เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 762 ยายเฒ่า ลูกชายจะแย่งคนที่เธอหมายตาไปน่ะ
บทที่ 762 ยายเฒ่า ลูกชายจะแย่งคนที่เธอหมายตาไปน่ะ
บทที่ 762 ยายเฒ่า ลูกชายจะแย่งคนที่เธอหมายตาไปน่ะ
“ถ้าชอบก็มากินข้าวที่บ้านฉันหลังฝึกเสร็จสิ!” ซูอู่ร่างชวนเพื่อนอย่างเบิกบานใจ ถึงจะยังไม่ได้ปรึกษาปู่ย่าไว้ก่อน แต่เขารู้นิสัยพวกท่านดี คงมีแต่จะยินดีและไม่คิดจะปฏิเสธด้วย
ลู่หยางมองสหายรอบกายราว ๆ สิบยี่สิบคน และคิดว่าคงไม่ดีเท่าไหร่ สหายจำนวนขนาดนี้ ถ้าเป็นครอบครัวขนาดเล็กคงสู้ไม่ไหวแน่ อย่าว่าแต่เรื่องกินข้าวเลย คงพลาญปริมาณอาหารสำหรับกินทั้งเดือนเสียด้วยซ้ำ อันที่จริง ถ้าตอนนี้ได้กินส่วนแบ่งของผู้บังคับกองร้อยก็พอใจแล้ว
“ฉันเอาไปให้ผู้บังคับกองร้อยเลยแล้วกัน อย่างน้อยจะได้ไม่ถูกพวกนายแอบกินจนหมดเกลี้ยง!”
ซูอู่ร่างกลัวมากว่าไอ้พวกนี้จะแอบมากินหมด แม้จะเรียกเฉียวกวางหย่วนว่าผู้บังคับกองร้อย แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นครูฝึกของกอง ปกติพวกเขาสนิทกัน
คนอื่น ๆ มองเพื่อนคนนี้หยิบกล่องข้าว ก่อนจะรับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่ของพวกเขาแล้ว จึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน
พักก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ต้องมาฝึกทหารใหม่กันต่อ!
ตอนนั้นเฉียวกวางหย่วนกำลังคุยโทรศัพท์
ลูกพี่แซ่ต่งคนหนึ่งที่เพิ่งฝึกทหารเสร็จได้รับโทรศัพท์จากสหาย
[นึกคึกอะไรโทรหาฉัน?]
น้ำเสียงเกียจคร้านดังเข้าหูเฉียวกวางหย่วน
“ต่งเหล่าต้า ฉันคลับคล้ายคลับคลาว่าแกมีเส้นสายอยู่บ้าง เลยมีเรื่องอยากไหว้วานให้ช่วยหน่อยน่ะ!” เฉียวกวางหย่วนกล่าว
ต่งเหล่าต้าเหมือนจะมาจากครอบครัวฐานะดี แม้ไม่รู้ว่าเป็นฐานะแบบไหน แต่ลองขอร้องดูก่อน เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว อีกฝ่ายคือความหวังสุดท้ายที่จะหาได้
[เฉียวกวางหย่วน ฉันจำได้ว่าคนแบบแกไม่เคยขอความช่วยเหลือใครมาก่อนเลยนะ!] ต่งเหล่าต้าแค่นหัวเราะ แล้วถามด้วยความแปลกใจ
“ที่โทรหาไม่ใช่เรื่องงานอะไรหรอก พอดีฉันเจอเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่นี่ด้วย เลยอยากแย่งมาเป็นของเราน่ะ!” เฉียวกวางหย่วนเอ่ยอย่างตื่นเต้น
เรื่องของเด็กคนนี้ทำเขาเครียดมากมาสองวันแล้ว ฝ่ายนั้นมีคนรอแย่งตัวกันเต็มไปหมด ส่วนเขาหาคนช่วยเหมาะ ๆ ไม่ได้เลย แถมไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะด้วย
[ผู้บังคับเฉียว โรงเรียนส่งคุณไปฝึกทหารนะ ไม่ได้ให้ไปชิงตัวใคร] ต่งเหล่าต้าหัวเราะเบา ๆ
เฉียวกวางหย่วนนับวันยิ่งมากความสามารถ แต่ทหารเก่ง ๆ พวกนั้นของเขามีไม่พอให้เลือกหรือไง? ถึงต้องอยากไปชิงตัวจากคนอื่น?
