เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 680 ลงมือ
บทที่ 680 ลงมือ
บทที่ 680 ลงมือ
“ตั้งแต่คุณขายฉัน ฉันก็ไม่มีแม่อีกแล้ว!” แววตาเหลียงซิ่วเต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ!
หลายปีที่ผ่านมา เรื่องนี้มันกดทับอยู่ในใจเธอมาตลอด ทั้งหนักอึ้งและไม่สามารถปล่อยวางได้ และคิดมาตลอดหลายปี ขอแค่แม่พูดกับเธออย่างอ่อนโยน ไม่บีบบังคับกันก็พอ แต่ผ่านไปปีแล้วปีเล่า นอกจากไม่อธิบายเหตุการณ์ในตอนนั้นให้ฟังแล้วยังบีบบังคับเธอไม่รู้จบอีก ทั้งยังอยากให้เหลียงซิ่วดูแลด้วย
โชคดีที่คนบ้านซูไม่ได้แตกแยกกัน แถมยังมีผู้อาวุโสเป็นหลัก ไม่งั้นเหลียงซิ่วคงไม่มั่นใจว่าจะอดทนได้หรือเปล่า พอคิดเรื่องนี้ก็ได้แต่เสียใจกว่าเดิม เอาแต่จ้องเขม็งไปที่มารดาผู้ให้กำเนิด
แม่เฒ่าเหลียงรู้นิสัยลูกสาวดี แต่ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าแบบนี้มาก่อนเลย เลยรู้สึกกลัวโดยไม่รู้ตัว
“นังเด็กนี่ ทำหน้าแบบนี้มันคืออะไร?”
ถึงจะกลัวสายตาคู่นั้น แต่เพราะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นแม่ เหลียงซิ่วจึงรวบรวมความกล้าแล้วถามขึ้น
“หลายปีที่ผ่านมา ฉันทนเพราะถือว่าเราเป็นสายเลือดเดียวกัน แต่ถ้าคุณไม่อยากได้มันฉันก็ไม่สนใจเหมือนกันค่ะ!”
ลูกสาวไม่กลับมานานแรมปี พ่อแม่ควรแสดงความรู้สึกให้กันหน่อยไหม ต่อให้อยากได้เงิน ก็มาหลบขอไม่ได้หรือ? ทำไมต้องมาแหกปากร้องไห้ต่อหน้าฝูงชนด้วย?
ทำไมวันดี ๆ ถึงโชคร้ายแบบนี้นะ? แล้วเธอจะอธิบายให้พี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ฟังยังไง?
“นังเด็กอกตัญญู ฉันจะตีแกให้ตายเลยคอยดู!” พ่อเฒ่าเหลียงตะคอกลั่น
แต่เหลียงซิ่วเมินเฉย ถึงพ่อจะลงมือใส่แต่จะต้องมีคนเข้ามาปกป้องเธอแน่นอน
“พี่สะใภ้ใหญ่ ฉันขอโทษด้วยนะคะที่ทำลายวันดี ๆ ไปหมดเลย!” เธอเอ่ยกับหวังเซียงฮวาด้วยความจริงใจ เธอเสียใจจริง ๆ
รู้แบบนี้คงไม่ให้พวกเขามาหรอก แต่มันเกิดขึ้นแล้วเนี่ยสิ จะไปทำอะไรได้? และตอนนี้ก็นึกเสียใจที่ไม่ควรกลับบ้านมาเหมือนกัน!
“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้มันก็แค่งานเลี้ยงเอง ไม่ใช่วันแต่งงานเสียหน่อย!” หวังเซียงฮวาไม่รู้ว่าจะปลอบใจตัวเองหรือน้องสะใภ้ดี
แต่สุดท้ายเหลียงซิ่วก็รู้สึกดีขึ้น
หลี่ชุ่ยฮวาเห็นอีกฝ่ายพูดความจริงก็กลอกตาคิด ได้ยินว่าสะใภ้พวกนี้ร่ำรวยมาก ไม่ว่าจะพูดยังไงจะต้องหาทางเอาเงินมาให้ได้ ไม่งั้นถ้าแยกกันคงไม่รู้จะได้เจอกันเมื่อไร และเป็นการยากที่จะขอเงินด้วย
“น้องสามี อย่าว่าฉันงั้นงี้เลยนะ ทุกคนมีพ่อแม่และเธอก็คือลูกสาว จะไม่สนใจได้เชียวหรือ?”
