เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 572 ห้างร้านหรงฟา
บทที่ 572 ห้างร้านหรงฟา
บทที่ 572 ห้างร้านหรงฟา
เสี่ยวเถียนอยากจะตามพี่ทั้งสามไปด้วยแต่พวกเขาปฏิเสธ เธอไม่มีทางเลือกนอกจากล้มเลิกความคิดดังกล่าวไป
เพราะโรงเรียนของเราเป็นศูนย์สอบด้วย พวกเราจึงได้หยุดอยู่บ้านกัน
เธอกังวลเรื่องการสอบของพี่ ๆ มากจนไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ เลยคิดจะไปเดินเล่นแทน
เด็กสาวจำได้ว่า พี่สี่พูดไว้เมื่อสองวันก่อนถึงเรื่องการจัดวางร้านค้าชั้นบนชั้นล่างเสร็จแล้ว วางสินค้าแล้ว รอฤกษ์วันในการเปิดตัว
เธอเดินไปดูกับเสี่ยวเหมย การจัดวางร้านค้าทั้งสองชั้นมีเสี่ยวเถียนเป็นคนคิดทั้งหมด
ส่วนความสร้างสรรค์อะไรนั่นไม่ได้คิดหรอก
ในอนาคตจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่เกิดขึ้นอีกมาก เธอก็แค่สุ่มมาสักอันแล้วปรับเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นอันใช้ได้แล้ว
แค่จัดวางให้เหมาะสม สวยงาม และสะดวกต่อลูกค้าก็พอ
แม้จะคิดไว้แล้วว่าพี่สี่มีความสามารถ สามารถตกแต่งได้ดีก็ตาม แต่พอได้เห็นจริง ๆ ก็ยังต้องตกตะลึง
ร้านค้าทั้งสองชั้นไม่ใช่แค่จัดวางอย่างเหมาะสมเท่านั้น แต่ยังรู้สึกถึงบรรยากาศระดับไฮเอนด์หลังวางสินค้าลงไปแล้วด้วย
เห็นชัด ๆ ว่ามันก็แค่สินค้าธรรมดา ๆ แต่พอเสี่ยวซื่อจัดการ กลับดูพิเศษผิดปกติ
“เสี่ยวเถียนมาดูสิ พี่ตกแต่งดีหรือเปล่า?”
ตอนเด็กหนุ่มเห็นน้องสาวมาหา ก็อดไม่ได้ที่จะอวดอ้าง
เสี่ยวเถียนชมโดยไม่ลังเล “พี่สี่เก่งมาก ๆ ดีกว่าที่หนูคิดไว้เยอะเลยค่ะ!”
เธอเอาแต่ยุ่งกับเรื่องเรียน หลังจากออกแบบเสร็จก็ไม่สนใจอีก
และสิ่งเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยพี่สี่ทีละนิด ๆ จนสำเร็จออกมา
“เสี่ยวเถียนพอใจก็ดีแล้ว ทีแรกพี่คิดว่ามันน่าจะลำบากถ้าจัดตามที่เธอวาดให้ แต่ไม่คิดว่าพอทำออกมาแล้วจะดูดีขนาดนี้เลย”
ถึงเสี่ยวซื่อจะภาคภูมิใจ แต่ก็รู้ว่าหากไม่ได้น้องวาดภาพให้ดู คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะคิดแบบร่างดี ๆ แบบนี้ออกมาได้
“แค่มองก็รู้แล้วว่าทำเงินได้แน่นอน” เสี่ยวเหมยยิ้ม
“พวกเธอรอใช้ชีวิตสุขสบายกับพวกพี่ ๆ ได้เลยนะ!” เสี่ยวซื่อตัวแทบจะลอยแล้ว
ตลกแล้ว เขาทำเองกับมือนะ จะหาเงินไม่ได้เชียวเรอะ?
