เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 967 ตัวฉวยผลประโยชน์มาแล้ว
ตอนที่ 967 ตัวฉวยผลประโยชน์มาแล้ว
ตอนที่ 967 ตัวฉวยผลประโยชน์มาแล้ว
เมื่อพวกเธอเดินออกมาก็มีผู้หญิงในหมู่บ้านเข้ามาสอบถามเรื่องราว
หมู่บ้านเราขาดแคลนทุกอย่าง ยกเว้นไอ้พวกขี้นินทา
ภรรยาของซูฉางจิ่วทำตามคำแนะนำด้วยการเอ่ยทั้งที่ใบหน้าชื่นบาน
พอได้ยินว่าเสี่ยวเฉ่าได้ช่วยชีวิตเซี่ยหนานเอาไว้ เขาเลยเดินทางมากล่าวคำขอบคุณและขอเป็นแม่บุญธรรม
ผู้หญิงพวกนั้นจึงหมดอารมณ์ทันที
ตอนนี้สิ่งใดคือสิ่งที่น่าจับตามองที่สุดน่ะหรือ? มันก็ต้องความสัมพันธ์ชายหญิงอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
แต่คิด ๆ ดูอีกทีเสี่ยวเฉ่าก็โชคดีเนอะ ในหมู่บ้านมีผู้หญิงตั้งเยอะแยะ แต่มีแค่เสี่ยวเถียน เสี่ยวเหมย และเสี่ยวเฉ่าเท่านั้นที่โชคดี
แถมคนเมืองยังรับไปเป็นลูกบุญธรรมอีก ดีเหลือเกิน
เราเป็นชาวนามากี่ชั่วโคตรแล้วก็ไม่รู้ แม้กระทั่งที่ดินทำกินยังไม่มีเลย
แต่แน่นอนว่ามีคนบางส่วนที่คิดร้ายและนึกสงสัยว่าเรื่องจริงหรือเปล่าด้วย
“พี่สะใภ้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเสี่ยวเฉ่าใช่ไหม?”
ถ้าแววตาคนพูดไม่ได้เป็นประกายขนาดนั้น ทุกคนก็คิดแล้วว่าเขาเป็นห่วง
“ไม่มีค่ะ พี่เสี่ยวเฉ่าสบายดี” เสี่ยวเถียนรีบตอบ
เมื่อสิ้นประโยคนั้น สีหน้าของอีกฝ่ายพลันเปลี่ยนไป
เสี่ยวเถียนร้องเหอะ เป็นไอ้พวกอยากเห็นคนอื่นล่มจมสินะ!
ใจร้ายจริง ๆ
ตอนนั้นเองที่เห็นเถียนเสี่ยวเหอ สะใภ้เล็กของซูฉางจิ่วมาหา
ก่อนหน้านี้ที่ครอบครัวฉางจิ่วยังไม่ได้แยกบ้านกัน ครอบครัวเถียนเสี่ยวเหอดูสุขสบายมาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ราบรื่น
แต่ไม่รู้นึกคึกอะไรถึงได้เอาแต่คิดหาทางร่ำรวยอยู่ทุกวี่ทุกวัน
ตอนแรกเถียนเสี่ยวเหออยากรับช่วงทำฟาร์มต่อมาก ถึงขนาดใช้อำนาจพ่อสามีทั้งต่อหน้าและลับหลังเพื่อปราบคู่แข่งรายอื่น
แต่การทำฟาร์มจะไปง่ายได้อย่างไร ฟาร์มดี ๆ กลับต้องถูกทำลายไปจนสูญเสียเงินทั้งหมดไป
ทีแรกสิ่งนี้เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน แต่เพราะกลัวบ้านพ่อสามีกับบ้านพี่สะใภ้เอาเปรียบ พวกเขาเลยแยกบ้านออกมา
