เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 517 เก่งเรื่องโกหก
บทที่ 517 เก่งเรื่องโกหก
บทที่ 517 เก่งเรื่องโกหก
เจียงเยว่ซานจะไปแยกชนิดต้นไม้ออกได้ยังไง?
เธอเรียนวาดรูปนะ ไม่ได้เรียนพฤกษศาสตร์
“ฉันวาดเสร็จนานแล้ว จะไปจำได้ยังไง?”
น้ำตาไหลอาบแก้มสองข้าง หญิงสาวคับแค้นใจยิ่งกว่าเดิม
แต่ซื่อเลี่ยงทำราวกับมองไม่เห็น แล้วเอ่ยปากพร้อมรอยยิ้มสดใส
“ขอบคุณสำหรับการวิเคราะห์ครับอาจารย์ ต้นไม้ที่มุมล่างซ้ายของภาพวาดเป็นต้นซาเจ่าครับ”
อาจารย์ท่านนั้นยิ้ม “พอดีเคยไปมาก่อนน่ะ! พ่อหนุ่ม ฉันชื่อเหออวี้เฉวียน แก้ปัญหาตอนนี้ก่อนแล้วเราค่อยว่ากันนะ”
หลังจากเอ่ยขอบคุณ ชายหนุ่มมองไปที่ฝูงชน
เจียงเยว่ซานเห็นอีกฝ่ายจะพูดก็รีบร้อนเอ่ยปาก
แต่ซื่อเลี่ยงกลับไวกว่า โจมตีกลับก่อนที่เธอจะพูดปกป้องตัวเอง
“ตอนวาดภาพนี้ผมได้เขียนอักษร ‘ซู’ ลงไปในภาพด้วยครับ”
“ขอถามสหายเจียงเยว่ซานเจ้าของงานหน่อยครับ รู้ไหมว่าคำนี้มันอยู่ตรงไหน?”
เสียงรอบข้างเงียบลงทันที
ทุกคนคอยดูว่าฉากตรงหน้าจะเป็นยังไงต่อ
เดิมทีคิดว่าชายหนุ่มที่ชื่อซูซื่อเลี่ยงจะขโมยภาพคนอื่นเพื่อส่งเข้าแข่ง แต่เหมือนว่าจะมีความเป็นไปได้อื่น
เฉาเกาซวนและเจียงเยว่ซานไม่รู้จะตอบอะไรดี
พวกเขาไม่คิดว่าตอนซื่อเลี่ยงวาดรูป เขาจะทิ้งร่องรอยพวกนี้เอาไว้ด้วย
ต่อให้เราหาเจอก็อธิบายไม่ได้อยู่ดีว่าเขียนทำไม!
แต่เพราะมันเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คนไม่โง่ก็รู้หมดแหละว่าพวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเลย!
“ซื่อเลี่ยง เลิกเถียงไม่มีเหตุผลสักที!” เฉาเกาซวนพูดห้วน ๆ
คนโดนกล่าวหายิ้ม “เถียงไม่มีเหตุผลหรือครับ งั้นอาจารย์ก็เอา ‘ภาพอาทิตย์อัสดง’ มาให้อาจารย์ทุกคนได้ดูชัด ๆ เลยสิครับ”
ตอนนี้เฉาเกาซวนมั่นใจแล้วว่าซื่อเลี่ยงปิดบังบางอย่างเอาไว้ อันที่จริงก็ไม่กล้าคิดด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้พวกงานฝึกวาดจะมีอะไรซ่อนไว้อีกหรือเปล่า
จึงไม่กล้าพูดต่อ
สองพิธีก่อนสมองว่างไปชั่วขณะ ไม่เคยคิดเลยว่าแม้แต่งานประกาศรางวัลจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย
เคยได้ยินว่านิสัยอาจารย์เฉาค่อนข้างมีปัญหา แต่ไม่คิดว่าจะทำถึงขนาดนี้
ในฐานะพิธีกร พวกเขาไร้ความสามารถกับการรับมือปัญหาเฉพาะหน้า
มันยากจริง ๆ ที่จะควบคุมบรรยากาศในตอนนี้
แต่ถ้าไม่ทำมันต้องแย่แน่ ๆ
“เรียกตำรวจมาสอบสวนให้ละเอียด!”
ตอนนั้นเองที่รัฐมนตรีกู่เอ่ยขึ้น
แจ้งตำรวจ?
รัฐมนตรีกู่หมายความว่าย่าไง?
“ท่านผู้นำครับ ต้องทำแบบนั้นด้วยหรือ? แค่เรื่องเล็ก ถ้าเกิดเรากระโตกกระตากขึ้นมา มันจะไม่ทำลายชีวิตเด็กเอาหรือครับ?”
เฉาเกาซวนยิ้มเรียบ ๆ แต่แววตาหวาดกลัว
อีกฝ่ายชำเลืองมอง แล้วตอบด้วยใบหน้าเย็นชา “พวกเราไม่ใช่คนตัดสินมืออาชีพ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือเรียกตำรวจไม่ใช่หรือไง?”
“แต่เธอเป็นลูกศิษย์ของผม ผมสงสาร ไม่ยินดีจริง ๆ ครับ…”
“คุณสงสารเธอเราก็เห็นอยู่แล้ว แต่ความคิดสหายซูซื่อเลี่ยงล่ะ มันควรค่าแก่การตั้งคำถามนะ!”
