เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 821 ช่วยเหลือ
บทที่ 821 ช่วยเหลือ
บทที่ 821 ช่วยเหลือ
พอเห็นเธอร้องไห้อย่างเศร้าโศก เสี่ยวเถียนถอยออกมายืนมองเงียบ ๆ อยู่ด้านหลังฝูงชน
เพราะหลานยังมีชีวิตอยู่ การร้องไห้จึงช่วยบรรเทาความอึดอัดในใจลงได้ คนอื่น ๆ ต่างพูดคุยกันด้วยภาษาถิ่น ถึงจะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่พอจับใจความได้
ผู้หญิงคนนี้ชื่อหลี่กุ้ยฮวา เป็นป้าสะใภ้ของเสี่ยวลิ่วจื่อ
หลังจากกินข้าวเสร็จเธอต้องมาซักผ้าที่แม่น้ำ ส่วนเด็กน้อยไม่อยากอยู่บ้านเลยขอตามมาด้วย
เสี่ยวลิ่วจื่อไม่ใช่เด็กในหมู่บ้านแต่เป็นเด็กที่มาจากในเมือง ผู้ใหญ่ที่บ้านมีธุระต้องทำช่วงนี้ก็เลยเอามาฝากญาติให้ช่วยดูแลชั่วคราว
หลี่กุ้ยฮวาเห็นว่ามีเด็กอยู่กันเยอะเลยคิดว่าไม่น่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หลังจากบอกหลานให้ระวังตัวก็ปล่อยเขาออกไปเล่น
แต่ใครจะรู้เล่าว่า แค่แรงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เด็กตกลงไปในน้ำได้แล้ว
ทุกคนเห็นเด็กชายพูดได้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จู่ ๆ เสี่ยวเถียนนึกถึงตอนที่ตนได้ฉืออี้หย่วนช่วยชีวิตไว้เมื่อหลายปีก่อน ถ้าอีกฝ่ายไม่กระโดดลงไปอย่างกล้าหาญและพาเธอเข้าฝั่ง ไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมาเลย
รอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝีปากยามนึกถึงเขา
ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ คิดถึงเธออยู่หรือเปล่า?
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมายิ้ม เสี่ยวเถียนรีบตั้งสติ แล้วมองเสี่ยวลิ่วจื่อที่กำลังนอนอ่อนแรงในอ้อมแขนหลี่กุ้ยฮวา
เด็กตัวขาวจั๊วะ ทำคนมองรู้สึกเบิกบานใจ แต่ท่าทางเขาดูอ่อนแรงมาก ไม่รู้เพราะตกน้ำเมื่อกี้หรือเปล่า
เสี่ยวเถียนที่มีทักษะด้านการแพทย์อยู่แล้ว จึงไม่ได้บอกให้พวกเขาไปหาหมอ แต่ก้าวเข้าไปหาอย่างขัดเขินแล้วบอกว่าจะตรวจชีพจรให้
“น้องน่าจะตกใจนะคะ ป้ากุ้ยฮวารีบพาเขากลับบ้านดีกว่าค่ะ”
ตอนนั้นเองที่หญิงชราคนหนึ่งนึกเรื่องนี้ขึ้นได้จึงช่วยเสริมอีกแรง
“จริงด้วย กลางคืนลมเย็น เดี๋ยวเด็กจะป่วยเอาได้”
“ใช่ ๆ อย่ารอช้าอยู่เลย กลับถึงบ้านแล้วทำน้ำขิงให้เขากินด้วยนะ”
พวกผู้หญิงสนทนากันอย่างวุ่นวาย หลังจากหลี่กุ้ยฮวาร้องไห้เสร็จจิตใจพลันรู้สึกเบาขึ้น เธอนึกได้ว่ายังไม่ได้กล่าวขอบคุณผู้ช่วยชีวิตเลย
“สหายเสี่ยวซู ขอบคุณที่ช่วยชีวิตเสี่ยวลิ่วจื่อของเรานะ ไว้ให้สามีป้ามาขอบคุณด้วยตัวเองเน้อ!”
“เรื่องแค่นี้เองครับ ป้าไม่ต้องห่วงนะ” ซานกงรีบบอก
ว่ากันตรง ๆ คือผู้คนในหมู่บ้านนี้ถือว่าเป็นคนดี ถึงจะมีความคิดเล็กคิดน้อย แต่ไม่ได้เป็นคนไม่ดีหรือจิตใจชั่วร้ายอะไร
พอรู้ว่าพวกเรามาเพื่อเพาะพันธุ์เมล็ดก็ดีกับพวกเรามาก
หลี่กุ้ยฮวาพูดจบไม่คิดรอช้าอุ้มเด็กกลับบ้านทันที เธอก้าวเท้าอย่างรวดเร็วจนลืมเสื้อผ้าที่ซักไว้ด้วยซ้ำ
ตัวเอกของเรื่องกลับไปแล้ว ความวุ่นวายย่อมหายไปตามธรรมชาติ
ทุกคนกลับไปซักผ้าอีกครั้ง
บางคนที่ซักเสร็จก็ช่วยซักผ้าที่เหลือให้หลี่กุ้ยฮวา พร้อมบอกว่าจะเอากลับไปให้เธอเอง
เหตุการณ์ตกน้ำผ่านไปแล้ว
เสี่ยวเถียนหยิบเสื้อผ้าพี่ชายที่ถอดทิ้งไว้ขึ้นมา ก่อนจะเห็นว่ามันเปื้อนโคนจึงลงมือซักให้
จากนั้นสองพี่น้องก็กลับไปยังฐานวิจัย เด็กสาวมองพี่ชายที่ตัวเปียกโชก จึงนึกห่วงสุขภาพเขาขึ้นมา
“พี่สาม ไว้กลับไปถึงหนูทำน้ำขิงให้ดื่มนะ แล้วก็รีบเข้านอนด้วยค่ะ”
ถึงอากาศจะไม่หนาว แต่ความเย็นส่งผลร้ายต่อร่างกายแน่นอน
ซานกงยิ้ม มีน้องสาวคอยดูแลสร้างความแตกต่างให้ได้จริง ๆ ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่คิดพาเธอมาด้วยนะ?