ตอนนี้เสียเงินเองก็เลยต้องรับผิดชอบเอง
ทั้งยังเซ็นสัญญารับช่วงห้าปีรวดเลยด้วย
ในเมื่อฟาร์มหาเงินไม่ได้ก็เลยต้องมาหาเงินอื่นในหมู่บ้านแทน
เพราะอย่างนั้น เถียนเสี่ยวเหอจึงสร้างปัญหาให้พ่อแม่สามีทั้งในบ้านและนอกบ้านไม่น้อย
ทั้งยังพุ่งเป้าไปที่เสี่ยวเฉ่าด้วย
ส่วนสะใภ้ใหญ่อย่างจางไฉ่อวิ๋นเห็นสะใภ้รองสร้างปัญหาและได้ประโยชน์ก็ไม่อยากน้อยหน้า
สุดท้ายก็ทำครอบครัวพ่อสามีแทบประสาทแดก
เลยโดนแยกครอบครัวไปอีกบ้าน นอกจากเสี่ยวเฉ่าคนเดียว คนอื่น ๆ ก็โดนแยกกันหมด
เงินเก็บที่มี พวกเขายกให้ลูกชายสองคนหมด ตัวเองจึงไม่เหลือสักแดงเดียว
ถือเสียว่าจะได้ไปให้พ้นหูพ้นตาเสียที
จากนั้นก็ทางใครทางมัน
สองสามีภรรยาจึงไม่พอใจมาก
เพราะลูกชายทั้งสองคนเป็นพวกใจดำมาก เลยเป็นกังวลถ้าเซี่ยหนานจะเอาลูกสาวไปอีก เธอจะไม่เหลือใครเลย
จากนี้ไปก็ต้องอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีคนให้คุยด้วย
ว่าก็ว่าเถอะ ไอ้เด็กสองคนนั้นมันเลวจริง ๆ
แยกบ้านเสร็จก็ไม่เคยกลับมาหากันบ้างเลย
ปีใหม่ยังไม่ยอมมาด้วยซ้ำ
พอผ่านไปนานเข้า พวกเขาสองคนก็เลิกสนใจ และมุ่งแต่เก็บเงินสินสอดให้ลูกสาวเท่านั้น
“แม่ ฉันได้ยินว่าบ้านเรามีแขก ทำไมไม่บอกกันสักหน่อยล่ะคะ เราก็คนกันเองทั้งนั้นนะ?”
เถียนเสี่ยวเหอได้ยินว่ามีผู้หญิงแต่งตัวดีมาที่บ้านจึงรีบบึ่งมาหา
ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่าบ้านซูมีญาติรวย ๆ อยู่ด้วย แต่ใครจะไปรู้เล่าว่าคนแก่ที่บ้านจะปิดบังอะไรจากพวกเราไว้หรือเปล่าน่ะ?
ถ้าคนรวย ๆ มาหาก็ต้องได้ผลประโยชน์กับเขาบ้างละ โนเวล-พีดีเอฟ
เถียนเสี่ยวเหอจ้องไปยังเซี่ยหนาน
อย่างที่คนอื่นบอกเลย ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวดี ดูร่ำรวยอย่างเห็นได้ชัด
และอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ดูแตกต่างคือ ใบหน้าเฉยชา ดูไม่น่าเข้าไปยุ่งด้วย
ไม่รู้ว่าจะฉวยผลประโยชน์มาได้หรือเปล่า
เสี่ยวเถียนขมวดคิ้ว อ้าปากได้ก็โทษกันก่อนเลย นี่เธอเป็นลูกสะใภ้นะ
เมื่อก่อนแม่สามีคนนี้ยังดี ๆ อยู่เลย ทำไมตอนนี้นิสัยเป็นแบบนี้ไปแล้วล่ะ?
เงินเปลี่ยนใจคนได้จริง ๆ หรือ?
แต่นี่มันเปลี่ยนเยอะไปหน่อยไหม?
ภรรยาฉางจิ่วมองลูกสะใภ้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
แต่ตนยังมียางอายอยู่ เลยไม่อยากจะเสวนาด้วย
เถียนเสี่ยวเหอเป็นพวกอยากพูดอะไรก็พูด
“ท่านนี้คืออาจารย์เซี่ยมาจากเมืองหลวง เสี่ยวเฉ่าช่วยชีวิตเขาไว้เลยเดินทางมาขอบคุณโดยเฉพาะน่ะ!”
แววตาของลูกสะใภ้เป็นประกายทันที
สิ่งที่ทำให้ดีใจยิ่งกว่าเดิมคือการที่เขามาแสดงความขอบคุณนี่แหละ
“ไอหยา ฉันจะบอกอะไรให้นะคะ เสี่ยวเฉ่าเป็นเด็กที่จิตใจดีมากเลยค่ะ ไม่งั้นคุณคงไม่ได้เธอช่วยไว้หรอกนะ”
เซี่ยหนานไม่รู้สถานการณ์ในครอบครัวซูฉางจิ่ว แต่จากบทสนทนาแล้ว เถียนเสี่ยวเหอน่าจะเป็นพี่สะใภ้ของเสี่ยวเฉ่า
ถึงจะดูหยาบคายไปหน่อย แต่เป็นเรื่องปกติของคนชนบทน่ะ
ไหนๆ ก็เป็นพี่สะใภ้ลูกสาว ด้วยความคิดรักคนครอบครัวลูก เซี่ยหนานจึงยิ้มทักทาย
“สวัสดีค่ะ! ฉันชื่อเซี่ยหนาน”
“อาจารย์เซี่ย ฉันเป็นพี่สะใภ้ของเสี่ยวเฉ่าเอง ฉันเฝ้ามองเขามาตั้งแต่เด็กเลย”
เถียนเสี่ยวเหอเข้าไปหาอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะคว้าแขนเสื้ออีกฝ่ายเอาไว้ ไม่นึกสนใจด้วยซ้ำว่าพวกเธอเพิ่งพบกันครั้งแรกหรือเปล่า หรือเซี่ยหนานจะรังเกียจมือที่สกปรกของตัวเองไหม
เซี่ยหนานพยายามชักแขนกลับ แต่ไม่เป็นผล จึงปล่อยเลยตามเลย
มันลำบากสำหรับเธอที่ไม่ได้พบเจอผู้คนมาตลอดหลายปี จึงไม่ได้มีความเป็นมิตรเท่าไร
เธอเลยอึดอัดน่ะ
“อาจารย์อาจจะยังไม่ทราบ แต่จะบอกอะไรให้นะ ฉันน่ะคอยบอกเสี่ยวเฉ่าตลอดเลยว่าให้มีน้ำใจต่อผู้อื่น แล้วถึงจะได้รับผลตอบแทน”
อย่าว่าแต่แม่ผัวทนฟังไม่ไหวเลย ชาวบ้านยังไม่อยากจะได้ยิน
กล้าพูดเหลือเกิน
เห็นเสี่ยวเฉ่ามาตั้งแต่ยังเด็ก?
ตอนตัวเองแต่งเข้าบ้านเขา เสี่ยวเฉ่าอายุเท่าไรแล้ว?
บอกน้องสามีดูลูกตัวเองโตจะดีกว่าไหม?
ตอนเสี่ยวเฉ่าอายุสิบกว่า ๆ ก็ต้องเลี้ยงหลานให้แล้ว ขนาดเสื้อผ้าและผ้าอ้อมก็ต้องดูแลเพราะภรรยาฉางจิ่วต้องทำงาน
แล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก?
แล้วไอ้ที่บอกว่ามีน้ำใจต่อผู้อื่นนี่ คนอย่างเถียนเสี่ยวเหอคิดได้ด้วยหรือ?
แต่เราเป็นคนนอก พูดได้ที่ไหนล่ะ
สายตาดูถูกจากชาวบ้านทำให้ภรรยาของฉางจิ่วทนไม่ไหว
สุดท้ายจึงกระแอมไอเตือนลูกสะใภ้แทน
——————————————————-