เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 502 ธุรกิจใหม่
บทที่ 502 ธุรกิจใหม่
บทที่ 502 ธุรกิจใหม่
เขายังชิมเนื้อได้
เนื้อสไลด์บาง ๆ ง่ายต่อการคีบด้วยตะเกียบมาก แต่การใช้ช้อนส้อมกลับยากกว่า
แต่ออกัสอดทนเพื่อให้ได้กินเนื้อวัวตุ๋นตรงหน้า หลังจากได้ลิ้มลองความนุ่มนั้นแล้ว ก็พยักหน้าซ้ำ ๆ
เขาเคยไปมาหลายประเทศ ทั้งยังได้ลิ้มรสอาหารหลายอย่าง แต่ยอมรับเลยว่าอาหารรสเลิศของประเทศจีนช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ถึงในตอนนี้จะเป็นประเทศที่ยากจน แต่วัฒนธรรมด้านอาหารทั้งกว้างขวางและลึกซึ้งยิ่ง!
ขนาดเป็นร้านที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ยังมีของอร่อยขนาดนี้เลย ช่างน่าทึ่งจริง ๆ
ส่วนคริสติน่าชิมทั้งสองจานแล้ว ถึงมันจะอร่อยแต่คากิอร่อยดีกว่า
“คริสติน่า ที่ประเทศจีนไม่ได้มีแค่คากิตุ๋นเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีตีนไก่ หนังหมูและเต้าหู้ตากแห้งค่ะ รสชาติดีทั้งนั้นเลย”
วัตถุดิบหลายอย่างสามารถนำมาทำเป็นหลู่เว่ยได้ ขอแค่รสชาติน้ำหลู่เว่ยอร่อย ไม่ว่าจะใส่อะไรลงไปรสชาติก็อร่อยทั้งนั้น
คริสติน่ารู้สึกกลับประเทศไปรอบนี้ไม่คุ้มเลย
คิดอีกทีจะดีแค่ไหนถ้าได้คุณย่าซูมาเป็นย่าของเธอน่ะ?
เธออยากอยู่ที่นี่!
แม้จะโดนปฏิเสธมาแล้วรอบนึง แต่ก็ไม่อายที่จะพูดมันออกมาอีกครั้ง
ตอนนั้นคุณย่าซูกำลังห่อเกี๊ยวอยู่ ถึงหญิงชราจะไม่ได้รับคำขอที่เด็กคนนั้นเอ่ยมา แต่ก็ยังปฏิบัติต่อกันในฐานะหลานสาวอยู่ดี แถมหลายวันที่ได้พูดคุยกัน ก็รู้สึกชอบเด็กคนนี้มาก คงเพราะเด็กคนนั้นเป็นคนมองโลกในแง่ดี จึงทำให้คนอื่น ๆ ชอบได้ง่าย คุณย่าคิดว่าเธอเป็นเด็กดีมาก
ตอนที่รู้ว่าทั้งสองกำลังจะกลับประเทศในวันพรุ่งนี้เช้า แกก็เตรียมอาหารเย็นด้วยความเอาใจใส่
นอกจากเตรียมอาหารที่พวกเขาชอบแล้ว ยังห่อเกี๊ยวให้เป็นพิเศษอีกด้วย
“หลานรัก บอกพวกเขาทีว่าย่าไม่เต็มใจไปส่ง พวกเขาจะได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง” คุณย่าซูไม่เต็มใจสักนิด
เสี่ยวเถียนยิ้มยามสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของหญิงชรา ก่อนจะพูดกับคนทั้งสองว่า “มีคำพูดโบราณของประเทศจีนกล่าวไว้ว่า ‘ขึ้นรถมอบเกี๊ยว ลงรถมอบบะหมี่’*[1] คุณย่าฉันทำเกี๊ยวมาส่งน่ะ ห่อให้เป็นพิเศษเลยนะ แกบอกว่าไม่อยากให้พวกคุณไปเลย และหวังว่าจะมีโอกาสกลับมาอีกนะ”
สองพี่น้องเอ่ยขอบคุณด้วยความสุภาพ และคริสติน่าเป็นฝ่ายเข้าไปกอดคุณย่า
หญิงสาวนักชิมไม่เต็มใจจะจากไปสักนิด
เสี่ยวเถียนนึกสงสัย ที่ไม่เต็มใจไปไม่ใช่เพราะต้องจากคุณย่าไปหรอก แต่เพราะต้องจากอาหารอร่อย ๆ ที่ย่าทำต่างหาก!
