เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 788 เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง
บทที่ 788 เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง
บทที่ 788 เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง
เจ้าพวกเสื้อลายดอกไม้และเจ้ากางเกงขาม้าถูกส่งไปยังสถานีตำรวจ เสี่ยวลิ่วอธิบายสถานการณ์ให้ฟังโดยย่อ
อันซวี่หมิงหัวหน้าสถานีตำรวจเพิ่งย้ายมาทำงานที่นี่ ปีนี้อายุ 30 ได้เป็นตำรวจหลังปลดประจำการจากกองทัพ ฝีไม้ลายมือเก่งกาจ เนื้อแท้ของเขาเกลียดความชั่วร้าย
ถึงจะเพิ่งมาอยู่ไม่ถึงเดือน แต่ได้ยินข่าวคราวมาบ้างว่ามีพวกกดขี่ข่มเหงคนอื่นอยู่แถบนี้ เห็นชาวบ้านบอกมีเบื้องบนคอยหนุนพวกมันอยู่ เขาเลยอยากรู้ว่าเบื้องบนที่ว่ามันเป็นคนแบบไหน เพราะฉะนั้นช่วงนี้เลยพยายามสำรวจโดยรอบเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ ที่จริงเขาตั้งใจจะหาข้อมูลเจ้าพวกนี้นั่นแหละ
ไม่รู้ชาวบ้านโดนข่มขู่มานานหรือยัง จึงไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรเลย ทุกวันนี้ยังไม่ได้อะไรด้วยซ้ำ
และมันทำให้เขาเสียใจมาก
เขารู้ว่าตนเพิ่งมาใหม่ ประสบการณ์ยังไม่เจนจัดนัก ประชาชนเลยไม่กล้าบอกความจริงให้ตนเองฟัง นับตั้งแต่นั้นเลยตั้งใจว่าไว้ทำความรู้จักกันมากขึ้น จะได้เข้าเลียบเคียงถามข้อมูล
เขาไม่ยอมให้เจ้าพวกคนชั่วมันอยู่ในพื้นที่ที่ตนคอยดูแลหรอกนะ คนแบบนี้ควรสั่งสอนและทำให้กลับเนื้อกลับตัวซะ แต่ใครจะรู้เล่าว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร ก็เจอคนกลุ่มหนึ่งพาอันธพาลพวกนั้นมาส่งให้ในสภาพถูกมัดจนหมดรูป
อันซวี่หมิงตกใจมากหลังได้ฟังคำของเสี่ยวลิ่ว
“พวกเธอจับเจ้าพวกนี้เหรอ?”
คนพวกนี้เป็นอันธพาลกลุ่มผู้ใหญ่ที่เที่ยวเตร่อยู่ในตลาด วัน ๆ ทำแต่เรื่องไม่ดี ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับตัวพวกมันได้ ทำไมเด็ก ๆ พวกนี้ถึงทำได้ล่ะ หรือมีผู้ใหญ่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่?
“ผมฝึกศิลปะการต่อสู้กับผู้ใหญ่ที่บ้านมาตั้งแต่เด็กครับ เก่งกว่าเจ้าพวกอ่อนด๋อยนี่อีก!” เสี่ยวลิ่ว
เด็กหนุ่มตอบด้วยความถ่อมตัว แต่จะซ่อนแววตาอวดดีในขณะที่พูดแบบนั้นได้เหรอ?
“พวกเธอฝึกกันทุกคนเลยเหรอ?” อันซวี่หมิงสงสัย
ฝ่ายผู้ใหญ่มี 7 คน ฝ่ายเด็กมี 5 และในนั้นมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กนิสัยอ่อนหวานด้วย นับ ๆ ดูแล้ว เด็กผู้ชายต้องสู้สองต่อหนึ่งเลยนะ!
อันซวี่หมิงไม่สนใจเสี่ยวเถียน ด้วยรูปร่างหน้าตาราวกับตุ๊กตากระเบื้อง ทำให้คนอื่นคิดว่าไม่มีทางที่เจ้าตัวจะสู้กับใครได้
จากนั้นก็มองไปยังชายกางเกงขาม้าที่สภาพใบหน้าบวมตุ่ย ไม่รู้ผู้ผดุงความยุติธรรมท่านไหนจัดการเจ้านี่บ้าง แล้วก็ไม่รู้อีกว่าคนไหนแหกกฏข้อห้ามด้วย เพราะต่อให้โดนรุมซ้อม สภาพมันก็ไม่น่าสังเวชขนาดนี้หรือเปล่า!
“คุณตำรวจ พวกเขาต่อย ผมอยากแจ้งให้คุณรู้”
“แล้วพวกแกเข้าทำร้ายพวกเขาในบ้านหรือเปล่าล่ะ?” อันซวี่หมิงเมินเฉยแล้วเอ่ยเสียงเย็น
พวกอันธพาลพูดไม่ออก ความจริงแล้วเรามาเพื่อก่อเหตุ ก็สมควรที่จะโดนแบบนี้อยู่แล้ว!
