เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 86 จิตใจสกปรก
บทที่ 86 จิตใจสกปรก
เรื่องหย่าของซูหม่านซิ่วขจรขจายอยู่ในชุมชนหลายวัน แม้จะมีคนบอกว่าการหย่าของเธอเป็นสิ่งที่เสื่อมเสียและเอาแต่ซุบซิบนินทา หากแต่เจ้าตัวที่เป็นหัวข้อสนทนาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว พูดไปก็ไม่น่าสนุกหรอก
หลายวันมานี้ ซูเสี่ยวเถียนยังคงไม่วางใจกังวลว่าซูหม่านซิ่วจะทำผิดซ้ำซาก และฆ่าตัวตายเหมือนชาติก่อนอีกครั้ง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามีเพียงคนในชุมชนไม่กี่คนที่พูดถึงเรื่องนี้ เด็กหญิงจึงคิดว่าความเสี่ยงของอาใหญ่ก็จะหายไปด้วย
หลังจากคิดซ้ายตรองขวาอีกครั้ง หลังจากที่เธอกลับมาเกิดใหม่ มีหลายสิ่งในชาตินี้ไม่เหมือนกับชาติที่แล้ว
อาจเป็นเพราะการเกิดใหม่ ส่งผลให้เรื่องราวทั้งหมดเปลี่ยนไป?
ณ ตระกูลคัง
คังเหรินเต๋อนั่งบนเก้าอี้ แววตาเย็นชาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจจ้องมองซูหม่านเซียงซึ่งกำลังยุ่งอยู่
มนุษย์กลัวการเปรียบเทียบ
ตอนที่เขาไปทำงานวันนี้ก็ได้ยินข่าวว่าผู้หญิงที่หย่าร้างจากชุมชนการผลิตเซี่ยงหยาง ตอนนี้ทำงานชั่วคราวอยู่ในตัวเมืองอำเภอ
ได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่บ้านของเธอเคยช่วยเหลือไว้หลายปีช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจตลอดการทำงาน เป็นไปได้หรือไม่ว่า ชายที่อยู่กับซูหม่านซิ่ววันนั้นคือเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่คนเขาลือกัน?
เขาพลาดโอกาสที่จะประจบประแจงข้าราชการระดับสูงอย่างนั้นหรือ?
ซูหม่านซิ่วนังงูพิษ ทำไมถึงไม่บอกว่าคนคนนั้นเป็นผู้นำอำเภอล่ะ ถ้าบอกเขาจะได้ไม่ทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง!
แม้ว่าเธอจะเป็นงูพิษ หากแต่ก็ยังเป็นสตรีรูปโฉมงดงามคนหนึ่ง
อันที่จริงแล้วเขาไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับซูหม่านซิ่วผู้เป็นพี่สาวคนนี้มากนัก พบกันเพียงไม่กี่ครั้งก็จำฝั่งไว้ในหัวได้เสมอ
ครั้นนึกถึงซูหม่านซิ่วที่มีร่างกายผอมเพรียว แล้วหันกลับมาดูภรรยาที่เอวหนาเป็นถังแบบนี้พลันก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ทั้งสองเกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน ทำไมความแตกกันถึงมีมากมายขนาดนี้?
ทำไมซูหม่านซิ่วถึงมีรูปร่างผอมบางและดวงหน้าสะสวย แต่ถึงจะเป็นแม่ม่ายที่ถูกหย่าร้าง แต่เอวก็เพรียวบาง สามารถโอบได้ด้วยมือเดียว ทำให้คนอยากโอบกอดไว้ในอ้อมแขนอย่างหวงแหน
ส่วนภรรยาอ้วนที่บ้าน เอวหนาเตอะราวกับซูหม่านซิ่วสองคนรวมกัน มองดูแล้วอ้วนฉุ จะไม่ให้มีความคิดหุนหันพลันแล่นได้อย่างไร?
ไม่น่าแปลกใจที่ข้าราชการระดับสูงนั่นปกป้องซูหม่านซิ่ว
ไอ้หมาหวังนี่โง่เง่าเต่าตุ่น เสียภรรยาที่อ่อนช้อยงดงามเช่นนั้นยังไม่พอ แต่ยังเสียอันดับของการทำงานไปชั่วคราวด้วย
คังเหรินเต๋อตระหนักได้ในทันทีว่าจุดสำคัญของเขาดูไม่ถูกต้อง
ทำไมซูหม่านซิ่วถึงเป็นพนักงานชั่วคราวได้?
เธอติดต่อกับผู้นำด้วยตัวเอง หรือชายชราเคยช่วยคนคนนั้นเอาไว้?
ถ้าอีกฝ่ายช่วยคนเอาไว้จริง ๆ เรื่องนี้ก็ควรพูดถึงด้วยสิ
ซูหม่านเซียงพูดเสมอว่า คนที่พ่อแม่รักที่สุดคือเธอไม่ใช่หรือ? ทำไมเขาถึงไม่ส่งสิ่งดี ๆ มาให้เธอบ้างล่ะ?
