เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 531 สมบัติในถ้ำ
บทที่ 531 สมบัติในถ้ำ
บทที่ 531 สมบัติในถ้ำ
เด็กชายมองไปรอบ ๆ ในเมื่อไม่เห็นพวกพี่ ๆ จึงไม่ได้ส่งเสียงดังอะไร เด็กชายเลยวิ่งเล่นอยู่คนเดียว วิ่งไล่ไก่ไล่หมาอย่างมีความสุข
ซูหม่านซิ่วหมายจะเข้าไปดู แต่กลับถูกมารดาห้ามเอาไว้
“อุตส่าห์มาทั้งที เด็กอยากทำอะไรก็ปล่อยมันไปเถอะ จะได้ยืดแข้งยืดขา!”
สองสามีภรรยาเฉินเห็นลูกชายแค่เล่นวิ่งไล่ไปมา ไม่ได้ทำร้ายไก่ก็ปล่อยเลยตามเลย
เด็กผู้ชายซนสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นอะไร เฉินจื่ออันยังคิดจะส่งลูกชายไปกองทัพเลยเพื่อฝึกฝนร่างกายในอนาคตเลย
“แม่คะ แล้วเด็ก ๆ ทำอะไรกันอยู่หรือคะ?”
หม่านซิ่วสงสัย ทำไมไม่มีใครอยู่เลย?
แต่ส่วนใหญ่ก็อายุ 19-20 ปีกันแล้ว ไม่น่าออกไปวิ่งเล่นหรือเปล่า?
“พวกเขาหรือ พอกลับมาได้ก็ไม่อยู่บ้านช่องเลย ขึ้นเขากันหมดแล้ว!”
น้ำเสียงหญิงชรานั้นดูชื่นบาน
หม่านซิ่วปิดปากหัวเราะหลังจากได้ยินคำตอบ จากนั้นก็หันไปมองสามีและอีกฝ่ายเข้าใจทันทีว่าภรรยาหมายถึงอะไร เธอกำลังแซวเรื่องปีก่อนชัด ๆ ปีใหม่ที่แล้วเขาก็ขึ้นเขาไปเหมือนกันแต่ไม่เจออะไรเลย
“เดี๋ยวผมขึ้นไปดูด้วยดีกว่าครับ!”
เฉินจื่ออันมองหม่านซิ่วด้วยความขบขัน ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวอีกฝ่ายเหมือนเป็นเด็ก ๆ
เมื่อเห็นลูกเขยเอ็นดูลูกสาวตนเองมาก คุณย่าซูก็ได้แต่เบ้ปาก
หม่านซิ่วกลับเคอะเขิน แล้วเอ่ยโกรธ ๆ “ผมยุ่งหมดแล้ว จริง ๆ เลยคุณเนี่ย!”
อีกฝ่ายยิ้ม “ไม่เป็นไร ถึงผมยุ่งฉันก็ชอบนะ”
ว่าจบคุณย่าซูก็เอ่ยก่อนที่แกจะไป
“จื่ออัน เธอไม่ต้องไปหรอก พวกเขาไปกันไกลแล้ว ถ้าเกิดคลาดกันจะทำยังไง?”
เฉินจื่ออันเอ่ยขณะก้าวยาวไปยังลานบ้าน “ไม่เป็นไรครับ ผมตามร่องรอยที่พวกเขาทิ้งไว้เจอแน่นอน!”
หาสัตว์ไม่ได้แต่ก็หาเด็ก ๆ ได้ใช่ไหมล่ะ?
หม่านซิ่วส่ายหัวเงียบ ๆ จากนั้นจึงค่อยยิ้ม “แม่ ปล่อยเขาไปเถอะ ต่อให้อยู่บ้านก็ไม่น่าช่วยอะไรได้หรอก!”
