เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 620 เงินอุดหนุน
บทที่ 620 เงินอุดหนุน
บทที่ 620 เงินอุดหนุน
คุณย่าซูมองหลานชายด้วยความไม่พอใจ บ้านเรามีหลานที่สนใจแต่เงินแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย?
แต่ก็ยังดีกว่าเป็นคนสุรุ่ยสุร่ายแล้วกัน ตอนนั้นเองแกถึงได้ยอมรับว่าหลานเก่งแต่หาเงิน แต่กับเรื่องอื่นกลับไม่มีความสามรถเลย
“เสี่ยวซื่อ ตอนนี้พวกเรากำลังปรึกษาเรื่องซื้อบ้านอยู่น่ะ” ส่วนโส่วเวินกลับลังเล
อะไรนะ?
เสี่ยวซื่อตะลึงงัน เขากำลังคิดอยู่เลยว่าพวกพี่ชายน้องชายมีเงินพอเปิดร้านใหม่ แต่จะเอาไปซื้อบ้านกันหรือ แล้วร้านล่ะ?
“ไม่งั้นเราปรึกษากันก่อนไหม อย่าเพิ่งซื้อบ้านเลย ไว้หาเงินได้ค่อยซื้อดีไหม?” เขาถามลองเชิง
แต่หลังจากนั้นก็โดนผู้เป็นย่าเคาะหัวอย่างแรง
“พูดอะไรของแก? พี่ชายเขาอายุ 24 แล้วนะ ฉันรอเขาแต่งงานเนี่ย อยากอุ้มเหลนจะแย่” คุณย่าซูด่า
คนเป็นหลานมองย่าด้วยสายตาโง่งม มีแค่ผู้ใหญ่เท่านั้นละที่เข้าใจความคิดย่า แต่ความเข้าใจก็เรื่องนึง ความเป็นจริงก็อีกเรื่องนึงนะ
ถานจื่อสือมีลูกชายและหลานชาย แต่ทั้งคู่นั้นไม่ได้ดีอะไร และตัวชายชราเองก็ไม่คิดจะกลับไปดูแลด้วย
ส่วนภรรยาไม่มีลูก และก็ไม่อยากให้ลูกหลานมาแย่งความรักไปด้วย จึงไม่คิดเรื่องนี้เลย
“ถ้าพี่จะแต่งก็แต่งไปสิ มันเกี่ยวอะไรกับซื้อบ้านอะ? ตอนนี้เราก็มีที่ให้อยู่ไม่ใช่หรือไงครับ?” เสี่ยวซื่อเสี่ยวใจมาก หัวใจโดนย่าทำร้ายอย่างหนัก
“ไม่มีบ้านก็ได้หรือ? ตอนนี้เราอาศัยบ้านน้องสาวแกนะ พี่ชายแต่งงานไม่พอยังต้องมาอยู่บ้านน้องอีกหรือ?”
“…” เสี่ยวเถียน
จะอยู่ก็อยู่ไปเถอะ เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว เธอยังเด็กอยู่เลยนะ!
“…” เด็กคนอื่น ๆ
นี่ย่าว่าแผนจะให้พวกเขามีบ้านเป็นของตัวเองสินะ!
“พี่สี่ ร้านเราไม่มีไรน่าห่วงหรอกนะ”
“พี่คำนวณไว้แล้ว ถ้าเราเปิดสักร้านก่อนปีใหม่ เราหาเงินได้แน่นอน” เสี่ยวซื่อ
“ก่อนปีใหม่?” เสี่ยวเถียนประหลาดใจ
“ใช่ โดยเฉพาะทำงานในวันจ่ายช่วงปีใหม่เนี่ย เราหาเงินได้เพียบเลยนะ!” พี่ชายเริ่มอวดแผนการอันน่าภูมิใจในช่วงนี้ให้ฟัง
เสี่ยวเถียนรู้สึกว่ามีเหตุผลอยู่
“แล้วพี่วางแผนไว้หรือยังคะ จะลงทุนเท่าไหร่?”
ตอนนี้พวกพี่ ๆ มีเงินอยู่ในมือพอควร อาจจะซื้อบ้านและเปิดร้านได้พร้อม ๆ กันเลยนะ
“เราต้องลงทุนทั้งหมด 30,000 หยวน อิงจากตามอัตราส่วนก่อนหน้านี้นะ!”
“งั้นพี่ซื้อบ้านที่เล็กกว่านั้นหน่อยก็ได้นะ!” โส่วเวินคำนวณเงินที่ตนมีอยู่ และคิดว่าเขาสามารถจ่ายไหว
ซื่อเลี่ยงก็เหมือนกัน แต่เขาอยากได้บ้านใหญ่ ถ้าลงทุนกับร้านอีกเหมือนจะไม่พอนะ!
ส่วนซานกงยุ่งเรื่องเพาะเมล็ดพันธุ์กับเสิ่นจื่อเจินในช่วงวันหยุดอยู่ จึงไม่มีเวลาไปไหนมาไหนเลย เงินที่มีก็น้อยกว่าคนอื่น ๆ ด้วย
ถ้าเอาไปลงทุนร้านอีก คงไม่มีเงินซื้อบ้านหรอก
เสี่ยวเถียนเห็นความลำบากใจ ขณะที่กำลังจะเอ่ย คุณย่าก็พูดขึ้นมาเสียก่อน
“ในฐานะผู้อาวุโส จะไม่ให้อะไรพวกหลานเลยคงเป็นไปไม่ได้ ย่าปรึกษากับปู่แล้วว่าจะให้เงินหลานทุกคนคนละสองพัน เป็นเงินอุดหนุนเพื่อให้พวกหลานไปซื้อบ้าน ยกเว้นเสี่ยวอู่นะ”
ทุกคนต่างตกใจ
ปู่ย่าใจกว้างขนาดให้คนละสองพันเลยหรือ?
