เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 450 ติดตั้งโทรศัทพ์
บทที่ 450 ติดตั้งโทรศัทพ์
บทที่ 450 ติดตั้งโทรศัทพ์
เสี่ยวเถียนพูดตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อม อวี่รุ่ยหยวนก็อาศัยอยู่ในชนบทเหมือนกัน
ตอนนั้นแกลำบากกว่าชาวบ้านทั่วไปเยอะเลย
“คิด ๆ ดู ก่อนที่จะไปอยู่หงซิน เหมือนจะแก่กว่าตอนนี้เยอะเลยนะ!” หญิงชราสัมผัสใบหน้าเรียบเนียนของตัวเอง
แต่ผ่านมาตั้งหลายปี ทำไมยิ่งเยาว์วัยขึ้นล่ะ?
เสี่ยวเถียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“คุณปู่ คุณย่า มันเป็นเพราะสุขภาพของพวกท่านดีมากไงค่ะ ถ้าใส่ใจเรื่องอาหารการกินก็ดีแล้วค่ะ”
“จริงด้วย ย่าต้องฟังหลานแล้ว!” หญิงชรายิ้ม
“ยาไม่ใช่สิ่งที่ดีค่ะ จะกินมั่วซั่วไม่ได้” เด็กสาวพูดอย่างจริงจัง
“เข้าใจแล้ว พวกเราไม่ใช่คนเลอะเลือนนะ!” ตู้ถงเหอรีบยิ้ม
ไม่ใช่ว่าคิดแบบนั้นหรอก แต่เพราะเสี่ยวเถียนตรวจอาการป่วยให้ แถมยังทำยาให้อีก จะไม่อิจฉาได้ยังไงล่ะ?
อันที่จริงทั้งสองจะไปรู้ได้ยังไงว่าเสี่ยวเถียนเป็นห่วงมาตั้งแต่หงซินแล้ว เพิ่งจะเห็นผลลัพธ์ก็ในตอนที่ผ่านมาอีกหลายปี
ไม่ใช่แค่สองสามีภรรยาตู้ แต่สุขภาพของฉือเก๋อก็ฟื้นตัวจากความพยายามของเสี่ยวเถียนมาอย่างต่อเนื่องด้วย
แต่บางโรคไม่ใช่ว่าจะรักษาให้หายขาดได้
เสี่ยวเถียนมีทักษะที่ดีก็จริง แต่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด จึงต้องค่อย ๆ ทำการรักษาช้า ๆ
ตอนนั้นเองที่ปู่ย่าบุญธรรมเพิ่งจะเข้าใจ
อยู่หงซินมาหลายปี แต่สุขภาพกลับดีขึ้นจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ตอนนั้นคิดว่าเพราะชีวิตสงบสุขเลยมีสุขภาพที่ดี
แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเพราะเป็นผลงานของหลานสาว
ไม่แปลกใจที่ทำไมก่อนหน้านั้นถึงเอาผักป่าแปลก ๆ มาให้กิน
อาจจะไม่ใช่ผักป่า แต่เป็นสมุนไพร? เอาเป็นว่าผักป่าแล้วกัน มันก็ไม่ได้แย่อะไร
เดิมทีพ่อฮั่วแม่ฮั่วไม่ค่อยเชื่อความสามารถของเสี่ยวเถียนเท่าไร แต่พอได้ยินสิ่งที่ตู้ถงเหอเอ่ย สีหน้าพลันผ่อนคลายลงมาก
“เสี่ยวเถียน แล้วพ่อแม่ของฉันต้องกินยานานแค่ไหนหรือ?” ฮั่วซิวเฉิงเชื่อมั่นในตัวเสี่ยวเถียนมาก
หาได้ยากที่เขาจะมีใบหน้าจริงจังแบบนี้ เพราะเป็นห่วงพ่อกับแม่จริง ๆ เขาเป็นลูกคนเดียวในบ้านต้องเป็นห่วงพ่อแม่อยู่แล้ว
“กินมากกว่าสิบวันค่ะ ครึ่งเดือนก็พอแล้ว กลับไปจะจ่ายยารักษาให้นะคะ กินไปสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว”
สุขภาพของพวกเขาไม่สู้ดีนัก แต่เสี่ยวเถียนจะดูแลอย่างดีแน่นอน
ได้ยินเช่นนั้นทั้งสองก็รีบโบกมือ “เราเป็นคนชนบท ไม่ต้องดูแลอะไรหรอก”
แม่เจ้า จะดูแลไปทำไม? แล้วเราจะทำงานในชุมชนได้หรือ? หัวหน้าได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่
ครั้งนี้ถ้าลูกชายไม่มารับก็คงไม่ได้มาที่นี่หรอก
ก่อนที่จะได้พูดอะไร อวี่รุ่ยหยวนยิ้มแล้วเอ่ยปากเสียก่อน “ฉันกับเหล่าตู้ก็สุขภาพไม่ดีเหมือนกัน เติบโตมาจากชนบท ที่นั่นมันมีปัญหาอะไรกัน? สภาพแวดล้อมดี อากาศดี เหมาะจะดูแลสุขภาพนะ!”
