เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 742 กำหนดการฝึก
บทที่ 742 กำหนดการฝึก
บทที่ 742 กำหนดการฝึก
ซูอู่ร่างตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขารู้ว่าเด็กคนนี้มีผลการเรียนดีเยี่ยม แต่เธอเพิ่งจะอายุเท่าไรเอง?เป็นหัวหน้าเลยหรือ? ที่นี่มีผู้ใหญ่ตั้งเยอะแยะ แล้วให้เด็กอายุแค่นี้มาเป็นหัวหน้าก็เห็นด้วยงั้นหรือ?
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาถามอะไรให้มากมาย เสี่ยวเถียนยืนตัวตรงต่อหน้าเขาเพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นหัวหน้าจริง ๆ
“ซูเสี่ยวเถียน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคณะภาษาจีนจะอยู่ในกองร้อยที่ 13 และคุณคือผู้บังคับกองร้อยที่ 13 นะครับ!”
เรากำหนดกันมาเรียบร้อยแล้ว หมายเลยที่อู่ร่างได้มาคือ 13 และหน่วยที่เขาจะต้องนำสอนคือกองร้อยที่ 13
“รับทราบค่ะ ครูฝึก!” เสี่ยวเถียนตอบรับ
พวกนักศึกษาในคณะรู้สึกแปลก ๆ ที่เสี่ยวเถียนเข้าสู่อารมณ์อย่างรวดเร็ว แต่ก็คิดว่าการที่หัวหน้าทำตัวเข้มงวดต้องสำคัญจริง ๆ
“กองร้อย 13 มีทั้งหมด 50 คน ตรงนี้คือทั้งหมดแล้วใช่ไหม?”
เสี่ยวเถียนไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเพื่อนบางส่วนไม่ได้มา
เพราะเมื่อก่อนไม่มีการฝึกทหาร จึงไม่น่าแปลกใจที่คนอื่น ๆ จะลากันหมด
“ตอนนี้ผมให้เวลาคุณห้านาทีในการจัดแถว กองร้อย 13 มีทั้งหมด 50 คน แบ่งออกเป็นสามกอง กองละสองหมู่ แต่ละหมู่จัดคน 7-9 คนไม่เกินนี้”
หลังจากจัดแจงหน้าที่เสร็จ เสี่ยวเถียนก็ได้แต่ยืนตะลึง ถึงจะรู้อยู่แล้วว่านี่เป็นความสัมพันธ์ที่ตายตัว แต่พี่จะมอบหมายงานครั้งแรกรวดเดียวแบบนี้ได้ยังไง?
แล้วเธอต้องทำยังไง?
เสี่ยวเถียนที่ค่อนข้างมีพื้นฐานอยู่แล้วยังเกิดอาการสับสน แต่เธอก็ยังเป็นเธอ ความเร็วในการตอบสนองถือว่าไวมาก หลังจากนั้นก็รีบสับเปลี่ยนความคิดแล้วหาวิธีแก้ปัญหาทันที
แต่เรื่องแบบนี้ต่อให้ตนเป็นหัวหน้า ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
ตอนนั้นฉางจงหยวนบังเอิญอยู่ข้างหลังพอดี เพราะเขากลัวว่าเด็กสาวจะรับมือไม่ไหวจึงวางแผนพร้อมช่วยทุกเมื่อ
ตอนเสี่ยวเถียนเห็นเพื่อนชายก็เข้าไปคุยด้วยทันที
เราจะแบ่งออกเป็นสามกอง ผู้ชายหนึ่งกอง ผู้หญิงสองกอง โดยกองของผู้ชายจะจัดโดยอิงตามหอพัก
หนึ่งหมู่มี 7 คน สองหมู่รวมหัวหน้ากองอีกหนึ่งเป็น 15 คน จำนวนพอดีเลย
ตอนนี้เรามีผู้ชายไม่เยอะ ขาดไปแค่ 3 คนเท่านั้น
“ฉางจงหยวน นายรับผิดชอบฝั่งผู้ชายนะ แล้วก็รับหน้าที่เป็นหัวหน้ากองด้วย ทำหน้าที่คอยดูแลทั้งสองหมู่”
ฉางจงหยวนได้ฟังสิ่งที่เสี่ยวเถียนแจกแจงให้ก็เข้าใจทันที
เสี่ยวเถียนมองฝั่งผู้หญิงที่ยืนกระจัดกระจายแล้วเศร้าใจมาก
ฝั่งนี้ลำบากกว่าเพราะมี 35 คน กองหนึ่งจะมี 17 อีกกองมี 18
เรื่องแบ่งคนไม่มีปัญหาอะไร
แต่ปัญหาคือเราแบ่งตามหอพักไม่ได้เพราะมี 6 ห้อง เลยต้องกำหนดใหม่แทน แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะตอนนี้คนหายไปตั้งสิบกว่าคน แล้วในกลุ่มคนที่หายไปก็มีอิ่นหรูอวิ๋น ถังหมิ่นหมิ่น และคนอื่น ๆ ด้วย!
“จากจำนวนคนในตอนนี้ เราจะแบ่งตามห้องแล้วกัน หลี่ฉางเล่อเป็นหัวหน้ากองสองนะ หมู่แรกแปดคนฉู่เยว่เป็นผู้ดูแล หมู่สองแปดคนต้วนจื่อหมิงดูแล ที่เหลือที่ยังไม่มาจัดให้อยู่กองสามแล้วกัน”
เอาแค่คนที่มาตอนนี้ก่อนแล้วกัน
หลังจากมองไปรอบ ๆ เธอบังเอิญเห็นหลี่หลินอวี้วิ่งมาแต่ไกล
“เริ่มจากหลี่หลินอวี้ แล้วคนมาที่หลังอยู่กองสามให้หมด ถ้าตามลำดับแล้วเธอเป็นหัวหน้ากองสามนะ”
หลี่หลินอวี้ได้ยินเช่นนั้นเธอไม่ทันได้ตอบสนองอะไร
หัวหน้ากองไหน? เธอเป็นกรรมการศึกษาไม่ใช่หรือไง แล้วมาทำตำแหน่งนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
เธอจะว่ายังไงไม่รู้ล่ะ แต่ฉู่เยว่และต้วนจื่อหมิงรีบจัดคนแล้ว
ฉู่เยว่ดึงเพื่อนร่วมห้อง 314 มาร่วมกองทันที ยังไงพวกเธอก็นิสัยดี เหมือนจะขยันขันแข็งด้วย
นอกจากเสี่ยวเถียนและอิ่นหรูอวิ๋น เรามีกันหกคนแล้ว ยังขาดอีกสองคน
ต้วนจื่อหมิงไม่พูดพร่ำทำเพลง นอกจากหลี่ฉางเล่อแล้ว เธอเลือกรูมเมทมาร่วมหมู่ด้วยกันรวมเป็นเจ็ดยังเหลืออีกหนึ่งคน
ตอนนั้นข้าง ๆ มีผู้หญิงอีกสามคนเดินทางมาถึง ทั้งสองปรึกษากันก่อนจะตัดสินใจอยู่ด้วยกัน
ฝั่งผู้ชายจัดหมู่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งสองหมู่ยืนเป็นระเบียบ ทางฝั่งผู้หญิงคนที่เพิ่งมาทยอยวิ่งกันเข้ามา
เหลือหกเจ็ดคนเห็นจะได้ที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร
หลี่หลินอวี้สับสน “หัวหน้ารุ่น แล้วคนที่เหลือจะทำยังไงล่ะ?”