การกระทำของชายชราคนนั้นไม่บริสุทธิ์ใจ ลูกสาวเหมือนกันแท้ ๆ ทำไมคิดถึงแต่ซูหม่านซิ่ว แล้วเหตุใดไม่คิดถึงซูหม่านเซียงบ้างล่ะ?
คังเหรินเต๋อรู้สึกว่าหัวใจของตนกำลังตบตีกันยุ่งเหยิง และบอกไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่มันเป็นความจริงที่ว่าเขาเบื่อหน่ายซูหม่านเซียง
“เธออยู่บ้านทั้งวัน กินแต่ของเก่า ๆ พวกนั้นไปทำไม?” คังเหรินเต๋อพูดด้วยความรังเกียจ
ถ้อยคำของเขาดูเหมือนพูดลอย ๆ แต่ตัวเขารู้ว่าสิ่งที่พูดคือคำที่ออกมาจากใจจริง มันคือสิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจ
ความคิดของเขาคือ ซูหม่านเซียงนั่งเฉย ๆ อยู่บ้านทุกวัน
คนเกียจคร้านหนึ่งคน ทั้งยังเอาแต่กินทั้งวัน เพราะงั้นถึงได้กลายเป็นคนตะกละแบบนี้ไงเล่า!
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ซูหม่านเซียงคงจะก่อเรื่องไปนานแล้ว หากแต่ตอนนี้เธอไร้ซึ่งความมั่นใจ
เธอทำได้เพียงกล้ำกลืนความโกรธลงไปแล้วขมวดคิ้วถาม “พ่อ วันนี้ทั้งวันฉันยังไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลย ก็เลยดื่มน้ำข้าวต้มมา!”
“อะไรนะ แกจะบอกว่าฉันไร้ความสามารถเลยทำให้แกลำบากหรือ? ซูหม่านเซียง ถ้าแกไม่ชอบชีวิตที่ไม่ดีที่บ้านฉัน แกก็ไสหัวกลับบ้านแม่แกไปเสีย!”
ประโยคเดียวก็ว่าไม่ถูกแล้ว ทั้งยังเอ่ยปากไล่ให้เธอกลับบ้าน มันคือสิ่งที่ซูหม่านเซียงไม่คาดคิดมาก่อน
“พ่อ พ่อพูดอะไรของพ่อเนี่ย? ฉันให้กำเนิดลูกสาวกับลูกชายให้ตระกูลคังนะ แล้วจะให้ฉันกลับไปบ้านพ่อแม่ได้อย่างไร?” เธอถามอย่างเหลือเชื่อ
ท่าทางประหลาดใจของซูหม่านเซียงในสายตาคังเหรินเต๋อ ทำให้ความรังเกียจของเขาทวีคูณ ก่อนจะเอ่ยสาปแช่ง “บ้านพ่อแม่แม้แต่หญิงถูกหย่าร้างยังกลับไป มันก็ไม่ได้แย่สำหรับแกเลยนะ!”
ซูหม่านซิ่วถูกพากลับบ้านเพราะหล่อนเป็นแม่ไก่ออกไข่ไม่ได้ มันจะเหมือนกันซูหม่านเซียงได้อย่างไรกัน?
ซูหม่านเซียงจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งมีชีวิตเช่นมนุษย์นั้น ในเมื่อมีสิ่งของในมือก็จะไม่หวงแหน พอหายไปก็เพิ่งจะรู้คุณค่าของมัน
คังเหรินเต๋อมีลูกสองคน และไม่คิดว่าเด็กพวกนี้จะหายากอะไร อันที่จริงทั้งสองคนน่ารำคาญพอ ๆ กับซูหม่านเซียงเลย และไม่คิดว่าเป็นความดีความชอบของหล่อนด้วย
“แกไม่ชอบที่ฉันไร้ความสารถจนแกต้องดื่มน้ำข้าวต้มหรือ?” คังเหรินเต๋อกลอกตา
ซูหม่านเซียงน้อยเนื้อต่ำใจ เธอบอกว่าตัวเองดื่มน้ำข้าวต้มซึ่งก็หมายความอย่างนั้นจริง ๆ ไม่ได้คร้านจะทำของอร่อย แต่เพราะของอร่อยในบ้านตนเองกินไปหมดแล้ว จะมาไม่ชอบที่สามีไร้ความสามารถอย่างไร?
เป็นซูหม่านซิ่วที่ไม่รู้จักละอายใจ เลยทำให้เธอถูกด่าไปด้วย
แต่ซูหม่านเซียงเป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี และคิดว่าสามีอารมณ์ไม่ดี จึงเอ่ยขอโทษแล้วเอ่ยเกลี้ยกล่อมสามี
แล้วคังเหรินเต๋อแสดงความยิ่งใหญ่ออกมา สุดท้ายก็พูดว่า “บอกฉันหน่อยซิ คนมีความสามารถแต่ไม่รู้จักไปหาพ่อแม่แบบเธอน่ะ ได้ยินว่าพี่สาวได้ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวแล้ว เธอไปหามาซิว่า ถ้าโยกย้ายฉันไปทำงานที่อำเภอ จากนั้นค่อยให้เธอตามไปทำงานชั่วคราวด้วย ชีวิตพวกเราจะดีขึ้นหรือเปล่า?”
เมื่อซูหม่านเซียงได้ยินคังเหรินเต๋อบอกว่าพี่สาวของเธอทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวก็แทบไม่อยากเชื่อ
“พ่อ พ่อต้องได้ยินไปแล้วแน่ ๆ พี่ของฉันเป็นแบบนั้น จะไปทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวได้อย่างไร?” ซูหม่านเซียงหัวเราะ
ไม่ใช่ว่าตัวเธอดูถูกพี่สาว แต่เพราะหล่อนไม่มีความสามารถแบบนั้นจริง ๆ
“ฉันโตขนาดนี้แล้วจะได้ยินผิดได้อย่างไร?” คังเหรินเต๋อไม่พอใจ “พรุ่งนี้เธอกลับไปบ้านแม่ซะ ไปถามพ่อแม่มาว่ามีวิธีทำเรื่องแบบนี้ไหม”
ซูหม่านเซียงจะกล้าพูดได้อย่างไร เพราะพ่อแม่ตัดขาดกับเธอแล้ว ไม่แม้แต่จะสนใจเธออีกต่อไป
ลืมมันไปซะ เรื่องของวันพรุ่งนี้ก็เก็บไว้คิดพรุ่งนี้ให้มันเป็นวัน ๆ ไป!
คังเหรินเต๋อไม่รู้ว่าซูหม่านเซียงกำลังคิดอะไรอยู่ และไม่รู้ว่าภรรยาของตนถูกคนบ้านโน้นผลักไสไล่ส่งออกมาแล้ว
ตกดึก สองสามีภรรยานอนอยู่บนเตียง ซูหม่านเซียงขยับตัวคิดจะทำอะไรบางอย่าง
แต่ดูเหมือนว่าคังเหรินเต๋อจะตกอยู่ในภวังค์ของความชั่วร้าย ดวงตาเต็มไปด้วยรูปร่างผอมเพรียวของซูหม่านซิ่ว และไม่สนใจซูหม่านเซียงร่างอ้วนเลยสักนิด แม้แต่ความคิดอยากสัมผัสยังไม่มีแม้แต่น้อย
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่จิตใจตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเอวคอดงาม ๆ ของพี่สาวภรรยา
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเกลียดซูหม่านซิ่วหรือไม่กันแน่!
“เธอบอกว่าพี่สาวของเธอออกไปอยู่ข้างนอกอยู่กับคนอื่นหรือเปล่า?” พอคิดถึงชายที่ตามซูหม่านซิ่ว คังเหรินเต๋อรู้สึกอึดอัดมากขึ้น
ซูหม่านเซียงมักจะดูถูกพี่สาวที่ไร้ประโยชน์อยู่เสมอ ถ้าออกไปแล้วหาใครสักคนได้ ก็มีความสามารถมากทีเดียว
“จะเป็นไปได้อย่างไร เธอไม่ใช่คนแบบนั้น! คุณอย่าพูดเรื่องไร้สาระสิ!” ซูหม่านเซียงรีบแก้ตัว
ที่ซูหม่านเซียงพูด ไม่ได้ปกป้องชื่อเสียงของซูหม่านซิ่ว แต่กลัวว่าครอบครัวคังจะทำให้เธออับอายอีก
“ไม่ก็ไม่ ฉันแค่พูดเฉย ๆ พรุ่งนี้อย่าลืมไปหาพ่อกับแม่แล้วบอกเรื่องที่ฉันคิดด้วย” คังเหรินเต๋อหันหลังนอนต่อ ทิ้งไว้แค่เงาแผ่นหลังให้ภรรยา
คืนนี้คังเหรินเต๋อฝัน และคนในความฝันเป็นใครไม่ได้นอกไปจากซูหม่านซิ่ว
อันที่จริงซูหม่านซิ่วดูแก่กว่าซูหม่านเซียง แต่เพราะถูกข่มเหงอยู่หลายปีที่บ้านหวัง เหมือนผ่านน้ำมันมา เนื้อหนังจึงสุกไปหมด
ถึงชีวิตที่อำเภอทุกวันนี้จะคอยดูแลคนอื่นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ง่ายที่จะเอาวัยเยาว์กลับมา
แต่ความคิดของคังเหรินเต๋อในตอนนี้คือ ภรรยาคนอื่นดูงดงามนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวที่ไม่มีสามี ยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่!
ยามตื่นขึ้น หัวใจของคังเหรินเต๋อคันยุบยิบ หวังว่าจะได้กอดจูบคนในฝันทันที
ซูหม่านเซียงกำลังหลับสบาย และไม่รู้ว่าเลยว่าคนร่วมเตียงมีจิตใจสกปรกเช่นนี้