หลี่ชุ่ยฮวาเอ่ยปากพูดบลา ๆ ออกมาเป็นชุด ทำให้เหลียงซิ่วไม่สบายใจที่พี่สะใภ้สร้างความเข้าใจผิดให้คนอื่น ๆ
พี่สะใภ้ทั้งสองบ้านฝั่งพ่อแม่เธอไม่อะไรหรอก แต่สะใภ้สามเป็นพวกกลัวโลกไม่มีความวุ่นวาย
ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นพวกที่คิดถึงแต่ตัวเอง
ไม่อยากหาเงินเองเพื่อมีชีวิตที่สุขสบาย เลยคิดจะฉกฉวยจากคนอื่นแทน
“พี่สะใภ้สาม พ่อแม่ก็มีลูกชายไม่ใช่หรือคะ ตอนที่พวกเขาขายฉันให้คนอื่นก็ขอซื้อไปในราคาข้าว 3 ถังและเงิน 70 หยวน แล้วยังบอกอีกไม่ใช่หรือว่าของพวกนั้นจะไว้ใช้ดูแลลูกหลานของตัวเองน่ะ?”
เรื่องนี้แหละที่ทำคุณย่าซูไม่พอใจเหลียงซิ่วมาก ๆ ทุกคนในหมู่บ้านต่างรู้กันทั่ว
ตอนนั้นทุกคนเริ่มเบนเข็มไปทางตระกูลเหลียงแล้ว
หลี่ชุ่ยฮวาโกรธจัด
“เหลียงซิ่ว ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ฉันถามพวกเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านแล้ว ลูกสาวต้องเลี้ยงดูคนแก่ ทางที่ดีเธอควรจะเอาเงินอุดหนุนพ่อแม่มาให้ฉันนะ”
ราวกับจะปล่อยไปไม่ได้ถ้าไม่ได้เงินในวันนี้
“ให้คุณหรือ เป็นแม่ฉันหรือไง?” เหลียงซิ่วโกรธกับคำพูดไร้ยางอายนั่นมาก “ไม่ดูพฤติกรรมตัวเองสักหน่อยล่ะว่าสมควรได้หรือเปล่า!”
ถ้าไม่มีหลี่ชุ่ยฮวา ทุกอย่างอาจแตกต่างไปจากนี้ก็ได้ พ่อแม่คงจะทำดีต่อเธอสักนิดนึงใช่ไหม? ถึงจะเย็นชาต่อกัน แต่เหลียงซิ่วไม่เชื่อว่าจะไร้ตัวตนในสายตาพวกเขาหรอกนะ
“เธอ ลองไปถามแถวนี้ดูสิมีบ้านขอเงินอุดหนุนจากลูกสาวทั้ง ๆ ที่มีลูกชาย หรือลูกชายตายแล้ว?”
บางคนไม่เกรงใจเอ่ยออกมาตรง ๆ ทันที มันเป็นคำพูดที่ไม่น่าให้อภัยอย่างยิ่ง
ถึงกฎหมายในปัจจุบันจะกำหนดให้บุตรชายบุตรสาวมีหน้าที่ดูแลพ่อแม่ ในเมื่อว่าอย่างนั้นก็ต้องทำแบบนั้นสิ
บ้านไหนที่มีลูกชายรับไม่ได้กับเรื่องนี้จริง ๆ
แต่พวกตระกูลเหลียงกลับไม่ใช่แบบนั้น
พอมีคนนึงเอ่ยขึ้น คนอื่น ๆ ก็ตามกันมา
“ใช่ ๆ สามีพวกคุณก็อายุตั้งขนาดนี้ ยังมาพูดจาน่าอายแบบนี้อีกหรือ?”