รัฐมนตรีกู่ประชด
คนที่ฟังอยู่รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลเสียจริง
“แจ้งตำรวจเถอะ! เรื่องใหญ่แบบนี้เกิดขึ้นก็ทำได้แค่เรียกตำรวจมาแล้ว!” ผู้อาวุโสอู๋ถอนหายใจ
ไม่คิดเลยว่าแค่เวลาไม่กี่ปีจะทำให้ปัญญาชนสูญเสียความเที่ยงตรงของตัวเองไป
ซื่อเลี่ยงยิ้ม “ขอบคุณท่านผู้นำและอาจารย์ทุกท่านครับ ผมยินดีให้ความร่วมมือกับทางตำรวจเพื่อสืบสวนเรื่องนี้ครับ!”
เขาเต็มใจแต่คนอื่นไม่
สุดท้ายตำรวจก็ไม่มา
เฉาเกาซวนกลัวแล้วแหละ
เขาคุกเข่าลงกับพื้นตัวสั่นเทิ้ม อ้อนวอนให้ปล่อยเขาไปและสารภาพตามความจริงที่ว่าตนแอบเอางานวาดของซูซื่อเลี่ยงให้เจียงเยว่ซานยังไง
ยิ่งได้ยินเรื่องที่อาจารย์เกือบจะพูดเรื่องบนเตียงของพวกเราออกมา เจียงเยว่ซานโกรธจนอยากจะเข้าไปตบ
แววตาของทุกคนมองไปที่คนทั้งสองด้วยความซับซ้อน
เจียงเยว่ซานกล้ากว่าเฉาเกาซวนเสียอีก ต่อให้โดนสารภาพทุกอย่างออกมา แต่หญิงสาวเลือกที่จะปฏิเสธการยอมรับมัน
เพราะรู้ว่าถ้ายอม ชีวิตในวันนี้ได้จบลงแน่นอน!
ซื่อเลี่ยง “สหายเจียงเยว่ซานไม่สามารถหาคำบนภาพเจอ ไม่สามารถบอกชนิดของต้นไม้ได้ แถอาจารย์เฉาเกาซวนยังยอมรับอีกด้วยว่าภาพพวกนั้นเป็นผลงานของผม แต่คุณก็ยังหาข้อแก้ตัว?”
“อาจารย์เฉาแค่กลัวจนสับสนไป เพื่อปกป้องนายเขาก็เลยเสียสละตัวฉันแทน ซื่อเลี่ยง ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ!”
เจียงเยว่ซานคร่ำครวญทั้งน้ำตา ถ้าเป็นชายหนุ่มที่รู้จักดูแลผู้หญิงก็คงจะปล่อยเธอไปแล้ว
แต่ซื่อเลี่ยงไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น โดยเฉพาะกับคนที่คิดจะทำร้ายเขาอยู่ตลอด
“ในเมื่อสหายเจียงเยว่ซานวาดรูปเป็น งั้นก็วาดมันตอนนี้เลยไม่ดีกว่าหรือ?”
อันที่จริงหญิงสาวเคยลอกเลียนแบบผลงานซื่อเลี่ยง จากคำร้องขอของอาจารย์เฉามาก่อน
แต่หลังจากทำไปไม่เท่าไรกลับรู้สึกเสียเวลาและไม่จำเป็นเลย
เลยสัญญาแค่ลมปาก และไม่เคยทำมันจริง ๆ
แล้วตอนนี้จะให้เธอวาด มันจะเป็นไปได้ยังไง?
“ข้อมือฉันพลิกเมื่อวาน เลยจับปากกาไม่ได้!” เธอคิดหาเหตุผลดี ๆ
มือของจิตรกรได้รับบาดเจ็บ แน่นอนว่าต้องได้รับการดูแลอยู่แล้ว
เชื่อว่าทุกคนคงไม่ขัดอะไร
แน่นอนว่าไม่มีใครคัดค้านเลย
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมวาดให้ครับ เพราะข้อมือผมยังดีอยู่ ๆ!” ชายหนุ่มยิ้มเย็น
ผู้หญิงคนนี้ลืมไปหรือเปล่าว่าภาพนี้มันเป็นประเด็นอยู่ ไม่ว่าใครก็วาดได้ทั้งนั้น
แถมทุกคนที่นี่ต่างก็มีประสบการณ์ จะมองไม่ออกเชียวหรือ?
สีหน้าของเจียงเยว่ซานเปลี่ยนไป
“ซื่อเลี่ยง ทำไมต้องบังคับตัวเองขนาดนั้น? ต่อให้นายลอกเลียนแบบงานฉัน มันก็เป็นได้แค่วาดเสือแต่แมวเท่านั้นแหละ (อุปมาว่าแมวกับเสือมีความคล้ายคลึงกัน ต่อให้เลียนแบบก็ไม่มีทางเหมือนทั้งหมด)!”
หญิงสาวฉลาดมากที่พูดแบบนี้ เพราะต่อให้ซื่อเลี่ยงวาดออกมาได้ก็ยากที่จะไม่ถูกสงสัยอยู่ดี
“ถ้าตั้งใจวาดเดี๋ยวเขาก็รู้เองนั่นแหละ!” อวี่รุ่ยหยวนร้องเหอะ
ซื่อเลี่ยงไม่สนใจแล้วเริ่มวาดภาพด้วยปากกา มันไม่มีอะไรนอกไปจากศาลาที่อยู่มุมสวนของคณะวิจิตรศิลป์
ถึงจะวาดง่าย ๆ แต่ทุกคนก็เห็นว่าฝีแปรงซับซ้อนและมีทักษะมาก เหมือนกับผลงานที่ได้รับรางวัลทุกประการ
ผู้อาวุโสอู๋ที่กำลังดูภาพอยู่ จู่ ๆ ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ผู้อาวุโสอู๋ เกิดอะไรขึ้นครับ?” รัฐมนตรีกู่ถาม
“สไตล์การวาดเหมือนน้องสาวฉันเลย”
คนแถวนั้นได้ยินก็ต้องตกตะลึง
เพราะพวกเขารู้จักน้องสาวผู้อาวุโสอู๋ดี