จากนั้นอวี่รุ่ยหยวนก็เล่าเรื่องตอนที่อยู่หงซินให้พวกเขาฟัง เดิมทีก็เพื่อจะปลอบใจ แต่ยิ่งพูดเท่าไรก็ยิ่งตระหนักได้ว่ามันมีรายละเอียดที่ไม่ได้สังเกตมาก่อน
เสี่ยวเถียนช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้มากมายเลย
พวกเราสองคนเป็นหนี้บุญคุณเธอยิ่งนัก ไม่รู้เลยว่าชีวิตเราจะเป็นยังไงหากไม่มีเสี่ยวเถียน
ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ได้มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว!
สองสามีภรรยาฮั่วไม่รู้ถึงอารมณ์ผันผวนในใจอวี่รุ่ยหยวน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังเหมือนกันว่าพ่อแม่ของผู้เสียสละเพื่อชาติจะมีชีวิตเช่นนี้มาก่อน
ถ้าวิญญาณสหายเสี่ยวตู้รู้เข้า ก็คงจะเป็นห่วงพ่อแม่เหมือนกันใช่ไหม?
“เสี่ยวเถียนมีความสามารถจริง ๆ ถ้าเธอบอกว่ารักษาอาการป่วยให้ได้ มันก็ไม่มีปัญหาแล้วล่ะ”
ยิ่งได้ยินคำพูดจากหญิงชรามากเท่าไร พ่อแม่ฮั่วก็ยิ่งไว้ใจเสี่ยวเถียนมากกว่าเดิม ยาสำหรับคนทั้งสองไม่จำเป็นต้องเป็นยาเม็ด หลังจากเขียนใบสั่งยา เด็กสาวก็ให้ฮั่วซิวเฉิงไปรับยาที่ร้านขายยา
ที่ให้ฮั่วซิวเฉิงไปก็เพื่อให้อีกฝ่ายและคนจ่ายยาได้ทราบตรงกัน
เธอไม่ใช่หมอที่เป็นที่รู้จัก แม้แต่ฮั่วซิวเฉิงก็ยังไม่ไว้ใจเลย
ตกบ่าย ชายหนุ่มเสนอตัวปรุงยาให้พ่อแม่
เขาบอกพ่อแม่ในสิ่งที่หมอพูดเป็นการส่วนตัว
หมอบอกว่ายาพวกนี้ดีต่อร่างกายมนุษย์ แถมยังบอกอีกว่ากินได้อย่างสบายใจ!
ฮั่วซิวเฉิงทำให้พวกท่านกินทุกวัน หลังจากกินไปสองวัน ทั้งสองดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เขาไม่คิดเลยว่ายาที่เสี่ยวเถียนจ่ายให้จะมีประสิทธิภาพแบบนี้
ตอนนั้นที่มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว จึงรีบออกไปหาเด็กหญิงทันที
“เสี่ยวเถียน ได้ยินว่าเธอเก่งเรื่องทำยา เลยอยากถามว่ามียาอะไรที่สามารถห้ามเลือดได้เร็วไหม?”
เสี่ยวเถียนรู้สึกประหลาดใจกับคำถามนี้มาก
ในยุคที่สงบสุข ไม่มีเหตุการณ์นองเลือดและการสังเวยชีวิต ทำไมจะต้องมียาห้ามเลือดฉุกเฉินด้วยล่ะ?