“หรือเป็นผู้หญิงกันหมดทุกคน?”
“ก็จริง ถ้าเป็นผู้ชายจะทำแบบนี้ได้ยังไงล่ะ มือเท้าก็มีดันให้น้องสาวดูแลพ่อแม่เสียอย่างนั้น!”
คนในหมู่บ้านหนานหลิ่งทนเห็นคนบ้านเหลียงเข้ามาสร้างปัญหาในวันสำคัญไม่ได้ เลยพูดออกมาโดยไม่เกรงใจ เธอทำได้ฉันก็ทำได้ และมันทำให้ใบหน้าคนบ้านเหลียงใบหน้าน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม ทีแรกพ่อเฒ่าเหลียงคิดจะเข้าไปทุบตีลูกสาว แต่ดันอับอายที่โดนกดดันแบบนี้
ส่วนภรรยาเริ่มสะอื้นแล้ว
และคิดขึ้นมาจริง ๆ ว่าคงจะดีถ้าไม่มีลูกสาวคนนี้ มีลูกสาวบ้านไหนไม่นึกถึงพ่อแม่ตัวเองบ้าง? ทำไมต้องให้กำเนิดคนไร้หัวจิตหัวใจแบบนี้ด้วย? อยู่ดีกินดีอยู่คนเดียว ถ้าคิดถึงพ่อแม่ตัวเองสักนิดชีวิตเราคงไม่ลำบากหรอก
“ชีวิตฉันรันทดเหลือเกิน มีลูกสาวแต่ไม่นึกถึงครอบครัว เอาแต่คิดถึงคนนอกบ้าน แม้แต่ไอ้หัวเป็นเกลื้อนก็ยังสนิทกว่าพวกเราอีก!”
แม่เฒ่าเหลียงคร่ำครวญโดยไม่ลืมแขวะเหลียงซิ่วด้วย
แต่มันไม่มีคนฟัง เพราะหัวหน้าครอบครัวไม่ใช่เหลียงซิ่ว แล้วทำไมต้องคิดถึงตระกูลเหลียงด้วยล่ะ?
อีกอย่างลูกสาวที่แต่งงานแล้วคิดถึงครอบครัวตัวเอง งั้นย้ายกลับเลยไม่ดีกว่าหรือ?
สะใภ้หลี่จู้จื่อที่กำลังยืนชมอยู่ข้าง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโดนเอี่ยวด้วย
“แม่เฒ่า พูดจาแบบนี้ไม่มีเหตุผลเลยนะ ที่ฉันและสามีสนิทกับคนบ้านซู เพราะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนดี มีบุญคุณต่อเราค่ะ!” เธอร้องเหอะ
น้ำเสียงและท่าทางบอกได้เลยว่า ทั้งสองตระกูลไม่ได้สนิทกันสักนิด
“ทำไม นี่คิดจะข่มกันหรือ?”
หลี่ชุ่ยฮวาเห็นพ่อแม่สามีเงียบ ส่วนผู้ชายอีกสามคนไม่กล้าเชิดหน้าชูตาก็ไม่มีความสุขสักนิด
ฉีเหลียงอิงทนไม่ไหว เป็นลูกสาวเหมือนกันทำไมน้องสะใภ้สามถึงทุกข์ทนแบบนี้ด้วย?
“อยากจะถุย ที่บอกว่าข่มคืออะไร?” ฉีเหลียงอิงว่าก่อนจะพุ่งเข้าไปตบหลี่ชุ่ยฮวาทันที
เวลาผู้หญิงทะเลาะกัน มักจะจิกไม่ก็ข่วน ทั้งสองก็ทำแบบนั้นเช่นกัน
ไม่ทันให้ได้คิด ทั้งสองก็รุมกันแล้ว ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด