เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 508 ข่าวดี
บทที่ 508 ข่าวดี
บทที่ 508 ข่าวดี
ฮั่วซือเหนียนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพวกดื้อรั้น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพ่อตาและว่าที่ภรรยาในอนาคต ต่อให้ล้มก็ยังลุกขึ้นได้
แต่เขาไม่คิดว่าเสี่ยวเหมยจะดื้อรั้นเหมือนกัน และยังไม่เห็นด้วยที่จะให้มาเป็นคู่ชีวิต
ส่วนคุณปู่คุณย่าซูรู้สึกว่า ฮั่วซือเหนียนเป็นคนดีขึ้นหลังจากที่ได้คุยกันอยู่บ่อยครั้ง เขาไม่ได้มีความลับอะไรในใจ เป็นเด็กที่จริงใจคนนึงเลย กอปรกลับเป็นคนที่กลับมาจากต่างประเทศด้วยจึงมีเกียรติกว่าคนอื่น ๆ
เถาฮวาชอบก็ดีแล้ว แต่ถามเสี่ยวเหมยดีกว่าว่าทำไมถึงไม่ชอบ
หญิงสาวตอบทันทีว่า ฮั่วซือเหนียนดูไม่เหมือนคนจริงจังกับชีวิต!
ผู้อาวุโสมึนตึ้บ ทำไมต้องเป็นคนสู้ชีวิต?
แบบนี้ดูดีจะตาย!
ฮั่วซือเหนียนได้ยินก็รู้สึกแย่มาก
เขาคิดว่าภาพลักษณ์ของตัวเองค่อนข้างดี แล้วมันดูไม่เหมือนคนจริงจังกับชีวิตตรงไหน?
เขาจะไม่พูดแล้วกันว่าตนเป็นชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยม ทำได้ทั้งงานในและงานนอก
กว่าจะตกหลุมรักใครได้สักคนก็ไม่ง่ายเลย พอคิดว่าจะได้ครองคู่แต่งงานใช้ชีวิตด้วยกันแท้ ๆ ทำไมถึงโดนปฏิเสธแบบนี้ล่ะ?
เขาโดนทำร้ายมาพอแล้ว ทั้งยังโดนซ้ำอีกหมัด รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีจริง ๆ หรือ
เพื่อที่จะแสดงตัวให้ดีขึ้น ฮั่วซือเหนียนเดินทางมาบ้านซูเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาโดยไม่คิดอับอาย เพื่อดูว่าผู้ชายบ้านซูเป็นยังไง
แต่หลังจากสำรวจก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน
“คุณปู่ซูบอกผมทีครับ ผมดูไม่เหมือนคนจริงจังกับชีวิตตรงไหน?”
ฮั่วซือเหนียนทรุดตัวลงนั่งข้างชายชราด้วยความน้อยใจ
คุณปู่ซูเห็นสภาพนั้นก็ทนไม่ได้
เด็กคนนี้เป็นคนดี อย่างน้อยก็ดีกว่าพวกในหงซินเยอะ
ไม่รู้เสี่ยวเหมยคิดอะไรถึงบอกว่า ฮั่วซือเหนียนไม่ใช่พวกจริงจังกับชีวิต
ตาแก่แบบเขาเฝ้ามองผู้คนมาครึ่งค่อนชีวิต และเขาก็ไม่เคยมองพลาดแถมยังคิดว่าฮั่วซือเหนียนเป็นคนดี
“ฉันจะช่วยเธอเอง แต่เสี่ยวเหมยเป็นคนหัวรั้น แล้วก็ไม่รู้ว่าถ้าพูดไปแล้วจะมีประโยชน์หรือเปล่านะ!”
ชายหนุ่มมีความสุขกับคำตอบมาก
คุณปู่ซูไม่ได้ไปหาเสี่ยวเหมยตรง ๆ แต่ไปหาเสิ่นจื่อเจินเพื่อถามเรื่องนี้แทน
ทีแรกก็คิดว่าเจ้าตัวจะเห็นด้วย กลายเป็นว่าดันคัดค้านเสียอย่างนั้น
เขาบอกว่าจะเลี้ยงลูกอีกสองสามปีค่อยให้ออกเรือน แถมที่ผ่านมาเสี่ยวเถียนต้องทนทุกข์มาตลอด ไม่มีความสุขเลย อุตส่าห์ได้ใช้ชีวิตดี ๆ เสียทีจึงอยากดูแลอีกหน่อย แต่มันก็เป็นเพียงข้ออ้าง ที่จริงเสิ่นจื่อเจินไม่อยากให้หมูบ้านนั้นมันมากินกะหล่ำปลีบ้านเรา
คุณปู่ซูพูดไม่ออก
ลูกสาวเขา เขาว่าอะไรก็ถูกหมด!
