เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 731 แย่งทำหน้าที่
บทที่ 731 แย่งทำหน้าที่
บทที่ 731 แย่งทำหน้าที่
“เดี๋ยวจะแบ่งนักศึกษาออกไปขนหนังสือนะ ผมขอดูก่อน คุณ คุณคนนี้ แล้วก็คุณด้วย พวกคุณไปขนหนังสือมานะ” อาจารย์ฮั่วชี้ไปที่นักศึกษาชายร่างกายสูงใหญ่และแข็งแรง
ในส่วนนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ประโยคถัดมากลับเป็น “นักศึกษาซูเสี่ยวเถียน คุณไปกับพวกเขาด้วยครับ!”
คนในห้องเรียนเงียบลงทันที ทุก ๆ สายตาจับจ้องไปที่อาจารย์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ได้แต่สงสัยว่าอาจารย์เรียกผิดหรือเปล่า บางส่วนกลับคิดว่าอาจารย์ไม่ชอบน้องสาวคนรักตัวเองหรือเปล่า ก็เลยล้างแค้นเป็นการส่วนตัว?
ไม่งั้นทุกคนในห้องก็คงได้ขนหนังสือแล้วสิ ไม่ถึงคราวเด็กวัยเสี่ยวเถียนหรอก และรวมไปถึงนักศึกษาชายที่อาจารย์เรียกเมื่อครู่นี้ด้วย
“อาจารย์ฮั่วไม่ได้เรียกผิดใช่ไหมครับ!”
เขามองเสี่ยวเถียน ก่อนเบนสายตาไปยังคนเป็นอาจารย์ เพราะไม่เชื่อว่าเขาจะจัดแจงเช่นนี้น่ะสิ แต่ฮั่วซือเหนียนกลับพยักหน้ายืนยัน
เสี่ยวเถียนทำอะไรไม่ถูก เพราะตั้งใจว่าจะเป็นเทพธิดาตัวน้อยแสนสวย ทำไมต้องให้เธอมาขนหนังสือด้วย? นี่กะทำลายภาพลักษณ์กันหรือ?
อาจารย์ฮั่วไม่รู้คำแย้งเสี่ยวเถียนสักนิด เพราะรู้ว่าเธอมีพลังมหาศาล ทั้งยังเชื่อว่าแค่เด็กหญิงคนเดียวแรงก็เท่ากับนักศึกษาชายสองคนด้วยซ้ำ
“อาจารย์ครับ ให้ผมไปดีกว่า!”
ตอนที่เสี่ยวเถียนกำลังจะลุกขึ้น ก็มีนักศึกษาชายคนหนึ่งเอ่ยตัดหน้า
ถึงในชั้นเรียนจะมีนักศึกษาชายน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้ไร้ยางอายถึงขนาดปล่อยให้ผู้หญิงขนหนังสือหรอกนะ
โดยเฉพาะเด็กหญิงอ่อนแออายุน้อยคนนี้ด้วย
พอมีคนนำ คนอื่น ๆ ก็ตามมาด้วย ถึงจะมีบางส่วนพยายามไม่ออกตัวเพราะไม่อยากเป็นคนขนหนังสือ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้มันช่วยไม่ได้แล้ว และเมื่อมีคนเสนอตัว คนอื่น ๆ จึงทำตามกันหมด
พวกที่ไม่อยากใช้แรงเห็นคนไปกันเยอะก็ถือว่าได้โอกาส การขนจึงไวมากยิ่งขึ้น
สถานการณ์ออกมาเป็นเช่นนี้แล้ว นักศึกษาชายชั้นปีที่ 1 เอกภาษาจีนจึงพากันไปขนหนังสือ
อาจารย์ฮั่วไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
แต่ก็ให้พวกเขาไปเถอะ ถือว่าออกกำลังกาย!
“อาจารย์ฮั่ว หนูยังต้องไปไหมคะ?” เสี่ยวเถียนเอ่ยเสียงเรียบ
ไป?
ไปทำอะไร?
เขาพูดไม่ออก หนังสือเรียนมีเยอะก็จริงแต่คนยกโขยงไปขนาดนี้ ต่อให้เสี่ยวเถียนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก
“ไม่ต้องแล้ว!” อาจารย์ฮั่วเอ่ยอย่างหมดหนทาง
ตอนนั้นเองที่จ้าวหงเหมยเพิ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ทำไมฉันรู้สึกว่าอาจารย์ไม่ได้ชอบพี่สาวเธอขนาดนั้นล่ะ?” เธอลดเสียงลง
ตลกแล้ว ถ้าอยากเป็นพี่เขยแล้วมากดขี่น้องสะใภ้แบบนี้ได้ยังไง?
เสี่ยวเถียนยิ้มขื่น
จะไม่ชอบพี่เสี่ยวเหมยได้ยังไง? ไล่จีบมาหลายปี อยากจะแต่งงานกับพี่สาวเธอแทบทุกวัน ถ้าไม่ชอบก็คงไม่รู้แล้วว่าคำว่าชอบคืออะไร
“ชอบมากอยู่แล้วสิ!”
แต่การมีอาจารย์ที่รู้จักเรานี่มันไม่ดีเลยสักนิด ความฝันที่จะเป็นเทพธิดาตัวน้อยแทบพังทลาย
ไม่นานกลุ่มคนที่ไปขนหนังสือก็กลับมาอย่างอึกทึกครึกโครม แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนยุคหลัง ต่อให้เป็นมหาวิทยาลัยก็ไม่มีวิชาเปิดสอนเยอะขนาดนั้น
นักศึกษาชายสิบกว่าคนกลับมาโดยไม่ต้องใช้แรงมากนัก
เพื่อลดปัญหา ฮั่วซือเหนียนให้คนที่ขนหนังสือมาช่วยกันแจกจ่ายหนังสือทันที
เสี่ยวเถียนลูบหนังสืออย่างระมัดระวัง
ตั้งแต่เกิดใหม่ ในที่สุดก็ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเสียที และได้สัมผัสหนังสือเรียนของการศึกษาระดับนี้แล้วด้วย
“วันนี้เราไม่มีเรียนนะครับนักศึกษา แต่เราจะมาประชุมเพื่อเลือกหัวหน้ากัน”
รอยยิ้มบนใบหน้าบางส่วนสดใสขึ้นทันที
เราไม่ได้เรียนแต่เลือกหัวหน้าแทน เวลาที่เหลือก็จะเป็นของเรา
“ช่วงบ่ายเราจะมีการฝึกทหารนะครับ นักศึกษาทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะ” ตอนนั้นเองที่อาจารย์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
อะไรนะ?
ฝึกทหาร?
หมายถึงอะไรเนี่ย?
“เดิมทีอาจารย์ฝึกสอนของพวกเขาจะมาเย็นวันก่อนครับ แต่เพราะรถไฟเกิดล่าช้าก็เลยมาถึงวันนี้ตอนเช้าแทน ผมหวังว่านักศึกษาทุกคนจะต้อนรับเขาอย่างขยันขันแข็งนะ”
ถึงฮั่วซือเหนียนจะพูดไม่เก่ง แต่สิ่งที่เขาพูดมันน่าสนใจมาก
เสี่ยวเถียนไม่แปลกใจกับวิชาทหารเท่าไร ไม่รู้ว่าทางมหาวิทยาลัยมันเริ่มฝึกตั้งแต่ตอนไหน แต่ที่ทางโรงเรียนจัดการฝึกมาก็เพื่อให้มันได้ฝังรากลึกลงไปในใจผู้คนในภายภาคหน้า!
ต่อไปพวกเด็ก ๆ ก็จะได้ไม่ต้องคิดแล้วว่าเราต้องเข้าร่วมการฝึกยังไง
ตอนนี้เราจะจัดประชุมเรื่องหัวหน้ากันก่อน
ปกติเราจะเลือกเด็กผลการเรียนดีเป็น หรือหนึ่งในผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือก
แต่เสี่ยวเถียนที่ได้อันดับหนึ่งของเอกนี้กลับมีอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น ถ้าปล่อยให้เธอจัดการจะดีหรือเปล่า ว่ากันตรง ๆ คือจะคุมเพื่อนในห้องได้ไหม?
“ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ทุกคนสามารถเลือกหนึ่งในนักศึกษาเพื่อมาทำหน้าที่น่ะ หรือหากมีนักศึกษาคนไหนอาสาสมัครก็ทำได้เช่นกันนะ”
ว่าจบก็ลอบมองสีหน้าของเด็ก ๆ แต่ผ่านไปสองนาทีกลับไม่มีใครพูดอะไรเลย เขาได้แต่ตกตะลึง ทำไมถึงไม่มีใครพูดอะไรเลยเนี่ย?
หรือที่ทำเฉยเพราะรอให้เสี่ยวเถียน อันดับหนึ่งเป็นคนพูด ควาามจริงแล้วมีหลายคนที่เต็มใจ แต่ก็อายเกินกว่าจะเอ่ยปาก
“ไม่งั้นก็ซูเสี่ยวเถียน ผมจะให้คุณเป็นหัวหน้านะ ตั้งกลุ่มเพื่อทำหน้าที่ดูแลเพื่อน ๆ”
ฮั่วซือเหนียนไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาเช่นนี้
เขาเป็นอาจารย์มาหลายปี แต่ก็เป็นแค่อาจารย์สอนแทนเท่านั้น และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และเรื่องหยุมหยิมแบบนี้เขาไม่มีความอดทนจะจัดการหรอกนะ
ตอนแรกเสี่ยวเถียนไม่คิดจะเข้าไปเอี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้จึงรอชมการเลือกหัวหน้าอย่างใจจดใจจ่อราวกับดูหนัง แต่ใครจะไปรู้ว่าดันถูกเสนอชื่อขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เธอตกใจมาก!
อะไรเนี่ย?
ทำไมโดนหางเลขไปด้วยเนี่ย?
อาจารย์ฮั่วคิดอะไรอยู่?
ปีนี้เธอเพิ่งสิบสาม เป็นวัยที่สมควรเลี้ยงดูราวกับเทพธิดาตัวน้อยที่น่ารัก
แล้วทำไมต้องมาเป็นเวรรับใช้คนที่แก่กว่าตัวเองขนาดนั้นด้วยล่ะ?
ฮั่วซือเหนียนไม่ชอบน้องสะใภ้ขนาดนั้นเลยหรือไง?
นี่คิดจะขุดหลุมฝังเธอเลยหรือ?
แต่ก่อนจะได้เอ่ยปาก จ้าวหงเหมยก็พูดขึ้นก่อน