เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 589 จะไล่ตามภรรยาต้องหน้าหนาเข้าไว้
บทที่ 589 จะไล่ตามภรรยาต้องหน้าหนาเข้าไว้
บทที่ 589 จะไล่ตามภรรยาต้องหน้าหนาเข้าไว้
เมืองหลวงอยู่ห่างหรงเฉิงออกไปไกลเป็นโยชน์ ถ้าเดินทางไปคงไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้กลับมาอีก ครอบครัวเราเหลือกันสองคนพี่น้อง ถ้าต้องแยกจากกันจะไปเต็มใจได้ยังไง
มู่มู่เหมือนเห็นความในใจของน้องสาว เขารู้ว่าเธอต้องอยู่บ้านมาตลอด ที่จริงคงอึดอัดมาก
เขาอยากจะบอกน้องว่าไม่ต้องคิดเผื่อเขาหรอก เป็นไปได้ก็อยากให้ลองตามพวกเสี่ยวเถียนไปเมืองหลวงดู
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกไป
หลายปีมานี้เราสองคนอยู่ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น และเขาไม่อยากห่างจากเธอเลย
แถมยังต้องรักษาอาการป่วยอีก ทั้งยังต้องหาผู้ชายดี ๆ มาให้เธอได้แต่งงานถึงจะสบายใจได้
เสี่ยวเถียนเห็นการเคลื่อนไหวของหลินหลิน ก่อนจะยิ้มให้มู่มู่
“พี่หลินหลิน ตอนนี้พี่มู่มู่กำลังธุรกิจกับพวกเราค่ะ หลังจากนี้อาจจำเป็นต้องขึ้นมาเมืองหลวงอยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้มาอาศัยอยู่ที่นั่น เรื่องไป ๆ มา ก็ต้องมีอยู่แล้วค่ะ”
ได้ยินเช่นนั้น แววตาหลินหลินเปล่งประกายทันที
“จริงหรือคะพี่?!”
มู่มู่อยากจะบอกว่าเขาคงไม่ไปเมืองหลวงหรอก ทว่าก็ทำได้เพียงกลืนคำนั้นลงไป เพราะมันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก
เกิดได้ไปขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ?
นอกจากพี่ชายแล้ว คนเป็นน้องไม่มีเพื่อนฝูงที่ไหนเลย
หาได้ยากมากที่เธอจะชอบเสี่ยวเถียน ถ้าได้ไปจริง ๆ อาจจะได้เพื่อนดี ๆ ก็ได้นะ
“เสี่ยวเถียน เธอพูดจริงหรือ?” มู่มู่มองด้วยสายตาคาดหวัง
เด็กสาวพยักหน้าอย่างจริงจัง
โส่วเวินรู้สึกว่าเลือดในกายกำลังเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น หลินหลินกำลังจะตามเสี่ยวเถียนกลับไปเมืองหลวง? ถ้าเป็นแบบนี้เขาจะได้เจอหญิงสาวหน้าตาน่ารักไปตลอดแล้วสินะ?
หลังจากมองอีกฝ่าย โส่วเวินก็จมอยู่กับความคิด ไม่กล้าละสายตาสักนิด
เพราะงั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้ว่าใบหน้าพี่ชายคนนี้แดงแค่ไหน
ฉืออี้หย่วนมองเสี่ยวเถียนด้วยความแปลกใจ เธอคิดอะไรอยู่นะ? ทำไมถึงพยายามจะพาผู้หญิงที่เพิ่งพบกันไปเมืองหลวงให้ได้?
แต่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิง เขาเลยไม่ได้ติดใจอะไร
เพราะถ้าเป็นผู้ชาย เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายความคิดนั้นให้ได้
เขาไม่อนุญาตให้มีคู่แข่งรายอื่นปรากฏตัวข้างกายเสี่ยวเถียนหรอกนะ!
เดี๋ยวก่อน ๆ จุดประสงค์ที่แท้จริงของเสี่ยวเถียนคงไม่ใช่พามู่มู่ไปเมืองหลวงหรอกใช่ไหม?
ตอนนี้เขามีความสัมพันธ์อันดีกับคนบ้านซูมาก บางทีเสี่ยวเถียนอาจจะรู้สึกว่าเขาดูดีไม่หยอกก็ได้
เด็กสาวไม่รู้เลยว่า จิตใจฉืออี้หย่วนมันเหมือนรถไฟเหาะขนาดไหน แถมยังคิดไปตั้งมากมายอีก เพราะตอนนี้ทั้งแววตาและหัวใจมีแต่ผู้หญิงตรงหน้าที่จะกลายมาเป็นพี่สะใภ้ในอนาคตของเธอ
ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าดีเหลือเกิน ทั้งสวย พูดจาไพเราะ และยังสุภาพมากอีกด้วย
ไม่แปลกใจที่พี่ใหญ่ตกหลุมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ
ถึงหลินหลินจะอ่อนแอไปหน่อย แต่ยังสวยอยู่ดี เหมือนกับเห็นหญิงสาวที่หมู่บ้านริมน้ำเจียงหนาน*[1]เดินออกมาจากภาพวาดเลย แค่เห็นก็ชอบแล้ว
ยิ่งมองก็ยิ่งชอบมากกว่าเดิม
โดยเฉพาะตอนที่นั่งกับพี่ใหญ่ น่ามองเป็นไหน ๆ
แววตากระตือรือร้นของเสี่ยวเถียนแทบปิดไม่มิด
พี่ชายรอบข้างเห็นก็ได้แต่ประหลาดใจ น้องเล็กชอบหลินหลินขนาดนี้เลยหรือ?
หลินหลินได้ฟังบทสนทนาก็รู้ว่าพี่อยากให้เธอไปเมืองหลวง
แต่เธอไม่เต็มใจไปเลย
“พี่คะ!”
“หลินหลิน ถ้าเธออยากไป ในอนาคตพี่อาจได้ช่วยขนส่งสินค้าก็ได้ ไม่กี่วันก็ได้เจอกันนะ!”
หญิงสาวยังคงส่ายหัว “พี่คะ ฉันไปไม่ได้หรอก ถ้าไปแล้วจะดูแลพี่ยังไงล่ะ?”
เราสองคนพี่น้องต้องดูแลกันและกัน น้องสาวทำหน้าที่หาเงิน พี่ขายทำหน้าที่ติดต่อกับภายนอกเพื่อหาเลี้ยงชีพชีวิตเราทั้งสอง
หลินหลินกลัวว่าถ้าจากหรงเฉิงไป พี่จะหาข้าวกินไม่ได้
“ทำไมล่ะ? พี่ชายก็ทำอาหารเป็นนะ แต่ไม่อร่อยเท่าเธอทำหรอก” มู่มู่ลูบผมน้องด้วยความรักใคร่
“พี่ไม่ชอบทำอาหารด้วยซ้ำ!” หญิงสาวรั้น
เธอจะปล่อยให้พี่ทนทุกข์เพราะความคิดตัวเองไม่ได้
เห็นสองพี่น้องเป็นเช่นนั้น เสี่ยวเถียนได้แต่คิดว่าเธอเป็นคนเลวไหมนะที่คิดจะแยกพวกเขาออกจากกัน?
เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ยังไงพวกเขาก้ต้องแยกกันอยู่ดี
“พี่หลินหลิน ในอนาคตพี่มู่มู่ก็ต้องแต่งงาน มีพี่สะใภ้ที่ดูแลเขาได้นะคะ พี่ไม่ต้องห่วงไปนะ”
สิ้นประโยค หญิงสาวถึงกับนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ถึงไม่ได้คิด นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กลายเป็นความจริงเสียหน่อย
สักวันหนึ่งพี่ก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง ตอนนั้นพี่ก็คงไม่มีเวลาอยู่กับเธอหรอกใช่ไหม?
ทำไมรู้สึกไม่สบายใจเท่าไรเลยนะ ราวกับว่ามีบางอย่างถูกขโมยไป ใบหน้าหลินหลินมีความโศกเศร้าเพียงครู่เดียว แค่นั้นจริง ๆ เพราะหลังจากนั้นเธอกำลังคิดอยู่ว่า
พี่ชายจะต้องแต่งงานอยู่แล้ว อนาคตเธอต่างหาก หากมีครอบครัวขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าร่างกายที่แสนอ่อนแอจะมีลูกได้หรือเปล่า
เสี่ยวเถียนบอกว่ารักษาอาการป่วยได้ใช่ไหม?
หลินหลินมองเด็กสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา และคนที่ได้รับสายตาแบบนั้นมาก็รู้สึกแปลก ๆ
มีอะไรหรือเปล่า?
ทำไมถึงมองกันแบบนั้น? เมื่อกี้ยังลังเลที่จะแยกกับพี่เลย แล้วทำไมถึงมองเธอแบบนั้น ไม่ว่ายังไงก็แปลกชัด ๆ!
แต่เสี่ยวเถียนไม่คิดจะปริปากออกไป
ตอนนั้นเองหลินหลินก็ได้ถามขึ้น “เสี่ยวเถียน เธอว่าอาการป่วยของพี่จะรักษาให้หายได้หรือเปล่า?”
เธอคิดว่าถ้ามันหายขาดได้ หลังจากที่แต่งงานแล้วเขาจะได้พักผ่อนเสียที
เด็กสาวยิ้มแล้วพยักหน้า “ต้องตรวจถึงจะรู้ค่ะ แต่จากสีหน้าของพี่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร รักษาหายได้ค่ะ”
เราต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน ตอนนี้สภาพร่างกายไม่หนักหนาอะไร
แม้จะไม่ใช่คำตอบที่น่าพอใจ แต่ก็มีความหวังในระดับหนึ่ง และมันทำให้เธอมีแรงฮึดได้
“ทุกคนรีบกินข้าวกันเถอะค่ะ ถ้าเย็นแล้วจะไม่อร่อยเอานะคะ” หลินหลินรีบร้อนบอกกล่าว หลังจากกินเสร็จก็จะได้ให้เสี่ยวเถียนช่วยตรวจอาการของตนได้
ส่วนเรื่องอื่นค่อนว่ากัน
เราใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการกินข้าว มีความสุขกันมาก
ส่วนโส่วเวินเอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน ไม่เงยหน้าเลย
เสี่ยวเถียนที่แอบสังเกตอดหัวเราะไม่ได้
ไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ กับสาวที่ชอบแม้แต่หน้ายังไม่กล้าเงยขึ้นมาเล้ย
ไว้ค่อยบอกเขาดีกว่าว่าให้เอาอาจารย์ฮั่วเป็นเยี่ยงอย่างบ้าง
ต้องเรียนรู้จากจิตวิญญาณที่ว่า ‘จะไล่ตามภรรยาต้องหน้าหนาเข้าไว้’ นะคะ
[1] ผู้หญิงเจียงหนานได้รับรับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงงามมาก ถึงขนาดที่เฉียงหลงฮ่องเต้ยังต้องเสด็จประพาสซูโจว