“พี่สี่ หาพนักงานขายได้หรือยังคะ?” เสี่ยวเถียนถามเพราะเห็นว่าอีกไม่กี่วันจะเปิดร้านแล้ว
“หาแล้ว แต่ว่าพวกสาว ๆ มีไม่เยอะหรอกนะ ส่วนใหญ่จะอายุเยอะทั้งนั้นเลย พอพวกยุวชนกลับเข้าเมืองกันคนส่วนมากเลยไม่มีงานทำ แถมเป็นคนที่อยู่ในชนบทมาหลายปีด้วย อายุไม่น้อยแล้ว!”
เสี่ยวเถียนไม่ได้พูดอะไรเยอะหลังจากได้ยินคำตอบ “ขอแค่นิสัยดี มีความสามารถ อายุเท่าไรก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ”
ตอนแรกคิดให้พี่สี่หาพวกสาว ๆ มานี่แหละ เวลาเห็นจะได้สบายตาหน่อย แล้วก็ทำงานได้หลายปีด้วย
ส่วนผู้หญิงที่อายุเยอะแล้วจะต้องแต่งงานมีลูก ต้องเสียเวลาไปตลอดทั้งปีก็มีไม่น้อยเช่นกัน
“พี่ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องนิสัยกับการพูดจานะ พี่ประเมินมาทุกคนแล้ว”
ร้านนี้เสี่ยวซื่อตั้งความหวังไว้สูงกับทุกอย่างเลย เขามุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
คนเป็นน้องพยักหน้า “พี่สี่ พวกเรารอเงินปันผลอยู่นะ!”
เสี่ยวซื่อพอใจกับแววตาออดอ้อนของน้องสาวมาก มันทำให้เขากลับมามีพลังฮึกเหิมขึ้นมาทันที
ในฐานะที่เป็นพี่ชาย มันหาได้ยากมากที่น้องสาวจะทำแบบนี้ใส่
เราสนทนากันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเหมือนเสี่ยวซื่อจะนึกอะไรขึ้นได้
“เสี่ยวเถียน วันนี้เหมือนจะเป็นวันสำคัญอะไรหรือเปล่านะ!”
“…” เสี่ยวเถียน
เหมือนว่าพี่จะสนใจแต่เรื่องหาเงินจริง ๆ!
“วันนี้เป็นวันที่พี่หกกับพี่เจ็ดสอบเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ พี่อี้หย่วนก็สอบด้วย!”
เสี่ยวซื่อตบหน้าผาก “พี่ว่าแล้ววันสำคัญอะไร กลับบ้านไปรอพวกเขากัน”
เพราะเป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว เขารีบชวนสองสาวกลับบ้านทันที
เสี่ยวเหมยหัวเราะ “ไม่ต้องห่วงไปนะ พวกเขาไปสอบแล้วน่ะ เย็น ๆ ถึงจะกลับ!”
เสี่ยวซื่อรู้สึกโง่งม
วันที่สองหลังจากสอบเสร็จ เป็นวันที่ร้านค้าของพี่น้องบ้านซูเปิดตัว
เสี่ยวเถียนตั้งชื่อว่าห้างร้านหรงฟา
วันแรกที่เปิดตัว ทุก ๆ คนไปกันหมดยกเว้นคุณย่าซูและเหลียงซิ่วที่เฝ้าหออีหมิง พวกเขาไม่ได้หวังเท่าไรกับห้างร้านเริ่มต้นที่พวกเด็ก ๆ ทำ แต่ไม่คิดเลยว่าหลังจากเปิดประตูเข้าไป จะต้องตกตะลึงกับสินค้าละลานตา และพนักงานขายที่แสนกระตือรือร้น
และสินค้าพวกนั้นเป็นสิ่งที่เหล่าซานนำกลับมา แม้แต่เขาเองก็ยังต้องตะลึงเมื่อได้เห็น
ขนาดคนในบ้านเรายังตกใจ นับประสาอะไรกับคนอื่น
ในยุคนี้สถานที่ที่มีสินค้าครบครันไม่ได้ขาดแคลนเท่าไร เช่น สหกรณ์จำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค
แต่เพราะการออกแบบที่แสนยุ่งเหยิง หลังจากก้าวเข้าประตูไปทำให้ผู้คนรู้สึกแย่
ทว่าห้างร้านหรงฟาจะแตกต่างออกไปจากที่อื่น สินค้าทุกชิ้นถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยบนชั้นวาง
วันนี้เป็นวันเปิดทำการวันแรก เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน เสี่ยวเถียนให้พี่สี่ทำนโยบายพิเศษ นั่นก็คือกิจกรรมซื้อสินค้าครบยี่สิบหยวน จะได้เงินคืนหนึ่งหยวน
ภายในสามวัน หากคุณใช้จ่ายเงินที่หรงฟาถึงยี่สิบหยวน จะได้รับเงินคือ หนึ่งหยวน
ยิ่งใช้ยิ่งได้คืนไม่มีขีดจำกัด
แต่ว่าสิ่งที่ได้กลับไปจะไม่ใช่เงินสด ๆ แต่เป็นบัตรกำนัล
บัตรกำนัลอันนี้จะสามารถใช้วันไหนก็ได้ โดยเริ่มจากสามวันหลังจากห้างร้านเปิดตัว
วิธีการส่งเสริมการขายที่สดใหม่เช่นนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้กระทั่งในตัวเมืองหลวงก็ตาม ทว่าก็ยังสามารถดึงดูดผู้คนมากมายให้เข้ามาใช้จ่ายได้
มนุษย์ก็แบบนี้อแหละ แค่รู้ว่าตัวเองจะได้รับประโยชน์ก็รีบไปโดยไม่คิดอะไรทันที
สินค้าในห้างร้านหรงฟาเหมือนจะมีเกรดสูงกว่าสหกรณ์ร้านค้าด้วย
นอกจากนี้พนักงานขายยังพูดจาไพเราะและมีความสุภาพมาก แตกต่างจากพนักงานที่สหกรณ์ร้านค้าของรัฐสุด ๆ
ทุกคนที่เข้ามาซื้อของกลับไปเพียบด้วยความงุนงง
เป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว เสี่ยวซื่อได้อธิบายไว้แล้วว่าโปรโมชั่นนี้ต้องมีขอบเขตขั้นต่ำกำหนดไว้ด้วย อย่างน้อยก็ต้องเป็นสินค้าที่สามารถใช้ในบ้านได้
ถ้าเราขายนาฬิกาข้อมือให้หญิงชรา แต่พอกลับถึงบ้านเกิดเอะอะโวยวายอยากจะคืนสินค้าขึ้นมา แบบนั้นจะยุ่งเอา
พนักงานขายพวกนี้ไม่มีงานทำหลังจากกลับจากชนบท
แม้ห้างร้านแห่งนี้จะไม่ใช่อาชีพที่มั่นคงของทางรัญ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีงานทำ
อีกอย่างพวกเราก็ห่างจากบ้านมาหลายปีแล้ว ความสัมพันธ์เองยังอ่อนลงมาก ไม่มีความรักใครกลมเกลียวสักเท่าไร
อยู่บ้านก็เอาแต่กินเฉย ๆ ไม่ได้ทำการทำงาน ย่อมได้รับสายตาไม่พอใจอยู่แล้ว บางคนถึงขนาดไม่กล้าปล่อยท้องรอหิวด้วยซ้ำ
ตอนนี้เรามีงานทำแล้ว เป็นเรื่องที่ดีนะ
ก็เลยหวงแหนงานในปัจจุบันมาก และปฏิบัติกฎด้วยความตั้งใจจริง
เรามีพนักงานทั้งหมด 6 คนรวมสองชั้น แต่เพราะวันนี้มีลูกค้าเยอะเกินไป แต่เดิมที่ยุ่งอยู่แล้วกลับยิ่งหัวหมุนขึ้นไปอีก
ตอนนั้นเองที่พวกเด็ก ๆ บ้านซูจำนวนสิบกว่าคนมารวมตัวกัน และทักทายลูกค้าทุกคน
ไม่มีอะไรดีไปธุรกิจรุ่งเรืองแล้วแหละ ถึงจะยุ่งแต่ใบหน้าพวกเขายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม