เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 936 เคยชินกับการชอบเด็กผู้หญิงมากกว่า
บทที่ 936 เคยชินกับการชอบเด็กผู้หญิงมากกว่า
บทที่ 936 เคยชินกับการชอบเด็กผู้หญิงมากกว่า
หลินหลินอยู่เดือนที่บ้านซู
เหตุผลคือกลัวโส่วเวินจะดูแลไม่ได้ เพราะต้องทำงานจึงไม่อาจเฝ้าดูแลลูกเมียได้ตลอด
เจี้ยนหงเห็นคนบ้านซูปฏิบัติต่อหลินหลินพลันรู้สึกมั่นใจถึงอนาคตของตัวเอง
โชคดีจริง ๆ ที่พวกเขาก็ปฏิบัติต่อเธอดีเหมือนกัน แถมคนรักของเธอก็ดีด้วย
ทั้งตระกูลซูและสะใภ้ที่แต่งเข้ามาล้วนเป็นคนดีกันทั้งนั้น
ตอนมาเยี่ยมที่บ้าน เจี้ยนหงเอาเสื้อผ้าที่เย็บให้เด็กน้อยมาด้วย เนื้อผ้านุ่มมาก ทำความสะอาดหลังตัดเย็บอย่างดีพร้อมรีดมาให้ด้วย
หลินหลินยิ้มขอบคุณ
“ขอบคุณมากนะ ตัดเสื้อผ้ามาดีมากเลย เก่งกว่าฉันเยอะเลย”
หลินหลินเอ่ยอย่างจริงจังหลังจากมองพวกมัน
ตัวเธอเองก็คิดว่าเด็กคนนี้ใช้ได้ เป็นคนเรียบร้อย
แต่ตอนนี้เหมือนว่าจะเป็นคนมีน้ำใจด้วย อนาคตคงเข้าหากันไม่ลำบาก
“พี่สะใภ้พูดซะเขินเลยค่ะ” เจี้ยนหงเอ่ยด้วยหน้าแดง ๆ
“จริงนะ เวลาฉันทำทีไรเย็บกระดุมผิดทุกทีเลย”
เธอเก่งด้านการทำอาหาร แต่การเย็บปักถักร้อยไม่ได้เรื่องสักนิด
โชคดีที่ผู้ใหญ่เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้แล้วเลยไม่ต้องห่วงอะไรมาก
ไม่อย่างนั้นคงเสียใจแย่
ไว้ค่อยกลับไปถามคุณอาเถาฮวาดูว่ามีโอกาสทำเสื้อผ้าเด็กขายหรือเปล่า
ตอนนั้นเองที่คุณย่าซูเดินเข้ามาแจ้งข่าวดี
เสี่ยวเหมยก็คลอดลูกชายเหมือนกัน อายุทารกทั้งสองห่างกันห้าวันเท่านั้น
“สองคนนี้อาจจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันก็ได้นะคะ”
หลินหลินแย้มยิ้มอย่างมีความสุข
ตอนนี้มีประกาศใช้นโยบายการวางแผนครอบครัวอยู่ เลยมีลูกได้แค่คนเดียวเท่านั้น
คงจะดีถ้าเด็ก ๆ มาวิ่งเล่นด้วยกัน ดีกว่าอยู่คนเดียวเยอะ
คุณย่าซูพยักหน้าเห็นด้วย
กว่าเสี่ยวเอ้อร์กับเจี้ยนหงจะแต่งงานก็คงอีกหลายปี เรื่องมีลูกคงเลื่อนออกไปอีก เสี่ยวเล่อเล่อจะโตโดยลำพังไม่ได้
จังหวะพอดีเลย จะได้ให้เด็กสองคนนี้เติบโตไปด้วยกัน
“อาเถาฮวาเขาตั้งใจว่าจะมาเยี่ยมหนูด้วย แต่ลูกชายเสี่ยวเหมยดันใจร้อนลืมตาดูโลกก่อน แม่สามีก็ไม่ได้อยู่ด้วย แกเลยต้องดูลูกสาวน่ะ จึงฝากมาบอกว่าไว้เดี๋ยวมาเยี่ยมวันหลัง อย่าถือสาเลยนะ” คุณย่าเอ่ยพร้อมกล่าวขอโทษแทน
หลินหลินเอ่ย “อาเถาฮวาเกรงใจกันเกินไปแล้วค่ะ เธอเคยส่งของใช้สำหรับเด็กมาให้ฉันเพียบเลย ฉันจึงอยากขอบคุณเธอเหมือนกัน”
เพราะวันคลอดของลูกสาวกับหลินหลินใกล้กัน เถาฮวาจึงเตรียมของใช้สำหรับเด็กไว้สองชุด
“ไว้เจอกันค่อยเอาไปบอกเธอเถอะ หิวหรือยัง? เดี๋ยวย่าทำข้าวให้”
คุณย่ามองเวลา ใกล้ถึงมื้อพิเศษแล้ว
“ยังไม่หิวเลยค่ะ รออีกหน่อยดีกว่านะคะ!”