“คุณตำรวจ พวกเราแค่มาเยี่ยมเฉย ๆ ใครจะรู้ล่ะว่าเจอไอ้พวกพูดจาไม่ฟังเข้า แล้วเข้ามารุมพวกเราพี่น้องเฉยเลย!” ชายร่างท้วมรีบหาเหตุผลเพื่อให้ความผิดน้อยลง
สู้ไม่ได้แล้วยังโดนมัดอีกไม่ใช่เหรอ? สภาพอนาถขนาดนี้ น่าขายหน้าจริง ๆ
ตอนนี้เจ้าพวกอันธพาลลืมไปแล้วกับสิ่งที่ตนได้กระทำไป ตอนแรกคิดแค่ว่าแย่งสูตรอาหารไปขายเอาเงินมหาศาลก็พอแล้ว แต่นี่กลับมีความคิดอันไม่พึงประสงค์ ไม่แปลกที่จะเกิดเรื่องขึ้น
“ขังเจ้าพวกนี้ซะ แล้วให้หมอหลี่ร้านฝั่งตรงข้ามสถานีเอายามาให้ฉันหน่อย! ช่วยเป็นพยานด้วยว่าพวกเราไม่ได้ลงมือกับพวกมัน” อันซวี่หมิงเอ่ยกับตำรวจยศน้อย
แต่อีกฝ่ายกลับผงะ หัวหน้าเข้าใจผิดหรือเปล่า
หมอหลี่เป็นสัตวแพทย์ แล้วจะมารักษาคนได้ไง?
แต่คิด ๆ ดูอีกทีก็เข้าใจความหมาย เจ้าพวกนี้คงเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์!
ที่จริงนายคนนี้แค่คิดมากไป อันซวี่หมิงไม่ได้นึกไปขนาดนั้นเลย เขาคิดแค่พาหมอมารักษาเจ้าพวกนี้มันสิ้นเปลือง ก็เลยให้ไปตามหมอหลี่แทน ยังไงมันก็แค่บาดแผลภายนอก ไม่ได้ทำให้ตายอยู่แล้ว
พวกตำรวจรู้เรื่องนี้ ยกเว้นเจ้าพวกอันธพาล! ตอนนี้ยังคิดว่าหัวหน้าสถานีเป็นคนดีอยู่เลย
“คุณตำรวจเป็นคนดีจริง ๆ เลย สมควรได้รับรางวัลยิ่ง ถ้าวันนี้คุณปล่อยพวกเราออกไป เราจะตอบแทนอย่างแน่นอนครับ”
เจ้าเสื้อลายดอกไม้เล่นแง่อีกครั้ง
อันซวี่หมิงไม่ได้พูดอะไร แค่เฝ้ามองอีกฝ่ายพ่นเรื่องไร้สาระออกมา
“คุณตำรวจ พวกเรามีคนหนุนหลังอยู่นะ ถ้าวันนี้คุณปล่อยเราไปแล้วจับกุมเจ้าพวกที่ทำร้ายเราไว้ ฉันจะไปพูดกับเบื้องบนให้อย่างดีเลย เป็นประกันให้ได้เลยว่าคุณเลื่อนตำแหน่งได้อย่างราบรื่นแน่นอน!”
พวกเสี่ยวลิ่วตะลึงงัน
มีเรื่องแบบนี้บนโลกด้วยเหรอ?
มันทำได้ด้วยเหรอเที่ยวบอกคนอื่นว่ามีคนคอยหนุนหลังอยู่?
ไม่รู้จริง ๆ ว่ามีคนคุ้มกะลาหัวกี่คน
เสี่ยวชีคิดหนัก มันเอาแต่หาข้ออ้างไม่หยุดหย่อน เบื้องบนที่ว่าอยู่ระดับไหนกันแน่ ถ้าพวกมันไปหาปู่รอง ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะช่วยได้อีกหรือเปล่า
ถ้าเจ้าเสื้อลายดอกไม้มันรู้ว่าเด็กหนุ่มคิดถึงขนาดให้คนระดับต่งหยวนจงลงมาช่วย เขาคงอยากกลืนสิ่งที่พูดกลับไปสินะ?
แต่เพราะไม่รู้เลยพ่นออกมาไม่หยุดหย่อน
อันซวี่หมิงขมวดคิ้ว ทำไมมันพูดจาแปลก ๆ? ต่อให้มีจริง ทำไมต้องถ่อมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ด้วยล่ะ? แถมยังกล้าให้คำมั่นสัญญาโต้ง ๆ อีกด้วย จะบอกว่าพวกมันโง่ดีไหม? หรือเรียกว่าไอ้โง่ดี?
หัวหน้าสถานีขมวดคิ้วขบคิด แต่ไม่สามารถหาเหตุผลได้เลย
“ในเมื่อพวกแกเอาแต่พูดถึงเบื้องบนคนหนุนหลัง ทำไมไม่ให้เขามาช่วยแล้วปล่อยตัวคุณไปเองซะล่ะ?” เสี่ยวเถียนยิ้มกลาย ๆ ราวกับดูละครตลก
ทนดูมาตั้งนาน ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าคนหนุนหลังที่พูด ๆ อยู่คืออ้างให้คนกลัวเฉย ๆ ถ้ามันมีจริง ๆ ป่านนี้คงไม่มาพูดจาอวดดีแบบนี้หรอก อีกอย่างตอนเราไปบ้านถานจื่อสือ เจ้าพวกนี้มันยังกลัวตอนเราบอกว่าแจ้งตำรวจแล้วเลย
อันซวี่หมิงไม่คิดเลยว่าเสี่ยวเถียนจะพูดเช่นนี้
เขายังไม่ตื่นเหรอ?
ทำไมเหมือนฝันอยู่เลย
คนสองกลุ่มนี้ดูมีอะไรแปลก ๆ นะ!