เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 500 สุภาพสตรีก็อยากกินเหมือนกันนะ
บทที่ 500 สุภาพสตรีก็อยากกินเหมือนกันนะ
บทที่ 500 สุภาพสตรีก็อยากกินเหมือนกันนะ
“คากิแล้วมันทำไมหรือ? เธอกินได้ พวกเราก็กินได้เหมือนกันนะ!”
ตอนนั้นคริสติน่าเข้าใจแล้วว่า ทำไมสีหน้าพี่ชายถึงเป็นแบบนั้น ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่เคยกินอาหารชนิดนี้มาก่อน พี่ชายของเธอยังไม่ทันลิ้มลองก็ไม่ชอบแล้วหรือ? แต่หน้าตามันดูน่าอร่อยมากเลยนะ เธอก็อยากกินบ้างทำอย่างไรได้ล่ะ?
สุดท้ายเด็กสาวก็ตัดสินใจเมินเฉยต่อความทุกข์ทรมานของพี่ชาย ขอลิ้มลองอาหารรสเลิศนี้ก่อนค่อยว่ากัน
ตอนที่เสี่ยวเถียนกำลังลังเล เธอไม่ทันเห็นว่าคริสติน่าก็คีบคากิขึ้นมาชิ้นนึง แล้วยัดเข้าไปในปากอย่างฉับไว ไม่สนใจออกัสที่ยืนเบิกตาโพล่งอยู่ใกล้
เขาตะโกนลั่นด้วยความตกใจ “คริสติน่า กินไม่ได้นะ!”
ไม่ทันเสียแล้ว…
คริสติน่ากลืนมันลงไปในคำเดียว
“พี่คะ อาหารจานนี้มันอร่อยที่สุดในโลกเลยนะ อร่อยจริง ๆ นะ โอ๊ย ฉันคิดว่าอาหารที่กินก่อนหน้านี้มันอร่อยแล้วนะ แต่จานนี้ต่างหากที่เพิ่งรู้ว่าอร่อยมากขนาดนี้!”
คำพูดของเธอทำให้สีหน้าออกัสบิดเบี้ยวกว่าเดิม จู่ ๆ ก็รู้เสียใจขึ้นมาที่พาน้องสาวมาประเทศจีนด้วยกัน ตั้งแต่เหยียบแผ่นดินนี้ น้องสาวของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนราวกับคนไม่รู้จัก
เธอทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?
“คริสติน่า มันคือกีบเท้าหมูเลยนะ อาหารที่แม้คนระดับล่างยังไม่อยากจะกินเลย!”
ออกัสเดินเข้าไปกล่อมให้น้องเลิกกินอย่างจริงจัง บนใบหน้าปรากฏร่องรอยความตึงเครียดที่หาได้ยาก
แต่คริสติน่าที่เอาชนะความอยากของตัวเองได้ จะยอมให้พี่ชายควบคุมความคิดได้อย่างงั้นหรือ?
“พี่ลองกินดูสิคะ อาหารบนโลกนี้มันก็เท่าเทียมกันหมดนะ ไม่มีสิ่งที่คนชนชั้นล่างควรกินหรือคนชั้นสูงควรกินหรอกนะคะ”
จู่ ๆ ออกัสก็รู้สึกว่าสิ่งที่น้องสาวพูดฟังดูมีเหตุผล
อาหารควรแบ่งแค่อร่อย ไม่อร่อย ไม่ควรมีการแบ่งระดับชนชั้น แม้วัตถุดิบจะดีมีคุณภาพสูง แต่ถ้าไม่รู้วิธีทำก็ไม่สามารถทำมันออกมาให้อร่อยได้หรอก
กลับกันถ้าตัววัตถุดิบไม่ได้แพง แต่ทักษะการทำอาหารยอดเยี่ยม แค่นี้ก็สามารถพิชิตต่อมรับรสของผู้คนได้แล้ว แม้จะคิดเช่นนั้นแต่กลับไม่กล้าลองชิมสักคำ
ถึงจะมองคากิด้วยความตะกละ แต่ก็ไม่ได้ลิ้มรส
คริสติน่าปล่อยเลยตามเลย ไม่สนใจสีหน้าพี่ชายแล้วเริ่มกินคากิตามเสี่ยวเถียนโดยไม่สนภาพลักษณ์
ออกัสขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ ภาพลักษณ์ของน้องสาวเหมือนสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์ได้เหลือน้อยลงไปทุกที
อันที่จริงเพราะการเลี้ยงดูที่ดีเลยทำให้คริสติน่ายังมีความสง่างามได้อยู่ แม้จะกินกีบเท้าหมูก็ตาม
เรื่องอาหารการกิน คริสติน่ายังมีศักยภาพเสมอ
แค่ดูเสี่ยวเถียนกิน เธอก็กินเป็นแล้ว
แถมยังกินไวกว่าด้วย
เสี่ยวเถียนตกใจมาก
หรือนี่จะเป็นพรสวรรค์?
“พี่อยากกินไหม? ถ้าไม่กิน งั้นพวกเรากินหมดเลยนะ!”
อันที่จริงเธออยากจะกินให้หมดทั้งจาน แต่ด้วยจิตวิญญาณของมิตรภาพฉันพี่น้อง จึงหันไปถามความเห็นพี่ชายก่อน
ออกัสโดนอาหารอร่อย ๆ ล่อลวง แต่ในฐานะสุภาพบุรุษ เขาก็มีจุดยืนเป็นของตัวเองเหมือนกัน ถึงจะตะกละแต่ก็ไม่ยอมกินกีบเท้าหมูเด็ดขาด
คริสติน่าจิ้มคากิชิ้นสุดท้ายขึ้นมาด้วยส้อม
เสี่ยวเถียนตะลึงงัน ของอร่อยอันอย่างอีกมีตั้งมากมายทำไมไม่กิน ทำไมมาแย่งคากิเธอไปได้ล่ะ?
จานนี้มันเป็นของเธอนะ!
“คริสติน่า เธอกินข้าวเย็นของฉันอยู่นะ!” เสี่ยวเถียนพูดแทบไม่ออก
“เถียนเถียน เธอเป็นเพื่อนฉันแต่กลับปิดบังเรื่องนี้เอาไว้นะ ของอร่อยกลับไม่คิดแบ่งให้กิน ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนะ!” แต่อีกฝ่ายกลับตอบอย่างมีชั้นเชิง
คริสติน่าน้อยใจมาก เธอคิดว่าในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน เสี่ยวเถียนกลับทรยศเรื่องของกินซึ่งเธอให้อภัยไม่ได้!
“…” เสี่ยวเถียน
ทำไมมันถึงกลายมาเป็นความผิดฉันได้ล่ะ?
ใคร ๆ ก็บอกไม่ใช่หรือไงว่าต่างชาติไม่กินเครื่องในน่ะ?
แถมยังไม่ชอบเนื้อที่ติดกระดูก ขนาดปลายังต้องแกะก้างออกก่อนเลยไม่ใช่หรือไง? หรือสิ่งที่เธอเคยได้ยินมาเป็นเรื่องโกหก? หรือความจริงแล้วคริสติน่าจะเป็นต่างชาติปลอม
“พี่คะ มันอร่อยมากเลย! พรุ่งนี้หนูอยากมากินอีก!”
แทะคากิชิ้นสุดท้ายเธอก็เอาแต่พูดจ้อไม่หยุด
“คริสติน่า เธอเป็นสุภาพสตรีนะ!”
“พี่คะ สุภาพสตรีก็อยากกินเป็นเหมือนกันนะ!”
ออกัสนิ่งงันพูดไม่ออก
พอเห็นคากิอีกจาน คริสติน่าพลันตื่นเต้นขึ้นมา
เธอคิดว่ามันหมดแล้วซะอีก!
“เสี่ยวเถียน ขออีกจานนึงสิ!”
“คุณคริสติน่าคะ วันนี้คุณกินไปเยอะแล้วนะ” เสี่ยวเถียนกุมขมับ
คากิของเธอโดนคริสติน่าแยกกินจนหมดเลย แถมยังคิดจะกินต่อในวันพรุ่งนี้อีก
“แต่สองคนนั้นยังได้เอากลับบ้านไปตั้งเยอะเลยนะ!”หญิงสาววาดแขนกว้างทำท่าเกินจริง
“พวกเขายังมีคนรออยู่ที่บ้านอีก ดังนั้นจึงซื้อกลับไปฝากคนที่บ้าน!” เสี่ยวเถียนพยายามอดทน “บรรพบุรุษของเราบอกไว้ว่าเราไม่ควรทำผิดพลาดเกินสามครั้ง เรื่องของกินก็ไม่ควรกินเยอะเกินไปในครั้งเดียวด้วย!”
ถึงจะไม่เข้าใจสิ่งที่เสี่ยวเถียนกล่าว แต่เพราะตนเป็นคนที่เชื่อฟัง สุดท้ายก็ยอมเลิกกินคากิจนได้
ออกัสตัดสินใจคุยเรื่องนี้กับน้อง เขาไม่ได้พาน้องมาประเทศจีนเพื่อให้กลายเป็นคนหยาบคายนะ?
หลังจากส่งสองพี่น้องกลับไป งานวันนี้ได้จบลงเสียที
พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของพวกเขาจะอยู่ที่ประเทศจีน ส่วนแพลนในวันพรุ่งนี้คือไปพระราชวังต้องห้าม
ยามพวกเขาเห็นพระราชวังแห่งนี้ก็ต้องตกใจ พวกเขาคิดว่าปราสาทหรูพอแล้วนะ แต่เมื่อเทียบกับพระราชวังต้องห้ามตรงหน้าเหมือนจะเทียบแทบไม่ติด
เพื่อที่จะพาพวกเขาไปดู เสี่ยวเถียนก็ต้องทำการบ้านมาก่อนเหมือนกัน เด็กหญิงเล่าเรื่องราวมหัศจรรรย์ที่เกิดขึ้นที่นี้ให้พวกเขาได้ฟังอย่างตั้งใจ และเล่าเรื่องราวที่ซุกซ่อนอยู่ในกาลเวลาได้อย่างน่าสนใจ
เด็กสาวเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี แววตาของคนทั้งคู่เป็นประกายราวกับได้ย้อนเวลากลับไปอยู่ในยุคนั้น
“เถียนเถียน ฉันคิดว่าประเทศเธอเป็นประเทศตะวันออกที่ล้าหลังและยากที่จะหยั่งถึงนะ แต่หลังจากที่ได้มาก็พบว่ามันแตกต่างไปจากที่คิดไว้โดยสิ้นเชิงเลย” คริสติน่าพูดออกจากก้นบึ้งของหัวใจ
หญิงสาวรู้สึกว่าเธอหลงรักประเทศนี้อย่างมาก ทำยังไงดีล่ะ?