เดี๋ยวก่อน แล้วทำไมไม่นับเสี่ยวอู่ด้วยละ?
“คุณย่า แบบนี้ไม่ดีนะ ให้พวกเราแต่ไม่ให้เสี่ยวอู่ได้ยังไง ไม่ยุติธรรมเลย!” เสี่ยวซื่อ
หญิงชราเหลือบมองหลาน ก่อนจะเอ่ยหยอก “งั้นแกออกให้น้องไหมล่ะ?
เสี่ยวซื่อหุบปากฉับ
ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงออมเงินอยู่ ถ้าต้องจ่ายให้เสี่ยวอู่ด้วย แล้วแผนการหาเงินของเขาล่ะ?
“ย่า ไว้ค่อยซื้อในอีกหลายปีข้างหน้าก็ได้ ตอนนี้เงินผมก็เอาไปลงหมดแล้ว จนมากเลย!”เสี่ยวซื่อขบคิดอย่างรอบคอบก่อนจะเอ่ยปาก
เสี่ยวเถียนไม่คิดไม่ฝันว่าพี่สี่จะพูดแบบนี้
เขารู้ไหมว่าถ้าไม่ซื้อบ้านตอนนี้ ต่อให้อนาคตหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ เขาจะซื้อบ้านได้ยากแล้วนะ!
“งั้นแกก็ไม่ต้องพูด!” หญิงชราจ้องเขม็ง
“ย่าครับ เสี่ยวอู่รับราชการทหารเพื่อปกป้องครอบครัวและบ้านเมืองนะ!”ซื่อเลี่ยงเองคิดเหมือนกันเลย
“พวกแกก็รอให้ฉันพูดจบก่อนได้ไหม” คุณย่าซูว่า “ฉันไม่ได้ลำเอียงพวกแกมากกว่าอยู่แล้ว ทุกคนได้คนละสองพัน ส่วนบ้านเสี่ยวอู่ฉันกับปู่แกจะออกเงินเอง อย่าคิดว่ามันไม่ยุติธรรม”
แบบนี้นี่เอง!
หลังจากที่ตระหนักได้ก็คิดว่าย่าทำแบบนี้ไม่มีอะไรผิดตรงไหน
ถ้าเสี่ยวอู่ไปปกป้องชาติบ้านเมือง เขาไม่น่าได้หาเงินอยู่แล้ว ไม่แปลกหากปู่ย่าจะอุดหนุนเขามากกว่าเรา
กลับกันแล้วเป็นเหลียงซิ่วมากกว่าที่ตกใจกับคำพูดของแม่สามี
พวกท่านคิดจะเก็บเงินซื้อบ้านด้วยตัวเองด้วย เพราะพ่อแม่อย่างเราหาเงินได้ไม่เยอะ การซื้อบ้านในเมืองให้เป็นอะไรที่ลำบากมาก แต่แม่สามีกลับแก้ปัญหาให้
“เดิมทีฉันกับปู่แกไม่คิดจะให้เงินอุดหนุนซานกงเยอะหรอก แต่ตอนนี้เห็นว่าซานกงจะไม่มีเวลาหาเงิน เพราะงั้นเงินสำหรับซื้อบ้านในคราวนี้เราจะให้เขาเพิ่มอีก 1500 หยวน ทุกคนมีความคิดอะไรไหม?”
เด็ก ๆ ใจเย็นกันมาก เงินของปู่ย่าเขาจะให้ใครก็ได้ แถมซานกงเองก็อยากหาเงินแต่มีเวลาแค่ช่วงหน้าหนาวเท่านั้น มันจะไม่ทันการเอาน่ะสิ
ทว่าหลานคนที่สามกลับละอายใจ “คุณย่าครับ แบบนี้ไม่ดีเท่าไหร่เลย!”
“มีตรงไหนไม่ดีกันล่ะ? แกช่วยอาเขยเพาะเมล็ดพันธุ์ธัญพืชเยอะ ๆ ก็พอ ส่วนเรื่องหาเงินก็ให้คนอื่นเขาทำไปเถอะ!” ชายชรามองหลานชาย ก่อนหยิบกล่องบุหรี่ขึ้นมา
เสี่ยวเถียน “พี่สาม ย่าพูดถูกนะคะ แต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน มีทักษะความสามารถเป็นของตัวเองนะ!”
เธอมองปู่ย่าและรู้สึกเหนื่อยแทน ครอบครัวเรามีหลานชายแปดเก้าคน เรียนจบเมื่อไรก็เริ่มแต่งงานมีลูก จะหาเวลาไหนไปใช้เงิน
ซื้อบ้านไม่พอ ยังต้องใช้เป็นสินสอดอีก
ซานกงมองน้อง และอยากบอกว่าเอาเงินให้เสี่ยวเถียนดีกว่า
แต่ย่าพูดมาตลอดเลยว่าเสี่ยวเถียนเป็นหลานสาวคนเดียวเลยต้องดูแล และเขาคิดแบบนั้นมาตลอด ถึงเสี่ยวเถียนจะไม่ใช่น้องในไส้ แต่เขาไม่เคยคิดจะแข่งกับน้องเลย
“พี่สาม ไม่ต้องคิดเยอะ เงินย่าก็คือของหนูแหละ”
เสี่ยวเถียนยิ้ม “ย่าเหมือนจะรักหนู แต่จริง ๆ แกรักพวกพี่ทุกคนนะ”
ไม่ว่าใครก็สำคัญทั้งนั้น จะไม่รักได้ยังไงล่ะ?
หญิงชรากอดหลานสาว “โอ้โห หลานรักย่ารู้ใจดีจริง ๆ”