ถ้าทำด้วยตัวเองก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่นี่ยังมาถามหาเส้นสายอีก ถ้ากระเหี้ยนกระหือรือขนาดนั้นสู้ทำเองไม่ดีกว่าหรือ?
เฉียวกวางหย่วนและต่งเหล้าต้าเคยฝึกทหารมาด้วยกัน เลยรู้จักภูมิหลังครอบครัวกันและกันอยู่บ้าง แต่ตัวเขาไม่ได้เล่าเรื่องของตัวเองนัก ทว่าก็ยังมีข่าวคราวแพร่อยู่ในกองทัพไม่น้อย
เรื่องชิงตัวคนเก่ง ๆ มาเป็นของตัวเองก็ทำมาจนถึงตอนนี้แล้ว ยังไม่รู้อีกหรือว่าตัวเองเก่งขนาดไหน!
“ฉันพูดจริงนะ ต่งเหล่าต้า แกก็รู้ว่าฉันนิสัยเป็นยังไง”
เขาเป็นคนแบบนั้นจริง ๆ ไม่มีทางกระเสือกกระสนหาคนวิ่งเต้นให้ ในเรื่องของตัวเองหรอก
[แล้วฉันทำเป็นไม่รู้จักแกได้หรือไง? ไหนแกลองบอกมาหน่อยสิว่าหาคนช่วยจัดการเรื่องนี้แทนได้หรือเปล่า หรือคิดจะเป็นครูฝึกอยู่ที่โรงเรียนทหารไปตลอดชีวิต?] ต่งเหล่าต้าผิดหวังมาก
“เรื่องนี้ค่อยว่ากัน เอาเรื่องนักเรียนคนนี้ก่อน ช่วยสนใจหน่อยได้ไหม” เฉียวกวางหย่วนกลัวพลาดพอเพื่อนจะพูดต่อจึงรีบเอ่ยตัดบท
ต่งเหล่าต้ารู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเป็นคนแบบไหน
[งั้นบอกฉันมาหน่อยว่า คนที่แกหมายตาชื่ออะไร เป็นคนแบบไหน เผื่อจะได้ช่วยพูดสนับสนุนให้ตาแก่ฟังได้]
จากนั้นก็นึกถึงนิสัยตาแก่ที่บ้าน จากนิสัยแล้วเขาอาจจะไม่เต็มใจช่วยด้วยซ้ำ
[กวางหย่วน พูดแบบไม่เกรงใจเลยนะ ตาแก่จะจัดการให้หรือเปล่าฉันไม่รู้ด้วยนะ!]
ด้วยอารมณ์ของเขา คิดว่าตัวเองคงรับมือไม่ไหว แถมยังเคยได้ยินยายแก่บอกว่า ตาแก่รักหลานสาวลุงใหญ่มาก ๆ อีกด้วย!
ไม่รู้ว่าเขาเป็นพ่อใครกันแน่ กับลูกคนโต กับเหล่าเอ้อร์เอาแต่ตะคอกส่งเสียงดังหนวกหู แต่กับลูกหลานชาวบ้านดันรักได้รักดี
“พยายามเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วกัน ถ้าไม่ไหวก็ช่างมัน!”
เฉียวกวางหย่วนบอกทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับเสี่ยวเถียนให้ปลายสายฟัง
ต่งเหล่าต้าจดเอาไว้ ยิ่งฟังก็ยิ่งกลัว
เฉียวกวางหย่วนเจอเด็กแบบไหนมาถึงได้มีแต่คนแย่งตัวขนาดนั้น
[คนอยากชิงตัวเยอะขนาดนี้เลยหรือ? ถึงจะแปลกที่แกมาขอให้ฉันช่วย แต่เขาเป็นเด็กแบบไหนเนี่ย? ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ]
ถ้าระยะทางมันไม่ได้ไกลกันมาก เขาคงไปดูด้วยตาตัวเองที่มหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงแล้วล่ะ
“เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มาก!” เฉียวกวางหย่วนตอบเสียงดัง
มีพรสวรคค์จริง ๆ นะ ถึงขนาดที่เขาทนไม่ไหวจนต้องหาคนมาช่วยแย่งเนี่ย
[เดี๋ยวลองโทรหาตาแก่ก่อนแล้วกันนะ!]