หลังจากส่งพวกเขากลับ เสี่ยวเถียนยืนเล่นนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์ รุ่น Golden Ellipse สุดประณีตที่คริสติน่ามอบให้อยู่พักหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมันดี
เธอจะรับของขวัญมาเฉย ๆ ไม่ได้ ถึงมันจะไม่แพงสำหรับอีกฝ่าย แต่เสี่ยวเถียนกลับรู้สึกละอายใจ ขณะที่กำลังหงุดหงิดงุ่นง่าน คุณย่าซูก็เห็นฉากนี้พอดี
“หลานรัก เป็นอะไรไป ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้น?”
เสี่ยวเถียนยกนาฬิกาให้ย่าดู
“นาฬิกาเรือนสวยจังเลย สวยกว่าในห้างสรรพสินค้าเยอะเลย” แกพูดด้วยความตื่นเต้น
“…” เสี่ยวเถียน
พูดตามตรงนะ เรือนนี้เรือนเดียวซื้อนาฬิกาในห้างได้เป็นร้อย
“คุณย่า ราคาน่าจะเท่าบ้านเราหลังนึงเลยนะ!”
เธอไม่รู้ราคาที่แน่ชัด จึงคาดคะเนเอา
คุณย่าซูเกือบล้ม บ้านหลังนึงเลยหรือ แม่เจ้าล้ำค่าเหลือเกิน
“ถ้างั้นเรารับมันไว้ไม่ได้หรอกนะ!”
“หนูปฏิเสธเขาไม่ได้น่ะสิคะ เลยกำลังคิดอยู่ว่าจะให้อะไรตอบแทนเขาดี”
คุณย่าซูเอ่ยอย่างใจกว้าง “ก่อนหน้านี้บ้านย่าอวี่ก็ให้เครื่องประดับอยู่หลายชิ้นเลยนี่ มอบให้เป็นการตอบแทนสักชิ้นก็ได้นะ!”
ตอนนั้นเองที่เสี่ยวเถียนจำได้ว่าเธอยังมีเครื่องประดับสวย ๆ ซ่อนไว้ในกล่องเก็บของของระบบอยู่
อันที่จริงของพวกนั้นก็เทียบกันได้นะ
เมื่อปัญหาได้รับการแก้ไข เสี่ยวเถียนกลับมามีความสุขอีกครั้ง
“หลานรัก ย่าว่าปีนี้สถานการณ์ดีขึ้นมากเลย สมบัติพวกนั้นเราควรเอาออกมาไหม?”
เสี่ยวเถียนจำได้ว่ามันก็ดีอย่างที่ว่าจริง ๆ หลายปีมานี้เธอได้สมบัติมาเยอะแยะ แถมยังเอาไปแลกเงินได้มาไม่น้อยเลย
แต่ตอนนี้เครื่องประดับมันไม่มีค่ามากเท่าไรแล้ว ต่อให้ส่งเงินกับทองไปแลกที่ธนาคารก็ไม่ได้มีค่าขนาดนั้น
“รออีกหน่อยดีกว่าค่ะย่า สุขุมรอบคอบจึงกุมเรือหมื่นปี*[2]นะ” เธอเอ่ยเสียงเรียบ
คุณย่าซูพยักหน้าซ้ำ ๆ “ที่หลานว่าก็จริง ระวังไว้ไม่เสียหาย”
ตอนนี้บ้านเราไม่ได้ขาดเหลือเงินอะไร เธอกับตาแก่ออมไว้ได้หลายพันหยวนเลย ร่ำรวยมาก!
