เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 928 ว่าที่ภรรยา
บทที่ 928 ว่าที่ภรรยา
บทที่ 928 ว่าที่ภรรยา
สำหรับซื่อเลี่ยง ขอแค่เจี้ยนหงเห็นด้วยกับเรื่องนี้ ไม่ว่าเรื่องไหน ๆ ก็ไม่เป็นปัญหาทั้งนั้น
เขาดูเหมือนเป็นคนอ่อนโยนเพราะทำงานเกี่ยวกับด้านศิลปะและวรรณกรรม แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ท้อถอยจนกว่าจะชนกับกำแพง
ตอนนี้เขาได้ตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าใครจะคัดค้านก็ไม่มีสิ่งใดเหนี่ยวรั้งจากการไล่ตามความรักได้
เจี้ยนหงไม่นึกเลยว่าจะได้ยินคำตอบเช่นนี้
จริงหรือ?
คนบ้านซูเห็นด้วยหรือ?
ถึงจะรู้มาตั้งนานแล้วว่าคุณปู่คุณย่าซูเป็นคนใจดีมาก
แต่ไม่ว่ายังไง มุมมองที่มีต่อว่าที่หลานสะใภ้จะต้องแตกต่างไปจากเดิมแน่นอน
แล้วพวกเขากลับตอบตกลงด้วยความเต็มใจให้หลานชายแต่งงานกับลูกเป็ดขี้เหร่จากชนบทเช่นเธอเข้าตระกูลได้ด้วยหรือ?
มันควรจะมีการคัดค้านไม่ใช่หรือ?
เธออยู่เมืองหลวงมาตั้งนานนมทำไมจะไม่เคยได้ยินเรื่องที่ว่า ยิ่งสถานะทางสังคมสูงเท่าไร การหาคู่ครองที่ดีก็ยิ่งสำคัญมากขึ้นเท่านั้น
ไม่งั้นจะมีสิ่งที่เรียกว่าแวดวงได้ยังไงล่ะ?
ว่ากันตรง ๆ คือได้ผลประโยชน์ร่วมกันนั่นแหละ
ถึงบ้านซูจะไม่ได้มีภูมิหลังมากนัก แต่เห็นได้ว่าพวกเขาเป็นดาวรุ่ง
แล้วถ้าลูกหลานทุกคนใช้วิธีการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ ในไม่ช้าก็จะสร้างเครือข่ายเป็นวงกว้างได้
เดี๋ยวก่อนนะ เหมือนว่าพี่สะใภ้ใหญ่หลี่หลินหลินก็ไม่ได้มีภูมิหลังสูงมากนี่ อีกทั้งเธอยังเคยได้ยินว่าเจ้าตัวเป็นเด็กกำพร้า มีพี่ชายแค่คนเดียว
คุณปู่คุณย่าเอ็นดูเธอมาก แม้แต่ผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ในบ้านยังเอ็นดู
เจี้ยนหงสบายใจขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี
“แต่ฉันยังห่วงว่า ถ้าเกิด…”
ซื่อเลี่ยงขัดจังหวะ
ก่อนจะมองเธอแล้วเอ่ยจริงจัง “เจี้ยนหง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าถ้าเกิดหรอกนะ ขอแค่เธอเห็นด้วย ทุกอย่างจะไม่เป็นปัญหาเลย”
เขาหยุดครู่หนึ่ง “แค่เธอชอบฉัน ฉันจะปกป้องเธอจากการโดนคนรังแกเอง”
หญิงสาวหน้าแดงกับคำพูดตรงไปตรงมา พลันรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้น
รัศมีของซื่อเลี่ยงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง
เจี้ยนหงยกมือสัมผัสใบหน้าร้อนฉ่าของตัวเอง
เขาแพรวพราวขนาดนี้ได้ยังไงกัน? แถมยังพูดจาแบบลูกผู้ชายออกมาอีก?
“ฉันคิดว่าตัวเองค่อนข้างใช้ได้นะ? ถึงจะไม่ใช่หนึ่งในหมื่น แต่หนึ่งในพันคนก็นับได้เหมือนกันใช่ไหม?”
ซื่อเลี่ยงสังเกตเห็นว่าหญิงสาวเขินอายขึ้นเรื่อย ๆ จึงรีบเอ่ยเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ
แล้วเจี้ยนหงก็ผ่อนคลายลงจริง ๆ
ไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายแบบนี้มาก่อนเลย
แต่เขาก็พูดถูก
ซื่อเลี่ยงเป็นบุคคลที่หาได้ยากในมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิง มีผู้ชายไม่มากที่เทียบเคียงเขาได้
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ไม่สิ เมื่อพิจารณาจากความสำเร็จที่เขาทำมา ไม่ใช่หนึ่งในพันด้วยซ้ำ
“พี่คือหนึ่งในหมื่นต่างหากล่ะคะ!”
เจี้ยนหงเอ่ยความในใจออกไปโดยไม่รู้ตัว
แต่กว่าจะตระหนักได้ก็สายไปเสียแล้ว
ซื่อเลี่ยงยิ้ม
“ฉันดีใจนะที่เธอประเมินฉันไว้สูงขนาดนี้ คุณว่าที่ภรรยา!”
อะไรนะ?
เจี้ยนหงสัมผัสได้เลยว่าหัวใจเต้นแรงกว่าเก่า
ทำไมถึงใช้คำนั้นมาเรียกกันเล่า?