เอาเถอะ คงช่วยไม่ได้แล้วแหละ!
ส่วนทางคุณย่าซูก็ไปพูดกับเถาฮวาเป็นการส่วนตัว เรื่องฮั่วซือเหนียนชอบเสี่ยวเหมย ซึ่งเถาฮวาเองก็เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้ด้วย
“ฉันว่าฮั่วซือเหนียนก็ดูเข้าท่าเหมือนกันนะคะ แค่เสี่ยวเหมยอาจไม่ดีพอสำหรับเขา!”
ทว่าหลีอวี๋เหนียงกลับค้าน ก่อนจะยกยิ้ม “ทำไมจะไม่ดีพอล่ะ? เสี่ยวเหมยของเราเป็นดอกไม้งามขนาดนี้!”
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เธอมักจะด้อยค่าตัวเองและรู้สึกว่าไม่คู่ควรกับถานจื่อสือ ถ้าตอนสาว ๆ ปราบสามีได้อยู่มัดแล้วมันจะกลายมาเป็นแบบนี้หรือ?
แต่เถาฮวาไม่รู้ว่าหญิงชราคิดอะไร แค่สบายใจเมื่อได้ยินคนปกป้องลูก
“ใช่ ๆ ฮั่วซือเหนียนดีหลายอย่างเลยนะ แค่อายุมากกว่าก็เท่านั้น!”
คุณย่าซู “เถาฮวา หมายความว่ายังไงหรือ? อายุเยอะจริงแต่ไม่ได้แก่ขนาดนั้นเสียหน่อย แค่สี่ห้าปีเอง แบบนี้จะทำร้ายคนฟังเอานะ!”
เธอกลัวว่าถ้าพลาดฮั่วซือเหนียนไป คนดี ๆ แบบนี้จะหาได้ยาก
แต่ในตอนนี้เถาฮวากลัวไม่ใช่คนตัดสินทุกอย่าง เธอเอ่ยออกมาหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลยค่ะป้า เขาเป็นคนดีฉันเองก็เห็น”
เธอไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเพราะรู้ว่าครอบครัวเรามาจากชนบท และคนจากเมืองหลวงคนหนึ่งก็เลือกเสี่ยวเหมยลูกสาวเรา
ไม่ว่ายังไงก็ขอคนดีไว้ก่อน เธอทนมองชีวิตลูกพังไม่ได้
“เธอพูดถูก แค่เป็นคนดีก็พอแล้วและฉันไปถามอาจารย์ฉือมาด้วย เขาบอกว่าครอบครัวอีกฝ่ายก็ดี เด็กคนนั้นก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่!” คุณย่าซูว่า
“การที่เขาเป็นคนดีนั่นแหละถึงสำคัญที่สุด แต่เราก็จะดูแคลนตัวเองไม่ได้แล้ว บอกว่าเสี่ยวเหมยไม่คู่ควรกับเขาไม่ได้นะ” หลีอวี๋เหนียงกลัวจะทำลายชีวิตคู่คนอื่น จึงอธิบายสิ่งที่พูดไปก่อนหน้า
“ถ้าเขาดีขนาดนั้นแล้วทำไมเสี่ยวเหมยไม่ชอบล่ะ?” เถาฮวาสงสัย
“ฉันลองถามแล้ว เด็กบอกเขาดีเกินไป สถานะต่างกันอะไรก็ไม่รู้ ฉันฟังไม่เข้าใจ!”
ทั้งคุณย่าและเถาฮวาก็ไม่เข้าใจ
แต่หลีอวี๋เหนียงเคยเรียนหนังสือมาก่อน จึงเข้าใจดีก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเหมยกังวลว่าจะไม่เหมาะกับครอบครัวเขาน่ะ!”
เถาฮวาเรียกลูกทั้งสามมาถามตรง ๆ
และหญิงสาวก็ตอบเบา ๆ ด้วยใบหน้าแดงจัด “เพราะเขาดีเกินไป หนูก็เลยคิดว่าไม่คู่ควรกับเขาค่ะ!”
สถานะทางสังคมของบ้านฝ่ายชายและฝ่ายบ้านหญิง จะขอไม่พูดถึงในตอนนี้แล้วกัน แล้วถ้ามันไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ ก็คงลำบากในภายภาคหน้า
ขนาดเราเป็นแบบนี้อาจารย์ฮั่วยังชอบเลย แบบนี้แล้วพวกผู้ใหญ่จะไม่อนุญาตเชียวหรือ?