“เดี๋ยวย่าทำให้ก่อนแล้วกัน กินสักหน่อย ไม่งั้นต้องรอเย็นเลยนะ”
หญิงชราดูแลหลานสะใภ้ห้าครั้งต่อวัน
ทีแรกหวังเซียงฮวาจะดูแลเอง แต่ทำอาหารไม่เก่งเท่าแม่สามีก็เลยช่วยซักทำความสะอาดผ้าอ้อมเอา
ช่วงหลินหลินอยู่เดือน บ้านเราคึกคักกันมาก ขนาดเสี่ยวซื่อที่ปกติไม่กลับบ้านในวันปกติยังถือโอกาสกลับมาหาหลานชายเลย
แต่ถ้าน้องสามีไปห้องพี่สะใภ้ก็ดูไม่ดีอีก เลยขอร้องให้ย่าพาหลานออกมาแทน
หญิงชราอดด่าไม่ได้
“แกก็รีบมีลูกมีเมียซะสิ ดูสภาพตัวเองซิ ไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ”
ส่วนเสี่ยวเถียนกลับบ้านเมื่อไรก็รีบมาดูหลานที่ห้องหลินหลินตลอด เอาแต่มองไม่ละสายตา
ยิ่งมองเท่าไรก็ยิ่งชอบ
เหลียงซิ่วแซวลูกสาว “ตอนซิ่วหย่วนเกิดหนูก็เป็นแบบนี้ เอาแต่นอนมองน้องทั้งวันไม่ไปไหนเลย”
เสี่ยวเถียนยิ้ม
ชาติที่แล้วเธอไม่เคยมีลูกมาก่อน
พอได้กลับมาเกิดใหม่จึงชอบไปโดยปริยาย
“แม่ว่าตอนหนูเด็ก ๆ น่ารักกว่าเสี่ยวเล่อเล่อหรือเปล่า?”
เหลียงซิ่วไม่คิดเลยว่าลูกสาวที่มีจิตใตมั่นคงจะถามคำถามเด็ก ๆ ออกมา
เธอปิดปากหัวเราะ “ถามย่าดูสิ”
แล้วจู่ ๆ คนที่เอ่ยถึงก็เดินเข้ามา
“แน่นอนว่าหลานรักย่าน่ารักอยู่แล้ว ถึงจะเป็นก้อนน้อย ๆ แต่น่ารักมากจนย่าละสายตาไม่ได้เลย”
ทุกคนตกใจกับคำตอบ
คิดว่าพอมีรุ่นเหลนแกคงจะรักรุ่นหลานน้อยลง แต่ไม่คิดเลยว่าจะยังเหมือนเดิม
หลินหลินหัวเราะ
“คุณย่าพูดถูก เสี่ยวเถียนน่ารักที่สุดในบ้านเราแล้ว ถึงพี่จะไม่เคยเห็นเธอตอนเด็ก แต่บอกได้เลยว่าน่ารักแต่แรกแน่นอน”
ไม่เหมือนเด็กคนนี้หรอก ที่เพิ่งจะลืมตาดูโลกพ่อก็บอกหน้าตาน่าเกลียดทำท่าทำทางอยากจะทิ้งเขาไป
“ทำไมหนูคิดว่าเสี่ยวเล่อเล่อน่ารักล่ะคะ?” เสี่ยวเถียนมองเด็กน้อย
เธอไม่เคยเห็นความงดงามแบบนี้มาก่อนเลย
แต่ตัวเองดันลืมไปว่าเพิ่งจะเคยเห็นเด็กอ่อนแค่สองคนเอง คนหนึ่งคือเฉินซิ่วหย่วน อีกคนคือเสี่ยวเล่อเล่อ
สองคนนี้หน้าตาดีมาก แต่ซิ่วหย่วนหน้าจะดุมากกว่า ส่วนเสี่ยวเล่อหน้าหวาน
คุณย่าและเหลียงซิ่วต่างหัวเราะ
“อยากรู้ไหมว่าหนูตอนเด็ก ๆ หน้าตาเป็นยังไง?” คุณย่าบีบแก้มหลานสาวด้วยความรัก
“ไว้ไปถามแม่ใหญ่ดีกว่าค่ะ” แต่ก็เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองพูดผิดไป
แม่ใหญ่รักเสี่ยวเล่ออย่างกับอะไรดี ก็ต้องตอบว่าหลานชายน่ารักอยู่แล้วสิ
แต่หวังเซียวฮวากลับยืนกรานว่าเสี่ยวเถียนนั้นน่ารัก
เหลียงซิ่วกลัวหลานสะใภ้จะคิดมากเลยปลอบใจ “หลินหลินอย่าคิดมากเลยนะ เสี่ยวเถียนเคยตัวไปแล้วน่ะ เราก็เลยแกล้งเล่นน่ะ”
หลินหลินรีบตอบ “ฉันไม่ได้ใจแคบแบบนั้นหรอกค่ะแม่สาม ฉันก็คิดว่าเสี่ยวเถียนน่ารักเหมือนกัน”
จากนั้นหลินหลินก็มองไปยังใบหน้าของเด็กสาว “เสี่ยวเถียนเลิกถามเถอะ ต่อให้ถามคนทั้งบ้านเขาก็จะตอบว่าเธอสวยอยู่ดีนะ”
หลินหลินไม่ได้อึดอัดหรอก
บ้านซูมีหลานชายตั้งเก้าคน เพิ่งจะมีหลานสาวคนเดียวเอง
เพราะเป็นเด็กที่หวังเอาไว้จึงรักเธอโดยปริยาย
ถ้าเกิดลูกเธอเป็นผู้หญิง ก็อาจจะเกิดการเปรียบเทียบก็ได้ แต่เป็นผู้ชายพอดีเลยไม่มีความหวังนั้น
ด้วยความที่บ้านซูรักลูกสาวมากกว่าลูกชายน่ะ ก็เลยเป็นความเคยชินไปแล้ว
อีกอย่างพวกเขาก็ไม่ได้รักแค่ลูกสาวบ้านตัวเองนะ แต่ลูกสาวครอบครัวอื่นในเครือญาติก็รักเหมือนกัน
เพราะอย่างนั้นถึงได้ดูแลเธออย่างดี บ้านนี้เป็นคนดีจริง ๆ นะ
จะขอบคุณก็สายเกินไปแล้ว เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นั้นจะไปสนใจทำไม?