เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 569 เธอคิดจะหาเรื่องสินะ
บทที่ 569 เธอคิดจะหาเรื่องสินะ
บทที่ 569 เธอคิดจะหาเรื่องสินะ
ตอนเสี่ยวเถียนและพี่ ๆ กลับไปที่ห้องเรียนก็พบซ่งหลิงหลิงกำลังยิ้มอย่างร่าเริง แต่พอเห็นคนกลุ่มนั้นกลับมา ใบหน้าพลันบิดเบี้ยวไปครู่หนึ่ง
ทำไมกลับมาเร็วจัง?
นี่มันเรื่องเก็งกำไรเลยนะ ยังไงก็ต้องโดนสอบสวนแน่ ๆ ข้อหาแบบนี้ต่อให้ไม่โดนจับกุมก็ต้องเสียหายกันบ้างแหละ
แต่เสี่ยวเถียนกลับไม่เป็นอะไรเลย
“ไม่นะ เธอกลับมาได้ยังไงเนี่ย?”
ซ่งหลิงหลิงร้องลั่น พอรู้ตัวว่าเผลอพูดออกไปก็รีบปิดปากแน่น
แต่คนอื่น ๆ ได้เย็นเต็มสองหู
“ทำไมหรือ อุตส่าห์ไปรายงานเรื่องของฉันทั้งที คิดว่าฉันคงจะไปแล้วไปลับหรือไง?” เสี่ยวเถียนกึ่งยิ้ม
ยังไงก็เป็นอีกฝ่าย เธอไม่มีทางอยู่นิ่งอยู่แล้ว แถมเสี่ยวเถียนเองยังไม่ได้พูดอะไรเลยด้วย แต่เจ้าตัวกับเผยไต๋ออกมาเอง
คนอื่น ๆ ตกใจกับสิ่งที่เสี่ยวเถียนว่า
รายงาน?
ใช่รายงานที่พวกเราเข้าใจหรือเปล่า?
ถึงเราจะไม่ได้อายุเยอะอะไร แต่ก็ยังจดจำเหตุการณ์หลายปีก่อนหน้านั้นได้อยู่ เรื่องที่ว่ารายงานอะไรนั้นพวกเรารู้ดี ทุกวันนี้ก็ยังมีคนทำอยู่และคนที่ทำคือเพื่อนร่วมห้องของเราเอง
หากในบรรดาพวกเรามีคนแบบนี้อยู่ มันจะเกิดความวุ่นวายแน่นอน แม้แต่หลิวเสี่ยวหงยังถอยกรูดหนีซ่งหลิงหลิง แถมเราเองก็เห็นเหตุการณ์หมดแล้ว และไม่มีใครชอบที่ผู้หญิงคนนี้ทำแบบนั้น
แถมยังเป็นโทษเรื่องเก็งกำไรด้วย ตัวเองไม่คิดบ้างหรือว่าหากการรายงานสำเร็จขึ้นมาจริง ๆ ชีวิตเพื่อนร่วมชั้นอย่างซูเสี่ยวเถียนอาจพังพินาศ!
เสี่ยวเถียนสังเกตการณ์กระทำของคนอื่นในห้อง เธอพึงพอใจมาก
สำหรับคนอย่างซ่งหลิงหลิง การทำให้ต้องอยู่อย่างสันโดษมันจะทำให้เจ้าตัวลำบากมาก
แต่แค่นี้ยังไม่พอหรอกนะ
เสี่ยวเถียน “ซ่งหลิงหลิง เธอกับฉันเราไม่มีความขัดแย้งกันด้วยซ้ำ แต่เธอก็ยังมุ่งร้ายต่อกันมาตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เธอนี่เห็นแก่ตัวจริง ๆ คิดว่าคนอื่นจะเหมือนตัวเองหรือไง?”
ซ่งหลิงหลิงสัมผัสได้ถึงสายตาที่ไม่เป็นมิตรคนรอบข้าง
“ซูเสี่ยวเถียน เธอกล้าพูดไหมล่ะว่าตัวเองไม่ได้ทำเรื่องเก็งกำไรน่ะ? ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ก็เคยเอาของมาขายในโรงเรียนหรือไง?”
“อ๋อ? จริงหรือเนี่ย? ไม่ใช่ว่าทุกคนชอบกันหรอกหรือ? ฉันแค่บังเอิญเจอมันก็เลยซื้อกลับมา ช่วยแก้ปัญหาให้เพื่อน ๆ แค่นั้นเอง”
คำพูดคำจาของเสี่ยวเถียนไม่มีเหตุผลสักนิด แถมยังทำซ่งหลิงหลิงโกรธมาก
เธอหน้าแดงจัด
เสี่ยวเถียนหน้าด้านขนาดนี้ได้ยังไง?”
“ซูเสี่ยวเถียน เธอนี่มันหน้าด้านจริง ๆ!”
“ทำไมฉันถึงหน้าด้านด้วยล่ะ? ซ่งหลิงหลิง มันควรจะเป็นเธอมากกว่าหรือเปล่า ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าไม่ได้สัญญากับครูฮวางไว้แล้ว ฉันจะทุ่มเธอลงกับพื้นให้แม่เธอจำลูกสาวตัวเองไม่ได้เลย”
เสี่ยวเถียนไม่สนใจโต้เถียงกับคนอื่นนัก การต่อล้อต่อเถียงเป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด โดยเฉพาะคนอย่างซ่งหลิงหลิงที่ไม่เข้าใจภาษาคน น่าเบื่อเกินมนุษย์
เด็กสาวสะดุ้งเฮือก เรื่องที่เสี่ยวเถียนลงไม้ลงมือกับคนอื่นใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้นและตัวเองก็ไม่อยากโดนด้วย
“วันนี้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ต่อจากนี้ไปอย่าให้ฉันรู้นะ ว่าเธอแอบทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนี้อีก” ว่าจบ เสี่ยวเถียนก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ “เพราะยังไงวันนี้เธอก็รายงานเรื่องของฉันแล้ว อีกสองวันต่อมาอาจจะเป็นเพื่อนคนอื่นที่โดนอีกก็ได้ การที่ห้องเรียนเรามีคนแบบเธอยู่เนี่ย มันไม่สงบสุขเลยจริง!”
เป็นประโยคที่ยั่วยุอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอทำภายใต้สายตาจดจ้องของทุกคน และพวกเขาก็เชื่อฟังด้วย
ยิ่งรู้สึกถึงความรู้สึกดูถูกเหยียดหยามจากเพื่อน ๆ รอบกายซ่งหลิงหลิงกังวลขึ้นมาก
“พูดบ้าอะไรน่ะ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นเสียหน่อย แล้วฉันก็จะไม่รายงานเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย!”
เสี่ยวเถียนยิ้ม “ใครจะรู้ล่ะ!”
ว่าจบก็หมุนตัวเดินกลับไปอ่านหนังสือ
คนอย่างซ่งหลิงหลิง ยิ่งคุณเพิกเฉยต่อเธอ เจ้าตัวยิ่งโกรธจัด
แต่ตอนนี้ก็กำลังทะเลาะกับเสี่ยวเถียนอยู่ด้วย จึงโกรธมากไม่ได้แต่อีกฝ่ายกลับไม่เหลียวแลสักนิด เลยทำให้ความโมโหที่คุกรุ่นท่วมท้นในทันที
“ไอ้พวกนักเกร็งกำไร ฉันจะต้องรายงานแกให้ได้เลยคอยดู!”
ว่ากันว่าโรงเรียนมัธยมอันดับเจ็ดเป็นโรงเรียนที่ซื่อสัตย์ที่สุด แต่ในมุมมองของซ่งหลิงหลิงกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย
ตั้งแต่ครูใหญ่ไปจนถึงครูในโรงเรียน ไม่มีใครเป็นคนดีสักคน มีแต่คนชอบซูเสี่ยวเถียนกันทั้งนั้น
เด็กสาวพุ่งเข้าไปด้วยความโกรธจัด หมายจะคว้าเสี่ยวเถียนแล้วข่วนใส่
เป้าหมายคือผมของอีกฝ่าย เธออยากจะทึ้งมัน
ถ้าแต่ข่วนหน้าได้คงจะดีไม่น้อย
แต่ว่า ใครคือซูเสี่ยวเถียนกันล่ะ?