หลังจากวางสาย ต่งเหล่าต้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็มองเวลา ตอนนี้ตาแก่น่าจะยังไม่หลับ โทรเข้าบ้านเลยแล้วกัน
เสียงทุ้มจากปลายสายดังอย่างกับเสียงฟ้าผ่า ต่งเหล่าต้ารับรู้ได้ทันทีว่าพ่อเป็นคนรับ
“พ่อ ผมเองนะ”
พอได้ยินเสียงลูกชาย ปลายสายส่งเสียงสวนทันควัน
[ไอ้เด็กนี่ รู้จักโทรหาบ้านหาช่องแล้วเรอะ? ถ้าไม่ได้โทรมา ฉันก็คิดว่าไม่เคยมีลูกแบบแกแล้วเสียอีก]
ฝ่ายลูกชายปิดหู พ่ออายุมากแล้ว เสียงก็เลยยิ่งดังไปด้วย
เขารีบขอโทษขอโพยก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พ่อ ไม่ใช่ว่าผมงานยุ่งหรอกนะ แต่ถ้าวัน ๆ ต้องคิดเรื่องนู่นนี่เยอะแยะไปหมด แล้วจะมีสมาธิฝึกซ้อมได้ยังไงล่ะครับ? ตอนเด็ก ๆ พ่อสอนให้ผมตั้งใจเข้าไว้ไม่ใช่หรือครับ?”
“…” ชายชราพูดไม่ออก
[ไอ้เด็กนี่ คิดจะพูดดักคอกันสินะ พูดมา มีเรื่องอะไร]
เขารู้จักลูกดี เพราะไม่มีทางที่มันจะเชื่อฟังขนาดนี้หรอก
ต่งเหล่าต้ารีบร้อนพูดสิ่งที่เพื่อนมอบหมายมาให้แบบอ้อม ๆ
[แกเองก็เก่ง เรื่องแค่นี้ยังต้องวิ่งแจ้นมาหาพ่อด้วยเรอะ!] ต่งหยวนจงตวาด
ไอ้ลูกคนนี้ เสียชาติเกิดจริง ๆ ลูกชายสองคนยังหาสะใภ้มาให้ไม่ได้เลย แล้วเมื่อไรจะมีหลานสาวน่ารัก ๆ กับเขาสักที! ถ้ามีหลานเป็นของตัวเอง ก็คงไม่ต้องอิจฉาหลานพี่ชายไปวัน ๆ หรอก!
“พ่อ ก็มีคนชิงตัวกันเยอะนี่…” ลูกชายคนโตรีบตอบ
[คนชิงตัวเยอะ? เหอะ ๆ แกโม้ให้ใครฟังอยู่? แล้วต้องแข่งกับใครเขาบ้างล่ะ?] ชายชราเอ่ยเคือง ๆ
แค่เด็กคนเดียวเอง มันจะเก่งสักแค่ไหนเชียว เห็นว่ามีคนแย่งตัวกันเยอะด้วย? เป็นที่นิยมหรือไง?
ไม่ใช่หลานรักเสี่ยวเถียนเถียนเสียหน่อย
“ผมได้ยินมาว่ามีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ แล้วก็อะไรอีกเยอะก็ไม่รู้ครับพ่อ ผมลืมไปแล้ว!” เขาตอบอย่างสุภาพ
ทันทีที่ได้ฟัง ต่งหยวนจงรู้สึกคุ้น ๆ เหมือนว่าเหล่าอู๋กับเหล่าฉางเคยบอกว่าอยากได้ตัวเสี่ยวเถียนอยู่
หรือว่า…
[เด็กคนนั้นชื่ออะไร?] ชายชราถามทันที
“อะไรเถียน ๆ นี่ล่ะ เดี๋ยวผมนึกก่อนนะ เหมือนจะชื่อซูเสี่ยวเถียนอะไรเนี่ยแหละ”
ต่งหยวนจงเบิกบานใจทันทีที่ได้ยิน
[ไอ้เด็กเวร กลับมาเมื่อไรแกรอโดนแม่ทุบได้เลย!] ต่งหยวนจงมีความสุขมาก
ฟ่านชูฟางเข้ามาทันประโยคเมื่อครู่พอดี จึงเดินเข้ามาหาด้วยความสนใจ
“เจ้าลูกคนนี้สร้างเรื่องอะไรอีกคะ?”
“ยายเฒ่า ลูกชายจะฉกคนที่เธอหมายตาไปน่ะ ก็เลยโทรมาหาฉันเพราะเรื่องนี้แหละ!” ชายชรายิ่งคิดยิ่งมีความสุข