แต่ถ้าเกิดเขารังเกียจขึ้นมา หลังจากนี้เราจะทำยังไง?
เสี่ยวเหมยไม่อยากมีชีวิตที่ยุ่งเหยิงหรอกนะ และโชคดีที่เธอเป็นหญิงรุ่นใหม่ที่เรียนมหาวิทยาลัย จะยอมให้ตัวเองเสียหน้าได้ยังไง
สิ่งที่เธอต้องการคือความสัมพันธ์ที่เราไปด้วยกันได้ สามีร้องนำภรรยาร้องตามแบบนั้น!
และอาจารย์ฮั่วก็มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด
เถาฮวารับรู้ความกังวลใจของลูกดี เพราะเราต่างก็เป็นเหยื่อ
โดยมีหลี่ฉางหมิงเป็นผู้ก่อเหตุ!
ถ้าสามีเก่าไม่ได้ติดพันคังอี้เยี่ย ครอบครัวเราในตอนนี้คงอยู่สุขสบายเสี่ยวเหมยไม่ต้องคิดมากเลยด้วย
แต่คิด ๆ ดู ถ้าไม่มีเหตุการณ์พวกนี้ เสี่ยวเหมยก็คงโดนหมั้นหมายกับใครสักคนตามที่หลี่ฉางหมิงจัดการให้ และตอนนี้ก็คงจะแต่งงานเข้าบ้านใครสักคนไปแล้ว
แต่ด้วยนิสัยของหลี่ฉางหมิง คนที่เขาพึงพอใจไม่ใช่คนดีเลย ทว่าเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร
“เสี่ยวเหมย เรื่องนี้แม่จะไม่เข้าไปยุ่งหรอกนะ ลูกตัดสินใจเองเลย”
เถาฮวายังยกเรื่องนี้ให้ลูกสาวตัดสินใจอีกที
“เสี่ยวเหมยฟังยายนะ ไม่ต้องห่วงว่าหลานจะไม่ดีพอสำหรับเขา ครอบครัวเขามีคนเป็นครู แล้วบ้านเราไม่มีหรือ?”
คุณย่าซูมั่นใจมาก เพราะเสี่ยวเหมยไม่ใช่สาวจากชนบทอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งเธอยังเป็นลูกสาวของอาจารย์เสิ่นด้วย
ได้ยินว่าสถานะเสิ่นจื่อเจินไม่ได้ต่ำต้อย น่าจะเทียบกับอาจารย์ฮั่วได้หรือเปล่า?
หลีอวี๋เหนียงตบต้นขา ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ลืมไปเสียสนิทเลย อย่างที่คิดนั่นแหละ ลูกสาวอาจารย์เสิ่นคู่กับคนเป็นอาจารย์ ก็เหมือนกับลูกสาวตระกูลบัณฑิตระดับซิ่วไฉ*[1]จับคู่กับบัณฑิตระดับซิ่วไฉในสมัยก่อนไง!”
“แต่อาจารย์ไม่สามารถเป็นซิ่วไฉได้นะ อย่างน้อยก็ต้องเป็นปรมาจารย์ระดับจวี่เหรินเท่านั้นแหละ!” คุณย่าซูว่า
ขณะที่พวกเธอกำลังคุยกัน อวี่รุ่ยหยวนได้เอาข่าวดีมาฝาก
[1] ในสมัยก่อนช่วงราชวงศ์หมิงและชิงจะแบ่งการสอบจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ
1. เยวี่ยนซื่อ (院试) เป็นชั้นที่อยู่ระดับต่ำสุด (ระดับอำเภอ) ถือเป็นการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าราชการ หากผ่านจะได้เลื่อนขั้นเป็นระดับซิ่วไฉ (秀才)
2. เซียงซื่อ (乡试) ระดับชั้นถัดมา (ระดับมณฑล) ถ้าสอบผ่านจะได้เลื่อนขั้นเป็น จวี่เหริน (乡试)
3. ฮุ่ยซื่อ (会试) ระดับชั้นที่สาม การสอบในครั้งนี้จะมีขุนนางฝ่ายพิธีกรรมเป็นผู้คุมสอบ หากสอบผ่านจะได้เลื่อนขั้นเป็น ก้งซื่อ (贡士)
4. เตี้ยนซื่อ (殿试) การสอบหน้าพระที่นั่ง ผู้ที่สอบผ่านจะได้เลื่อนขั้นเป็นจิ้นซื่อ(进士)และผู้ที่สอบได้ที่ 1, 2 และ 3 จะได้รับตำแหน่งจ้วงหยวนหรือจอหงวน (状元) ป้างเหยี่ยน (榜眼) และท่านฮวา (探花) ตามลำดับ