และจื่ออันผู้ที่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ก็พาตัวเองขึ้นไปบนเขา
ร่องรอยของหลาน ๆ ทันที จากนั้นก็พบทิศทางที่พวกเด็ก ๆ กำลังจะไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่านไปกว่าสองชั่วโมง ในที่สุดก็ตามเจออย่างราบรื่น
พวกเด็ก ๆ เก่งในเรื่องหาสถานที่มาก วกไปวนมา ขนาดเขาเป็นทหารผ่านศึกยังรู้สึกว่ายากลำบากเลย
แต่พวกเด็ก ๆ ในตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยราบรื่นกันสักเท่าไร
“เสี่ยวเถียน พวกหลานเป็นอะไรไปกัน?” เฉินจื่ออันตะโกน
“อาเขย?” เด็กสาวตะโกนกลับด้วยความประหลาดใจ
น้ำเสียงเหมือนเห็นผู้กอบกู้
“อาเขยมานี่เร็วครับ เราเจอหมูป่าฝูงนึง กำลังคิดอยู่ว่าจะเอากลับไปยังไงดีครับ?” เสี่ยวจิ่วก็ตะโกนเช่นกัน
เฉินจื่ออันมองไก่ป่า กระต่ายและกวางที่เท้าถูกมัดด้วยเชือก ก่อนจะรู้สึกอีกครั้งว่าตอนน่าจะตาฝาดไป!
สัตว์พวกนี้จะนอนรอเด็ก ๆ อยู่บนเขาหรือ?
มันผ่านมาสักพักแล้วจะหาได้ขนาดนี้ก็ไม่แปลกหรอก แต่นี่ยังเจอหมูป่าอีกฝูงด้วย
เขาคิดเยอะแยะไปหมดแต่หลังจากนั้นก็นึกได้ว่า ตัวเองไม่เคยนึกเรื่องที่เด็ก ๆ จะได้รับอันตรายจากหมูป่าเลย เหมือนว่ายังมีความมั่นใจในตัวพวกเขาอยู่นะ!
จากนั้นอาเขยพลันมองไปยังทิศทางที่เด็ก ๆ ชี้ และเห็นฝูงหมูป่าจริง ๆ ตัวเล็กตัวใหญ่รวมกันเจ็ดตัว
ไม่แปลกใจที่เด็ก ๆ ดูเศร้าใจ
แต่จำนวนเยอะขนาดนี้ ถ้าบ้านเราเอากลับไปหมดน่าจะเข้ากองชุมชนไม่ได้ด้วยซ้ำ
ของบนป่าเป็นของทุกคน ดังนั้นจะต้องแบ่งปันกัน
ในช่วงสั้น ๆ ผู้เป็นอาคิดวิธีแก้ปัญหาให้
“โส่วเวิน ซื่อเลี่ยง อู่ร่างสามคนนี้อยู่กับอาเพื่อคอยดูหมูป่าที่นี้ ส่วนคนที่เหลือเอาเนื้อที่ได้มากลับไปบ้าน แล้วค่อยบอกหัวหน้าซูว่าเจอหมูป่าบนเขา ให้ส่งคนมาช่วยเอาไปที” เขาจัดการทุกอย่างด้วยความใจเย็น
ในเมื่อต้องแบ่งให้ทุกคน ทุก ๆ คนก็ต้องออกแรงด้วย
เสี่ยวเถียนพยักหน้า อาเขยพูดจาดูมีเหตุผลมาก
“อาเขย งั้นหนูกลับไปได้ไหม?” เธอถามลองเชิง
เฉินจื่ออันมองหลานสาว แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป
ทีแรกคิดจะให้อยู่ด้วยเพราะบนเขาหนาวมาก เกิดเธอหนาวจนป่วยขึ้นมาคนอื่นจะห่วงเอา
แต่ก็คิดอีกว่าถ้าเสี่ยวเถียนไปแล้วเกิดหมูป่าหายขึ้นมาล่ะ?
ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว ช่างเถอะ ไม่ต้องให้กลับแล้วกัน
“เสี่ยวเถียนอยู่เป็นเพื่อนพวกอานี่แหละ”
อันที่จริงเด็กสาวก็คิดว่าอาเขยจะให้กลับไปก่อนเหมือนกัน ยังคิดอยู่เลยว่าจะหาเหตุผลไหนให้ตัวเองอยู่ต่อดี
แต่ใครจะรู้ว่าประโยคที่รออยู่จะกล่าวออกมา
เสี่ยวเถียนรีบตอบตกลง การเดินทางวันนี้ยังไม่จบเสียหน่อย
เมื่อกี้เธอคุยกับพวกต้นไม้อยู่ พวกมันยืนยันว่ามีสมบัติอยู่ใกล้ ๆ แต่เราบังเอิญเจอหมูป่าพอดี พวกพี่ ๆ เลยกลัวเธอจะเกิดอันตราย ก็เลยเอาแต่จ้องเขม็ง ไม่ปล่อยให้ไปไหนเลย
ไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสสำรวจป่าสักนิด
และตอนนี้ก็ได้มันมาแล้ว
ซานกงพาน้อง ๆ และเหยื่อที่จับได้พากันเดินลงเขา
ส่วนจื่ออันมองเด็ก ๆ ที่กำลังยุ่งอยู่กับหมูป่า มั่นใจว่าไม่มีทางที่พวกหมูพาจะออกจากตรงนี้ได้ในเวลาสั้น ๆ หรอก เขาเลยคุยกับอู่ร่างเรื่องในกองทัพแทน
ส่วนโส่วเวินกับซื่อเลี่ยงไม่ได้ถามน้องเรื่องนี้เสียทีเพราะเราเรียนต่างกัน ก็เลยมีเรื่องให้สงสัยเยอะ
พวกเขาจับกลุ่มคุยกัน
พอเห็นเหลือเวลาไม่เท่าไร เสี่ยวเถียนเดินตามสถานที่ที่ต้นไม้ใบหญ้าบอกไว้ ก่อนจะเจอถ้ำเล็กแห่งหนึ่ง
ถ้ำเล็กมาถึงขนาดที่เข้าไปได้แค่คนเดียว
เสี่ยวเถียนตัวเล็กและปราดเปรียวจึงไม่ได้ใช้พื้นที่มากนัก พอเข้าไปได้ก็เดินได้อย่างอิสระ
เธอหยิบไฟฉายในคลังเก็บของออกมา แล้วมองไปรอบ ๆ ก่อนเห็นไม้เก่าอยู่หลายใบในนั้น
“เยอะขนาดนี้เลยหรือ?” เธอประหลาดใจมาก
น้ำเสียงของระบบตื่นเต้นมาก
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ด้วยนะคะ! กล่องพวกนี้เป็นสมบัติค่ะ ถ้ามีพวกมัน โฮสต์จะไม่ต้องลำบากเยอะแล้วค่ะ!]
“…” เสี่ยวเถียน
หมายความว่ายังไงนะ?
เธอสามารถนอนเฉย ๆ และใช้ชีวิตอย่างสุขีโดยไม่ต้องทำอะไรแล้วหรือ?
ตอนนั้นเสี่ยวเถียนไม่รู้ ไว้รอเธอดูทั้งสี่กล่องก่อนเถอะ จะได้มั่นใจแล้วว่าจากนี้ไปชีวิตจะพลิกผัน
“แอนนา เธอทำไม่ถูกนะ ฉันเป็นเด็กสาวผู้ทะเยอทะยานที่เติบโตมาภายใต้ธงสีแดง ฉันจะมานอนอยู่เฉย ๆ เพราะได้สมบัติได้ยังไง? ชีวิตของฉันจะต้องมีส่วนในการช่วยเหลือประเทศนะ!”
[โฮสต์คะ รอคุณเห็นของพวกนี้ก่อนแล้วค่อยพูดเถอะค่ะ] เสียงดูเหยียดหยามของแอนนาดังขึ้นหลังจากนั้น
ถึงเสี่ยวเถียนจะโดนระบบบ่นมาไม่น้อย แต่มีแค่ครั้งนี้ที่มันดูตื่นเต้นกับของตรงหน้ามาก หรือว่ารอบนี้จะโชคใหญ่จริง ๆ?