“คนที่เหลือไว้กองสามหมดเลย จัดเป็นหมู่ละแปดคน จะเลือกสมาชิกตามห้องพักหรือตามลำดับคนที่มาใหม่ก็ได้นะ!” ซูเสี่ยวเถียนอยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อมมาก
หลี่หลินอวี้ไม่ได้โง่ หลังจากได้ฟังและเห็นการจัดแถวก็เข้าใจในทันที
จากนั้นก็เห็นคนตามมาอีกเป็นถังหมิ่นหมิ่นรูมเมทตน เลยรีบเข้าไปจัดแจงทันที “ถังหมิ่นหมิ่น ตอนนี้กองสามเรามีหนึ่งแถวแล้ว เธอทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลนะ ตกลงหรือเปล่า?”
ถังหมิ่นหมิ่นหายใจไม่ออก แต่ก่อนที่จะได้เข้าใจกลับได้ยินว่าตนได้เป็นหัวหน้า จึงคิดว่าเป็นหัวหน้ารุ่นคณะภาษาจีนของเราเลยมีความสุขมาก! (ที่ถังหมิ่นหมิ่นเข้าใจแบบนั้นเพราะคำว่า 班长 (ผู้ดูแล) ที่หลี่หลินอวี้บอก เป็นคำเดียวกับคำว่า 班长 (หัวหน้า) ซึ่งเป็นตำแหน่งหัวหน้าเอกจีนตำแหน่งของเสี่ยวเถียน)
ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเปลี่ยนเป็นตน แต่กลับไม่สามารถซ่อนความภาคภูมิใจไว้ได้เลย
เธอมองไปทางซูเสี่ยวเถียนอย่างเปิดเผย แต่กลับไม่เห็นว่าเจ้าตัวว้าวุ่นใจหรือเปล่า เป็นเพราะอีกฝ่ายหันหลังให้อยู่
ทางเสี่ยวเถียนกำลังเศร้ามาก ตอนนี้เวลาห้านาทีกำลังจะผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว แต่คนยังมาไม่ครบเลยเธอควรทำยังไงดี?
หลังจากนั้นเวลาก็ได้หมดลง
“ถึงเวลาแล้ว ผู้บังคับกองร้อย 13 รวมตัวเสร็จหรือยังครับ?”
ซูอู่ร่างจ้องกลับมา ไม่ได้ผ่อนคลายอารมณ์ในการพูดจาสักนิด แค่คิดว่าน้องสาวต้องอยู่ภายใต้อำนาจก็ทนแทบไม่ไหว
“ขอรายงานให้ครูฝึกทราบค่ะ กองร้อย 13 มีจำนวน 50 แต่ตอนนี้มีแค่ 42 คน อีก 8 คนยังมาไม่ถึงค่ะ!”
เหมือนจะไม่ได้มาที่สนามเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้มัวแต่ไปทำอะไรอยู่
ซูอู่ร่างทนไม่ไหว แต่ตอนนี้ทำได้แค่จำยอม เพราะถ้าสมาชิกคนอื่น ๆ มาสาย ทุกคนจะต้องโดนลงโทษ ตอนนี้เขากำลังปั่นป่วนใจอย่างมาก ถ้าตนเองลงโทษน้อง คุณย่าจะไม่หักขาเขาทิ้งในสองวันข้างหน้าใช่ไหม?
ในฐานะทหารที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม สุดท้ายเขาก็ทำตามกฎต่อให้ต้องหักขาก็ตาม
“ตามระเบียบ –พัก ดูจากวันแรกเราควรจะมีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วกัน วันนี้เพื่อน ๆ มาสาย ทุกคนต้องถูกทำโทษด้วยกัน!”
คัดค้านไหม? แน่นอนอยู่แล้ว!
แต่อีกฝ่ายยังไม่ได้บอกอะไร พวกเราทุกคนจึงเงียบ
“ตามกำหนดการในวันนี้คือการวิ่งรอบสนามและยืนในท่าทหาร เดิมทีจะจัดให้พวกคุณวิ่งสี่รอบ รวมเป็น 4 กิโลเมตร และยืนท่าทหารเป็นเวลา 1 ชั่วโมง”