เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 676 ถึงคราวรวยแล้ว
บทที่ 676 ถึงคราวรวยแล้ว
บทที่ 676 ถึงคราวรวยแล้ว
พอเหล่าต้าพูดแบบนี้ เหล่าเอ้อร์และภรรยาเลยเห็นด้วย ทีแรกฉีเหลียงอิงลังเลใจ แต่เพราะมันไม่ใช่ของเธอ ต่อให้อิจฉาก็จริงแต่ก็ไม่ได้โลภหรอกนะ เพราะนิสัยแบบนี้แหละเลยกลัวว่าตัวเองจะทนทุกข์เอา แต่ตอนนี้เห็นว่าชีวิตกำลังดีขึ้นแล้ว
ที่ยิ่งกว่านั้นคือชีวิตดีขึ้นได้เพราะเสี่ยวเถียน ความคิดของเธอจึงดีกว่าเดิมมาก
“งั้นมาแบ่งตามที่ปู่ย่าบอกแล้วกันค่ะ ยังไงมันก็เป็นของทุกคนอยู่แล้ว” เสี่ยวเถียนรีบบอก
ที่ช่องเก็บของในระบบยังมีสมบัติอีกหลายอย่าง แต่จะเอาออกมาตอนนี้ก็ไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องทำให้ที่บ้านทะเลาะกันเพราะของพวกนี้
อีกอย่างในชาติก่อนพวกพี่ ๆ ดูแลเธออย่างดี และความหวังอันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ของเธอเองก็คือให้คนที่บ้านมีชีวิตที่ดีเหมือนกัน
“ฉันกับแม่พวกแกจะให้เสี่ยวเถียนหนึ่งในสาม และที่เหลือก็เอามาแบ่งกัน” คุณปู่ทำตามความต้องการของหลานสาว
“งั้นแบ่งเถอะครับพ่อ!” เหล่าซานมองภรรยาแล้วว่า
ถ้าสมบัติพวกนี้ให้ครอบครัวเราหมด ก็กลัวครอบครัวพี่ใหญ่และพี่รองเกิดข้อพิพาทในอนาคตอีก
เราไม่จำเป็นต้องให้คนที่บ้านบาดหมางด้วยเรื่องพวกนี้
“งั้นจะให้ปลาทองตัวใหญ่ครอบครัวละ 3 ก้อนนะ รวมหม่านซิ่วด้วย มีใครคัดค้านอะไรไหม?” ชายชราถาม
ทุกคนส่ายหัว
ถึงในชนบท การแยกครอบครัวกันมักไม่มีส่วนแบ่งให้ลูกสาว แต่กับบ้านเรามันไม่ใช่แบบนั้น จึงควรให้หม่านซิ่วด้วยอยู่แล้ว
คุณปู่ซูมองคู่ลูกชายคนรอง “แต่ครอบครัวเหล่าเอ้อร์จะให้เพิ่มอีกก้อนนะ เพราะมีลูกสี่คนเลยแบ่งยาก”
คุณปู่ซูคิดว่าทองพวกนี้พวกลูกชายอาจใช้ไม่เยอะ เลยพูดแบบนี้
ส่วนเหล่าเอ้อร์กลับคาดไม่ถึงว่าพ่อจะคิดเช่นนี้
“พ่อ ถ้าแบ่งแบบนี้บ้านเราจะได้เปรียบนะ” เขาเกาหัว
“งั้นปลาทองตัวเล็กจะไม่แบ่งให้บ้านแกแล้วกัน แต่จะให้อีกสองครอบครัวเพิ่มเป็นละ 4 ก้อนแล้วกัน เพราะงั้นครอบครัวแกจะเสียเปรียบนิดหน่อยนะ”
ปกติคุณปู่ซูรักลูกเท่ากันอยู่แล้ว จึงพูดแบบนี้ออกมา
เรามีปลาทองคำหนึ่งก้อน แล้วก็ตัวเล็กประมาณ 10 กว่าตัว ถ้าคำนวณแล้วส่วนแบ่งแต่ละครอบครัวจะไม่ได้ต่างกันมาก และครอบครัวเหล้าเอ้อร์จะได้ประโยชน์นิดหน่อย
ต้องบอกว่าปีนี้ตระกูลซูเข้ากันได้ดีมาก หลัก ๆ คือทุกคนปฏิบัติกันอย่างเท่าเทียม แม้ว่าจะชอบเสี่ยวเถียนกว่าคนอื่นแต่ก็ไม่ได้มากจนเกินไป
เพราะงั้นครอบครัวเหล่าซานจึงยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่
ถ้าเกิดความไม่เท่าเทียมคงลำบากกว่านี้แน่
ลูกชายทั้งสามของบ้านพยักหน้าเห็นด้วย
“ทีนี้เราจะเหลือปลาทองคำตัวใหญ่อีก 8 ก้อน ตัวเล็ก 6 ก้อน เหลือให้ฉันกับแม่แกตัวใหญ่ 2 ที่เหลือให้เสี่ยวเถียน ไม่ค้านใช่ไหม?” ชายชราถาม
เหล้าต้าเหล่าเอ้อร์คิดว่าน่าควรยกเรื่องนี้มาเป็นข้อพิพาท จึงไม่ได้ตอบสนองทันที
“งั้นส่วนแบ่งของหม่านซิ่วให้เสี่ยวเถียนเก็บก่อนแล้วกัน งั้นของแต่ละคนก็เอาไปซ่อนนะ”
ส่วนจะซ่อนไว้ที่ไหนเขาไม่สนใจหรอก เพราะมันไม่ได้เยอะอะไรมีวิธีอยู่แล้ว
ขณะที่คุณปู่ซูพูด เขาก็หยิบทองคำออกมาแล้วให้ลูกชายทั้งสามตามที่บอกไว้
เหล่าต้าถือทองคำอันหนักอึ้ง
ในชีวิตนี้เราเคยสัมผัสทองคำนะ มันหนักมาก แถมมันยังเป็นของเราอีกด้วย!