ถึงในห้องจะเต็มไปด้วยโต๊ะและไม่มีพื้นที่ให้อาละวาด แต่มันเป็นเรื่องง่ายมากที่หลบการโจมตีของบุคคลที่ไร้เหตุผล
เสี่ยวเถียนหมุนตัว เลยทำให้ซ่งหลิงหลิงถลาใส่
เด็กสาวขยับเท้าเล็กน้อย เลยทำให้อีกฝ่ายล้มใส่โต๊ะได้สำเร็จ
“โอ๊ะโอ ซ่งหลิงหลิง เธอคิดจะหาเรื่องฉันหรือเนี่ย? แบบนี้ไม่ดีเลยนะ ทุกคนก็เห็นกันหมดแล้ว และฉันก็ไม่ได้ทำให้เธอล้มด้วย” เสี่ยวเถียนแสร้งร้อนรน
ในห้องมีคนเต็มไปหมด ภาพที่พวกเขาเห็นคือซ่งหลิงหลิงพยายามคว้าผมเสี่ยวเถียน แต่อีกฝ่ายหลบทัน
แต่การเคลื่อนไหวของเท้า มันเล็กน้อยมากจนไม่มีใครสังเกต
แต่คนที่เห็นคือเสี่ยวปา
แล้วเขาจะพูดออกมาได้ยังไงกันล่ะ?
ซ่งหลิงหลิงฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ใบหน้าเจ็บปวดไปหมด เธอพยายามลุกขึ้นทั้ง ๆ ที่โกรธ แถมยังมองเสี่ยวเถียนด้วยสายตาไม่พอใจ
และเสี่ยวเถียนก็มองคนตรงหน้าด้วยท่าทีหวาดกลัว
“ซ่งหลิงหลิง หน้าเธอเป็นแผลด้วย มีเลือดออกน่ะ!”
คงเป็นเพราะเสี่ยวเถียนทำให้ตกใจ ซ่งหลิงหลิงจึงสัมผัสใบหน้าทันที
มือเธอเต็มไปด้วยเลือดและเธอเจ็บจริง ๆ
ยามนึกถึงรอยแผลเป็นที่อาจหลงเหลืออยู่บนใบหน้าอันงดงามต่อจากนี้ ซ่งหลิงหลิงถึงกับร้องไห้ออกมา
ถ้าเธอแค่ร้องไห้ คนอื่นอาจจะเห็นใจ
แต่ไม่รู้คิดอะไรถึงได้ตะคอกออกมาด้วย “ฉันจะฆ่าแก ซูเสี่ยวเถียน ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่! ฉันจะไม่ปล่อยแกไปเด็ดขาด!”
“มีใครวิ่งเร็วบ้างไหม รับไปตามครูฮวางมาเร็ว ซ่งหลิงหลิงล้มแล้วได้รับบาดเจ็บต้องพาไปโรงพยาบาลนะ” จู่ ๆ เสี่ยวเถียนก็ตะโกน
คนอื่น ๆ ที่ตกใจเพิ่งตอบสนองได้ ใช่แล้ว ซ่งหลิงหลิงเสียเลือดมาก ต้องรีบพาไปโรงพยาบาล
เสี่ยวปาเสี่ยวจิ่ววิ่งเร็วมาก แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรเลย
ถึงเราไม่ไป คนอื่นก็ต้องไปอยู่ดี
ตอนนั้นเองที่มีเด็กชายสองคนลุกขึ้นเตรียมจะไปหาครู
ซ่งหลิงหลิงร้องไห้ก่อนมองไปยังตู้หย่งเฮ่อ ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายไม่เหลียวแลเลย
“ตู้หย่งเฮ่อ พวกเราโตมาด้วยกันนะ ช่วยฉันแก้แค้นที!”
เด็กชายกลอกตา ไม่พูดอะไรสักนิด