เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 908 ตัวรับกระสุนในตลาดดอกไม้
บทที่ 908 ตัวรับกระสุนในตลาดดอกไม้
บทที่ 908 ตัวรับกระสุนในตลาดดอกไม้
เจ้าของแผงใกล้ ๆ เห็นเสี่ยวเถียนยืนมองอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งเมตร พลันคิดว่าสิ่งที่คาดเดานั้นถูกต้อง
เด็กคนนี้มาแค่เดินดูสินะ ไม่ยอมเสียเงินซื้อดอกไม้แน่นอน
โอ๊ะ ไม่สิ ไม่มีเงินมากกว่าละมั้ง?
มีคนเข้าออกในตลาดมากมาย เจ้าของแผงหวังอยู่แล้วว่าจะมีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น
แต่เด็กอย่างเสี่ยวเถียนไม่ใช่เป้าหมายของเขา
วันนี้เด็กสาวสวมเสื้อบุผ้าฝ้ายธรรมดา ๆ ทำดูไม่เหมือนคนรวย
โชคดีที่เจ้าตัวก็ไม่หวังให้คนอื่นมารบกวนขณะตรวจสอบสมบัติเหล่านั้นเหมือนกัน
เธอเดินไปตามทาง เห็นดอกคลีเวียบางร้านมีสภาพไม่ค่อยดีเลย
แต่เธอไม่ได้สนใจ
มันไม่ได้อยู่ที่เติบโตดีหรือไม่ดีหรอก มันอยู่ที่พันธุ์ไม่ค่อยดีต่างหาก
ไม่ว่าจะเลี้ยงดูอย่างระมัดระวังแค่ไหน เสี่ยวเถียนก็รู้สึกว่าไม่คุ้มสักนิด
ถึงจะมีบางพันธุ์ที่ดูไม่เลว แต่จากที่ฟังราคาแล้วยังรู้สึกว่าสูงไปหน่อย
แน่นอนว่าราคาของต้นคลีเวียยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม
แต่ต้องเป็นของราคาถูกที่มีคุณภาพสิ ถึงจะดึงดูดลูกค้าได้จริง ๆ
เสี่ยวเถียนเดินไปส่ายหัวไป ท่าทางดูโง่เง่าไม่น้อย
หลาย ๆ คนมองเธอ แล้วก็ละสายตาไป
หลังจากเยี่ยมชมแผงขายดอกไม้แต่ละแผงแล้ว เด็กสาวก็ได้รู้จักที่นี่มากขึ้น
ราคาดอกไม้ในตลาดไม่ได้สูง แต่ก็ไม่ได้ถูก
หากรู้จักต่อรองราคา เราจะหาต้นดี ๆ ราคาเหมาะ ๆ ได้แน่นอน แต่ถ้าต่อรองไม่เป็นก็ทนทุกข์ไป
เสี่ยวเถียนรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะสม และไม่มีความตั้งใจจะไปแข่งกับผู้แสวงหากำไรแบบพี่สี่ด้วย
อันที่จริง เธอคุยกับพวกต้นไม้ได้นะ หลังจากคุยเสร็จก็เข้าใจถึงเหตุผลของราคา
มีอยู่สองแผงที่เสี่ยวเถียนเจอดอกไม้ที่ถูกใจ
พันธุ์ดีแต่เลี้ยงไม่ดี ไม่รู้เลี้ยงไม่เป็นหรืออะไร ดอกไม้ก็เลยเน่า
รัฐบาลชุนเฉิงได้เสนอเศรษฐกิจขอบหน้าต่างด้วย คือทุกครัวเรือนจะต้องปลูกดอกคลีเวียกันหลาย ๆ กระถาง
ที่จริงประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่าปลูกยังไง มีคนมากมายที่ซื้อต้นกล้าไปแล้ว แต่สุดท้ายก็จบที่ขาดทุน
บางคนได้พันธุ์ไม่ดีไป สภาพก็จะตายแหล่ไม่ตายแหล่
ทว่ามันคือเรื่องปกติ
บนโลกใบนี้มีคนหลากหลายประเภท จึงมักมีคนบางส่วนที่คิดจะใช้ความปรารถนาในการหารายได้ของผู้คนเอาของไม่ดีมาขาย
เพราะงั้นพอดอกออกปุ๊ป เราก็จะรู้เลยว่ามันเป็นพันธุ์ธรรมดาที่ออกดอกเฉย ๆ
แต่ก็นั่นแหละ ถ้ามันออกดอกก็นับว่าโชคดี ถึงราคาจะสูงไปหน่อย แต่ยังทำกำไรได้เหมือนเดิม
ที่ควรจะกลัวคือพวกพันธุ์แปลก ๆ ที่ใกล้จะตายแล้ว แต่เหมือนยังอยู่ดิบดีต่างหาก
มันเขียวชอุ่มยิ่งกว่าคลีเวียต้นอื่น ๆ ที่โตตามปกติมาก
หลายคนชอบประเภทนี้ แต่ก็มีพวกหน้าด้านที่เชี่ยวชาญในการขายดอกไม้ประเภทนี้เหมือนกัน
และเสี่ยวเถียนก็เห็นมันจากบรรดาแผงขายทั้งหมดนี่แหละ
มันตั้งอยู่ตรงกลางตลาด มีคลีเวียประเภทนั้นวางโชว์เต็มไปหมด
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเขาทำได้ยังไงกัน
จนกระทั่งเดินมาสุดทางถึงได้เข้าใจ
แต่ละแผงในตลาดเต็มไปด้วยความคึกคัก แม้ว่าลูกค้าจะเข้าร้านแค่สี่ห้าคนก็ตาม
แต่แผงสุดท้ายกลับมีแค่เจ้าของร้านที่นั่งตบแมลงวันอย่างเกียจคร้าน
เขาเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบปี บนแผงมีแต่ต้นคลีเวียเป็นสิบ ๆ กระถาง ไม่มีอย่างอื่นเลย
ในตอนที่คิดว่าคลีเวียจะหายาก กลับกลายเป็นว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด
สิ่งที่แปลกของร้านนี้คือ แต่ละต้นดูเหี่ยวเฉามาก
จะว่ายังไงดี มันก็เหมือนกับเทียนที่กำลังจะดับนั่นแหละ ถ้าไม่ระวังดี ๆ ต่อให้รอดต่อไปได้แต่ก็คงอยู่ได้ไม่เกินสิบวันหรอก
เสี่ยวเถียนมองอยู่พักหนึ่ง เธอเจอพันธุ์ดี ๆ อยู่บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะรอดหรือเปล่า
“คุณเจ้าของร้าน ทำไมหน้าตาดอกถึงเป็นแบบนั้นละคะ?”
เธอเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะเอ่ยทักเจ้าของร้าน พร้อมใช้สกิลพืชพรรณกับพวกดอกไม้
ตอนนี้เสี่ยวเถียนใช้มันคล่องแล้ว พริบตาเดียวก็คุยกับพวกมันเสร็จ
อีกฝ่ายเอ่ยตอบ
“คลีเวียของฉันมันเติบโตดีมากนะ เพิ่งจะซื้อมาไม่กี่วันก่อน แต่พอมาถึงที่บ้าน ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้!” ชายหนุ่มหดหู่ใจมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่น
ช่วงนี้ธุรกิจคลีเวียกำลังไปได้สวย คนรอบข้างยังหาเงินได้มหาศาล ตนก็เลยจะเอากับเขาบ้าง
ในเมื่อได้เงินกันมาง่าย ๆ แบบนี้ใครที่ไหนจะอยากเหนื่อยล่ะ?
เพราะแบบนั้นก็เลยเอาเงินที่บ้านมาซื้อต้นที่ราคาถูกที่สุดมาชุดหนึ่งนี่แหละ
ตอนแรกก็คิดว่าจะได้เงินกับเขา แต่อีกสามวันต่อมามันกลับแย่ลงเรื่อย ๆ ใบก็เปลี่ยนเป็นสีเหลือง
เขาลองขอคำแนะนำจากคนอื่น ๆ ซึ่งได้คำตอบมาว่ามันขาดปุ๋ย
ตนเลยไปซื้อปุ๋ยมาใส่
แต่มันไม่ดีขึ้นเลย สิบวันผ่านไปก็ยังมีสภาพเป็นอย่างที่เห็น
สภาพแทบจะนอนราบไปกับพื้นแล้วน่ะ
เสี่ยวเถียนถาม “แล้วเลี้ยงยังไงหรือคะ?”
เธออยากรู้จริง ๆ
จากที่ใช้สกิลถามต้นไม้มามันบอกว่าได้ปุ๋ยมากเกินไป
“ก็แค่รดน้ำใส่ปุ๋ยเอง ไม่มีอะไรอื่นแล้ว”
ชายหนุ่มหน่ายใจหนัก
ทำไมร้านอื่นโตเอา ๆ แต่ของเขากลับทำไม่ได้บ้าง?
หรือไม่มีโชคกับเขาหรือเปล่านะ?
นี่เป็นเงินเก็บของที่บ้านด้วย ถ้าเสียไปหมด เราก็ไม่มีข้าวกินแล้วนะ
คิดแบบนั้นก็เศร้าหนักกว่าเก่า
เขาเสียใจจริง ๆ นะ
ถ้ามีโอกาสจะไม่ประมาทอีกแล้ว จะซื่อสัตย์ตั้งใจทำงานหาเงิน
เสี่ยวเถียน “…”
ที่แท้ก็พวกไม่รู้เรื่องอยากร่วมวงการธุรกิจ
จากที่เห็นคือมีหลาย ๆ คนคิดว่าการขายคลีเวียเป็นการสร้างโชคลาภได้จริง ๆ สินะ
แต่ความจริงแล้วมีหลายคนที่ไม่รู้อะไร ทั้งยังขุดหลุมฝังตัวเองจนหมดเนื้อหมดตัวอีก
เหมือนตลาดหุ้นในยุคหลัง ๆ นั่นแหละ คนนี้ได้ คนนี้ไม่ได้
ถึงจะมีคนได้เงินแต่ก็เป็นส่วนน้อย
คนประเภทนี้เรียกง่าย ๆ ว่าตัวรับกระสุน*[1]น่ะ
ไม่ว่าจะวงการธุรกิจแบบไหน คนหาเงินได้จริง ๆ มีน้อยมาก ไหนจะคนที่โชคดี คนที่เข้าใจธุรกิจอีก
เพราะงั้นถ้าไม่ใช่คนที่ถูกเลือก ก็ควรตั้งใจทำงานหนักหาเงินเถอะ
“คุณว่าพวกมันจะยังขายออกไหมคะ?” เสี่ยวเถียนถาม
[1] ตัวรับกระสุน หมายถึง ทหารที่ถูกคิดว่าเป็นเพียงวัตถุที่ใช้ในการทำสงคราม ต่อให้ตายก็ไม่มีค่าอะไร