เสี่ยวเถียนวิ่งไปห้องครัว ก่อนจะพบว่าขิงหมด เธอหันซ้ายแลขวา เมื่อไม่เห็นใคร จึงซื้อเปิดระบบแล้วซื้อขิงออกมา
พอทำความสะอาดเสร็จก็นำไปซอยเป็นเส้นบาง ๆ แล้วเริ่มต้ม
สะใภ้อันหรงหัวได้ยินความเคลื่อนไหวในครัวจึงเดินมาดู ก่อนจะพบเสี่ยวเถียนกำลังต้มน้ำขิงอยู่
เธอรู้สึกสับสนเพราะจำได้ว่าขิงที่บ้านหมดแล้ว สาวน้อยคนนี้ไปเอามาจากไหน? แต่มันก็เป็นความคิดชั่ววูบ ตนอาจจจะจำผิดเองก็ได้
เสี่ยวเถียนเห็นคนมาใหม่จึงรีบยิ้มให้ “คุณป้า หนูทำน้ำขิงให้พี่สามค่ะ ป้าไปพักเถอะค่ะ!”
“ให้ป้าทำเถอะ วันนี้พวกคุณเดินทางมาทั้งวัน คงเหนื่อยแย่แล้ว” อีกฝ่ายรีบตอบ
หลังจากที่ครอบครัวสามีแยกออกมา เธอไม่มีที่อยู่อาศัย โชคดีที่ได้โอกาสให้คอยดูแลฐานวิจัยแห่งนี้ และช่วยสหายเสี่ยวเหมาดูแลพื้นที่เพาะปลูกด้วย
เธอคอยช่วยงานจิปาถะอย่างทำอาหารหรือทำความสะอาด เราสองสามีภรรยาจะได้รับเงินเดือนทุก ๆ เดือน และตอนนี้ชีวิตถือว่าดีขึ้น
เพราะคิดว่างานในครัวคือสิ่งที่ตนควรทำ จะปล่อยให้เด็กสาวทำไม่ได้ ความจริงยังแอบคิดอยู่ว่าเสี่ยวเถียนที่เป็นเด็กในเมืองจะไม่ชอบที่เธอเงอะงะหรือเปล่า
ถ้าโดนรังเกียจขึ้นมา เราจะมีงานให้ทำหลังจากนี้อีกไหม?
เสี่ยวเถียนยิ้ม “แค่นี้เองค่ะป้า ไม่งั้นไว้ล้างหม้อแล้วให้หนูก็แล้วกันค่ะ!”
ทีแรกคิดจะปฏิเสธ แต่เห็นสีหน้าลำบากใจของเจ้าตัวจึงพอเดาได้ว่าคิดอะไร เพราะงั้นเลยกลับคำทันที
คนชนบทเป็นแบบนี้เสมอ ให้ความเคารพกับคนเมืองแบบหน้ามืดตามัว พวกเขาคิดว่าคนเมืองกินข้าวที่ซื้อด้วยเงิน จึงเหนือกว่าคนชนบทแบบเรา ๆ
ภรรยาอันหรงหัวโล่งใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ได้จ้ะ เดี๋ยวป้าล้างหม้อให้นะ เสี่ยวเถียน แล้วพี่สามเป็นอะไรไปเหรอ? ทั้งสองคนไปซักผ้าที่แม่น้ำนี่? หรือตกน้ำเหรอ?”
เธอไม่อยากให้บรรยากาศอึดอัดเลยชวนคุย เสี่ยวเถียนก็เช่นกัน เลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดคนอายุมากกว่าจึงเอ่ยขึ้น “เสี่ยวลิ่วจื่อเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอน่ะ ปีนี้อายุ 6 ขวบแล้ว ได้ยินว่าเด็กในเมืองวัยนี้ต้องไปโรงเรียน แต่สุขภาพเขาไม่แข็งแรง พ่อแม่เลยให้รออีกปีนึง”
“แล้ววันนี้ก็มาตกน้ำอีก ป้าว่าน่าจะป่วยแน่เลย!”
เสี่ยวเถึยนนึกถึงใบหน้าซีดเซียว พลางคิดว่า แท้เขาก็ร่างกายไม่แข็งแรงอยู่แล้วสินะ
นึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์หลังจากตัวเองตกน้ำ จิตใจพลันรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
เมื่อน้ำขิงต้มสุกเธอก็เอาไปให้ซานกง ที่นี่มีลุงเขยอยู่ด้วย
“รีบดื่มน้ำขิงแล้วห่าผ้านอนหลับให้สบายนะ ช่วยชีวิตคนอื่นเป็นเรื่องดี แต่จะเมินเฉยต่อร่างกายตัวเองไม่ได้”
เสิ่นจื่อเจินห่วงมาก
“ผมโตแล้วนะอาจารย์ จะอ่อนแอแบบนั้นได้ยังไงครับ?” ซานกงยิ้มเขิน ๆ
อาเขยทำเหมือนเขายังเป็นเด็ก ๆ เลย
“ลุงเขยพูดถูกนะพี่สาม ดื่มน้ำขิงขับเหงื่อสักหน่อย จะได้นอนหลับสบาย ๆ นะ” เสี่ยวเถียนเอ่ยดุ ๆ