาที่บ้าน แต่ขากลับดันมากันห้าคนแทน
คุณปู่คุณย่าซูไม่คิดเลยว่าจะมีคนเยอะขนาดนี้
ที่บ้านตู้อยู่กันสองคนไม่ใช่หรือ ญาติที่ไหนก็ไม่ค่อยมี แล้วทำไมวันนี้ถึงมีคนอื่นมาด้วย?
เสี่ยวเถียนจำแววตาเฉียบคมคู่นั้นได้ เป็นคนรู้จักจริง ๆ
“ลุงฮั่ว!” เด็กสาวตะโกนอย่างมีความสุข
“ลุงฮั่ว? สาวน้อย ก่อนหน้านี้บอกให้เรียกฉันว่าพี่ใหญ่ไม่ใช่หรือ?” ชายผู้มีใบหน้าเด็กเอ่ย
เสี่ยวเถียนร้องเหอะแล้วพูดจากระเง้ากระงอด “ไม่ดูหน่อยเลยว่าตัวเองอายุเท่าไร หนูเรียกพี่ใหญ่ คุณก็กล้ารับด้วยหรือ!”
เหอะ! แสร้งทำเป็นเด็ก ไม่ได้เลย!
ฮัวซิ่วเฉิงถูจมูกด้วยความลำบากใจ เขาก็อายุเยอะกว่าจริง ๆ นั่นแหละ
แต่ใครจะไม่ชอบที่โดนเรียกให้เด็กกว่าอายุล่ะ?
นาน ๆ ทีจะได้เจอกันแท้ ๆ ทำไมทำตัวไม่น่ารักแบบนี้นะ! แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงคิดว่าเด็กผู้หญิงควรจะอ่อนโยนและน่ารักกันนะ?
“สาวน้อย ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง เรียกพี่ใหญ่เร็ว เดี๋ยวมีของขวัญให้!”
ฮั่วซิวเฉิงอดทนเกลี้ยกล่อมต่อ
เขาไม่ยอม ไม่ยอมเด็ดขาด!
เสี่ยวเถียนมองอีกฝ่ายด้วยความดูถูก หน้าไม่อายจริง ๆ เลย! ยังจะให้เรียกเขาว่าพี่ใหญ่อีก…
“เหอะ คิดว่าหนูล่อซื้อง่ายขนาดนั้นเลยหรือคะ?” หลังจากตอบอย่างเย่อหยิ่งก็ก้าวเข้าไปข้างหน้า “ลุงฮั่ว เตรียมของขวัญอะไรให้หนูคะ?”
ฮั่วซิวเฉิงไม่อยากคุยกับเธอเลยเมื่อได้ยินคำว่าลุงฮั่วอีกครา
เอาให้คนอื่นดีไหม?
แต่เด็กบ้านซูซุกซนกันทั้งนั้น เล่นด้วยไม่สนุกเลย
“ลูกเอ๋ย อายุเท่าไรแล้ว ให้เด็กเขาเรียกพี่ชาย อายบ้างไหมเนี่ย?”