ยุคล้านครัวเรือนจะมีเงินเป็นหมื่นยังไม่ปรากฏ เงินหลานพันหยวนที่ออมมามีพอให้ย่าไม่ต้องหลังขดหลังแข็งทำงาน
เสี่ยวเถียนจำได้ว่าเธอจะต้องไปส่งคริสติน่าที่สนามบินพรุ่งนี้ จึงเอ่ยขอความเห็นจากหญิงชรา
“คุณย่า คริสติน่าชอบหลู่เว่ยบ้านเรามาก เราเตรียมไว้ให้เธอไปกินบนเครื่องดีไหมคะ?”
คุณย่าเห็นด้วย
คืนนี้แกเตรียมอาหารจีนแสนอร่อยไว้เป็นพิเศษเพื่อสองพี่น้อง ยุ่งกระทั่งถึงเที่ยงคืน
แกเตรียมหมูแผ่น เนื้อกวางกล้วยไม้ (ส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในกรรมวิธีหมักเนื้อกวาง โดยใช้จะเหล้าเหมาไถ เหล้าเฝิน และอู่เหลียงเย่ผสมกัน จึงมีกลิ่นคล้ายกล้วยไม้) เนื้อวัวตากแห้งและอีกหลายเมนู
หญิงชราหากล่องข้าวใบใหญ่สองใบเป็นพิเศษ และใส่เครื่องหลู่เว่ยลงไป
กล่องของคริติน่ามีคากิ ตีนไก่ หนังหมู หัวใจหมู และเนื้ออื่น ๆ ในหลู่เว่ย
ส่วนของออกัสเรียบง่ายมาก มีทุกอย่างที่คริสติน่าไม่มีอย่างหมูตุ๋น เนื้อวัวตุ๋น และเต้าหู้ตากแห้ง
วันต่อมา เสี่ยวเถียนหิ้วถุงอาหารใบใหญ่มาด้วย
คริสติน่ามีความสุขจนแทบบ้า เอ่ยชมเสี่ยวเถียนครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังขอบคุณคุณย่าซูด้วย
แถมยังไม่ได้สนใจสร้อยคออัญมณีที่เสี่ยวเถียนมอบให้มานัก
เสี่ยวเถียนพูดไม่ออก!
เธอไม่เข้าใจโลกของพวกนักกินจริง ๆ
หลังจากแยกทางเสี่ยวเถียนไม่คิดหยุดฝีเท้า
เธอยุ่งมาก ต้องอ่านหนังสือให้มากขึ้น ต้องเรียนเสริมและวางแผนในการหาเงินครั้งต่อไป
ใช่แล้ว ลำดับต่อไปคือแผนการหาเงินที่เสี่ยวเถียนวางไว้อยู่ที่หลู่เว่ย
จากข้อแนะนำที่ได้มาช่วงหลายวันมานี้ หลู่เว่ยร้านเป็นที่รู้จักแล้ว
เพราะงั้นเธอจึงตั้งใจว่าจะเริ่มธุรกิจนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แทน
ถึงธุรกิจหออีหมิงจะดี แต่ร้านยังเล็กเกินไป
ที่บ้านก็มีกันอยู่ไม่กี่คน เราดูแลมากกว่านี้ไม่ไหว
ตอนนั้นรับโทรศัพท์จากเหล่าซานว่าพรุ่งนี้จะขึ้นรถไฟแล้ว อีกสามวันคงถึงเมืองหลวง
ทุกคนตื่นเต้นกันมากโดยเฉพาะเหลียงซิ่วที่แทบร้องไห้
ห่างกันตั้งนานถ้าจะบอกว่าไม่คิดถึงสามีก็คงโกหก เธอยุ่งตั้งแต่เช้าจนมืด อยากจะหาใครสักคนมาคุยเป็นเพื่อนด้วย
[1] เกี๊ยวเป็นตัวแทนของการพบกันใหม่ การกินเกี๊ยวส่งแขกก็เพื่ออวยพรให้พวกเขาอย่างจริงใจ และในตอนที่ต้อนรับพวกเขาก็จะให้กินบะหมี่ บะหมี่เป็นตัวแทนของคำว่ายืนยาว ซึ่งการกินบะหมี่รับแขกมีความหมายว่ามิตรภาพของทุกคนจะคงอยู่ตลอดไป
[2] ไม่ว่าจะทำอะไรต้องรอบคอบ อย่าสักแต่จะทำ”