พี่น้องตระกูลซูตกใจมาก เพราะคิดมาตลอดว่าตระกูลลูกหลานชาวนาจะร่ำรวยได้ยังไง?
แต่นับจากนี้ไปเราจะมีทองคำอยู่ในมือแล้ว
นี่คือความรู้สึกที่กำลังปะทุสินะ?
เสี่ยวซื่อเริ่มคำนวณ เราจะหาเงินทำธุรกิจได้เท่าไรถ้าแปลงทองคำเป็นเงินแล้ว
เขาจะเปิดร้านได้อีกหลายสาขาเลยใช่ไหม?
“พ่อ แล้วทองคำเยอะแบบนี้เราจะเอาไปไว้ไหนคะ?” หวังเซียงฮวางุนงง
“ขึ้นอยู่กับเธอเลยว่าจะจัดการยังไง หรือจะแบ่งให้ลูกเลยล่ะ!”
คุณย่าซูปลาบปลื้มที่สะใภ้ใหญ่มีท่าทางเช่นนี้!
“กล่องนี้มีชั้นลอยด้วยนะ ในนั้นมีอัญมณีอยู่ เราแยกครอบครัวกันแล้วด้วยเลยแบ่งไม่ยากเลย”
“คุณปู่ แล้วมีอะไรอีกครับ?” เสี่ยวซื่อตื่นเต้น
ถึงคราวรวยแล้ว!
“ฉันไม่รู้มูลค่านะ เลยจะแบ่งออกเป็นหกส่วนคือให้พ่อทั้งสาม เสี่ยวเถียน หม่านซิ่ว ฉันและแม่แกคนละหนึ่ง” หลังจากเปิดชั้นลอยขึ้น เขาก็มองความเปล่งประกายของอัญมณี
แน่นอนว่าคนที่เหลือในบ้านไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ก่อนจะแยกอัญมณีอย่างง่าย ๆ และเริ่มแจกแจง
พวกผู้หญิงห่อใส่ผ้า ส่วนที่เหลือบนโต๊ะเป็นของเสี่ยวเถียนและหม่านซิ่ว
หลังจากเหล่าซานและเหลียงซิ่วมองหน้ากัน ก็วางทองคำและอัญมณีหน้าลูกสาว
เสี่ยวเถียนตะลึงงัน “พ่อ แม่ ทำอะไรคะ?”
“นี่ของลูกหมดเลย จะเปิดโรงงานในลี่เฉิงไม่ใช่หรือ?” คนเป็นแม่ยิ้มอ่อนโยน “พี่ชายลูกไม่ค้านอยู่แล้วล่ะ!”
แน่นอนว่าเราสองสามีภรรยาคิดเผื่อลูกอยู่แล้วจึงเอามันมาให้ลูกสาวทั้งหมด
เสี่ยวอู่ไม่อยู่ด้วย จึงมีแค่เสี่ยวปาเท่านั้น “เสี่ยวเถียน นี่เป็นของเธอหมดเลย พี่ไม่เอาหรอก”
เขาไม่รู้ว่าพี่ห้าอยากได้ไหม แต่เขาไม่อยากได้ ยังไงก็มีทั้งเงินทั้งบ้านอยู่แล้ว
คุณปู่คุณย่าซูเหมือนกัน แต่ต่อหน้าคนอื่น ๆ ในบ้านมันพูดยากเลยไม่ได้เอ่ยออกไป
เสี่ยวเถียนรีบดันคืน “พ่อ แม่ ไม่จำเป็นหรอกค่ะ หนูมีพอแล้วค่ะ ตอนนี้สมบัติจะยังไม่มีมูลค่ามาก แต่อนาคตมันจะเพิ่มกว่านี้แน่นอนค่ะ”
เสี่ยวเถียนเห็นแล้วว่ามันมีของดีในกองนั้นด้วย ถึงจะไม่ถือว่าเป็นมรดกของครอบครัวแต่ก็เป็นของเหมาะสมนะ
หรือจะบอกว่าของมีค่าจริง ๆ ไม่ใช่ทองคำแต่เป็นอัญมณีพวกนั้นต่างหาก
ในยุคนี้ปัญหาคือเรื่องปากท้อง ของพวกนี้ใครจะอยากได้ แต่ในอนาคตทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนั้นแหละที่มันจะมีค่า
“เสี่ยวเถียนเอาไปใช้ก่อนเถอะ ไว้มีเงินเมื่อไรค่อยหาซื้อก็ได้!” เหลียงซิ่วรั้น
ลูกสาวไปกู้เงินมาห้าหมื่น แล้วถ้าเธอยังกู้ต่อแบบนี้ คนเป็นแม่แบบเธอนอนตาไม่หลับเลย
ตอนนั้นแม่ใหญ่แม่รองมองหน้ากันและยกส่วนแบ่งตัวเองให้ด้วย ถึงเราจะแยกครอบครัวกันแล้ว แต่พ่อแม่สามีสนับสนุนเรื่องโรงงานเสี่ยวเถียนอยู่ เราจะไม่เห็นแก่ตัว
คุณย่าซูตกใจมากที่สะใภ้ทั้งสองทำเช่นนั้น
สะใภ้ใหญ่ไม่เท่าไร แต่สะใภ้รองเนี่ยสิคาดไม่ถึงเลย