“พี่…”โนเวล-พีดีเอฟ
“เธอไม่อยากเป็นภรรยาฉันเชียว หรือ อยากคบเฉย ๆ แค่นั้น? คุณหลี่เจี้ยนหง ผมขอเตือนคุณด้วยความสัตย์จริงเลยนะว่า ความคิดที่จะคบใครโดยไม่หวังแต่งนี่มันผิดมหันต์มาก”
ซื่อเลี่ยงเอ่ยอย่างจริงจัง ทำหญิงสาวที่กำลังงก ๆ เงิ่น ๆ เขินหนักกว่าเก่าจนไม่รู้จะตอบยังไง
ตอนนั้นเองที่เสี่ยวเถียนวิ่งออกมาจากไหนไม่รู้พุ่งเข้าไปทุบพี่ชาย
“พี่รอง ถ้าพี่ทำว่าที่พี่สะใภ้รองกลัว พี่เจอดีแน่!”
ปกติซื่อเลี่ยงเป็นคนที่จริงจังมากแท้ ๆ ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้?
ถ้านี่ไม่ใช่พี่รองจริง ๆ งั้นแก่นแท้ข้างในคงโดนเปลี่ยนไปแล้วล่ะ
ซื่อเลี่ยงถูจมูก เด็กคนนี้ไปแอบตรงไหนมา?
คงไม่ได้ฟังบทสนทนาของพวกเราหมดแล้วใช่ไหม?
แล้วหลังจากนี้จะสู้หน้ากันได้ยังไง?
หาได้ยากที่ซื่อเลี่ยงจะหน้าแดง
“เสี่ยวเถียน ทำไมเธอถึง…” เจี้ยนหงรู้สึกขัดเขินมาก
เสี่ยวเถียนเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกัน แต่เธอกลับวางแผนจะไปเป็นพี่สะใภ้บ้านเขา มันจะดีจริง ๆ หรือ?
“ไม่ได้มีแค่ฉันมาเท่านั้นนะว่าที่พี่สะใภ้รอง เพื่อนในห้องเราก็มาด้วย!” เสี่ยวเถียนแกล้งเอ่ยอีกประโยค
สรรพนามเรียกทำให้ซื่อเลี่ยงพึงพอใจมาก และรู้สึกได้ว่าความรักที่มีให้น้องไม่ได้เสียเปล่าเลย
หลังจากนี้ต้องรักเธอมากให้ขึ้นแล้ว อย่าให้ใครมารังแกได้เด็ดขาด
“เสี่ยวเถียน เธอไม่ใส่ใจหรือ…”
เสี่ยวเถียนจะไม่สนใจจริง ๆ หรือ?
“ใส่ใจอะไรล่ะ?” แต่อีกฝ่ายกลับถามด้วยความโง่เขลา
แต่ในที่สุดก็เข้าใจความหมาย
“ใส่ใจเรื่องที่เพื่อนตัวเองกลายมาเป็นพี่สะใภ้น่ะหรือ?”
ใบหน้าของเจี้ยนหงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าด้วยซ้ำ
ใช่แล้ว เรื่องแบบนี้ใครจะไปยอมรับได้ในทันทีกันล่ะ?
“ฉันไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ ในเมื่อเธอจะเป็นว่าที่พี่สะใภ้รองของฉัน งั้นถ้าเพื่อนคนอื่น ๆ ชอบพี่ชายฉันอีก ฉันก็ยินดีเหมือนกัน”
คำพูดคำจาฟังดูน่าสนใจจริง ๆ เธอกำลังขายพี่ชายให้เพื่อน ๆ อยู่
“พี่ ๆ ฉันใช้ได้เลยนะ พี่สาม พี่สี่ หรือพี่ห้าก็ไม่ได้แย่ไปกว่าพี่รองเลย!”
เสี่ยวเถียนที่สงวนท่าทีในคราวแรก กล่าวพรวดสิ่งในใจออกมา
สู้ขายไปตรง ๆ เลยดีกว่า
ยังไงก็อยู่หอเดียวกันมาตั้งนานแล้วนี่ เธอเข้าใจนิสัยของเพื่อนอยู่แล้ว
ขณะที่คนอื่น ๆ กำลังจะเข้ามาคุยกับเจี้ยนหง ก็ได้ยินประโยคที่เสี่ยวเถียนกล่าว
สาว ๆ ไม่กล้าเอ่ยต่อทันที กลัวว่าจะตกเป็นเป้าหมายของเพื่อนคนนี้
แต่เสี่ยวเถียนพูดถูกนะ
หลานชายบ้านนี้ดูดีทุกคน
ผู้อาวุโสก็ใจดีมากเลยด้วย
การได้แต่งงานกับคนในครอบครัวแบบนี้ถือเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตแล้วจริง ๆ
“อยากเก็บไปคิดดูไหม? ถึงจะไปผิดหมู่บ้าน แต่ใช่ว่าที่นี่จะไม่มีร้านค้าเสียหน่อย” เสี่ยวเถียนมองพวกฉู่เยว่ที่เงียบกริบ แล้วยิ้มแกล้งพร้อมเลื่อนตำแหน่งสถานะเพื่อน ๆ
“เสี่ยวเถียน เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ตัวเองต้องคิดเองสิ!”
ซื่อเลี่ยงกลัวว่าการกระทำของน้องจะทำว่าที่ภรรยาตกใจกลัว จึงรีบปรามไว้
0
——————————————————-