ถ้าสะดุดล้มก็ไม่น่าต้องใช้ยาหยุดเลือดแบบฉุกเฉินสิ?
เธอขบคิดแล้วเอ่ยถามสิ่งที่อยู่ในใจออกไป
ฮั่วซิวเฉิงได้ยินก็ถอนหายใจยาวเหยียด!
โลกรู้แค่ว่านี่คือช่วงเวลาแห่งสันติภาพ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าต่อให้สันติหรือไม่ สำหรับพวกทหารแล้วมันมีการนองเลือดอยู่เสมอ
“เสี่ยวเถียน ถึงจะเป็นช่วงเวลาสงบสุข แต่มันก็ยังมีเหตุการณ์การนองเลือดก็เกิดขึ้นเหมือนกันนะ ถ้าเราหยุดเลือดได้เร็ว อาจช่วยชีวิตคนในเวลาวิกฤตก็ได้”
น้ำเสียงของฮั่วซิวเฉิงเต็มไปด้วยความเศร้า
ขนาดเป็นช่วงเวลานี้ เขาก็เห็นสหายเสียสละไปมากกว่าหนึ่งครั้ง
แถมยังมีคนที่ห้ามเลือดไว้ไม่ได้จนต้องกลายเป็นคนพิการ ถ้าเสี่ยวเถียนทำยานี้ได้ ก็ไม่รู้จะมีกี่คนที่ได้รับประโยชน์
เสี่ยวเถียนเงียบไปครู่หนึ่ง
ฮั่วซิวเฉิงเป็นทหาร ดังนั้นเขารู้สิ่งเหล่านี้ดีกว่าเธออยู่แล้ว
“พี่ใหญ่ เรื่องนี้ต้องให้หนูคิดก่อนนะ มันน่าจะมียาที่ช่วยได้อยู่ แต่หนูต้องการเวลา”
ครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะเอ่ยตอบได้
มันมีอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องการปรับปรุงใหม่
ฮัวซิ่วเฉิงพยักหน้า ถ้าผสมยาขึ้นมาได้ รออีกหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก
เสี่ยวเถียนวุ่นกับการเตรียมยาให้ต่งหยวนจงอยู่ เธอไม่ได้เริ่มศึกษาเรื่องยาห้ามเลือดเดี๋ยวนั้น
หยุดเลือดอย่างเดียวมันไม่พอ เราต้องทำให้มันสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ และความเร็วในการบรรเทาต้องไวด้วย
ยาแบบนี้หากใช้ภายนอกจะมีประสิทธิภาพมาก แต่เธอก็รู้สึกอีกว่าถ้าเป็นแบบใช้กินจะฟื้นฟูผู้บาดเจ็บได้ดีกว่า
อีกอย่างเธอต้องศึกษาด้วยว่า ยาจากแพทย์แผนจีนจะมีประสิทธิภาพมากพอที่จะมาทดแทนยาจากแพทย์แผนตะวันตกและการผ่าตัดได้ไหม
และถ้าเกิดผลออกมาไม่ดีอย่างที่คิด มันจะส่งผลร้ายกับเธอหรือเปล่า
เสี่ยวเถียนอยากจะทำอะไรสักอย่าง แต่ตัวเองก็ยังมีความกังวลอยู่
ฮั่วซิวเฉิงไม่ได้เร่งเร้า เขาง่วนอยู่กับการจัดการธุระให้เธอ
ผู้เป็นทหารจัดการได้อย่างว่องไว ในที่สุดโทรศัพท์ของร้านหออีหมิงก็ได้รับการติดตั้ง
วันที่เรามีโทรศัพท์และต้องจ่ายค่าโทร คุณย่าซูปวดใจมาก
ค่าติดตั้งก็เสียเงินเยอะแล้ว
ราคาเท่ากับรายได้ครึ่งเดือนของเธอเลย มันหายวับไปกับตาเลยนะ!
“มันเป็นของที่อำนวยความสะดวกเลยนะ แต่ใช้เงินมากจริง ๆ เนี่ยสิ”
หญิงชราปวดใจ พึมพำระหว่างมองโทรศัพท์สีแดง!
ได้ยินว่าไม่ใช่จ่ายแค่ค่าติดตั้งเท่านั้น แต่ยังต้องจ่ายค่าโทรด้วย