เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 980 อ่านงานต้นฉบับ
บทที่ 980 อ่านงานต้นฉบับ
บทที่ 980 อ่านงานต้นฉบับ
ใบหน้าของเซียวหย่วนหยางเต็มไปด้วยความโกรธ
แม้เรื่องราวจะผ่านไปนานกว่าหนึ่งปี แต่สำหรับเขาแล้วต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดล้วนเป็นเพราะซูเสี่ยวเถียน
ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ป่านนี้เขาก็ยังคงเป็นรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงด้วยซ้ำ
ไม่สิ เผลอ ๆ อาจจะเป็นอธิการบดีด้วยซ้ำ
แต่อนาคตกลับโดนเด็กที่ดูเหมือนจะใสซื่อทำลายลง
“รองอธิการบดีเซียวหมายถึงอะไรคะ? ฉันไม่เห็นเข้าใจเลย?” เสี่ยวเถียนจีบปากจีบคอว่า
เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดแบบนี้
“แกยังไม่ยอมรับอีกหรือว่าแกทำลายชีวิตฉัน” เซียวหย่วนหยางโกรธมาก ไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง
“แล้วฉันไปทำให้คุณตกระกำลำบากตอนไหน? คุณเองไม่ใช่หรือยังไงที่คิดทำร้ายฉัน?” เสี่ยวเถียนไม่เกรงใจอีกต่อไป
คนแบบนี้เธอไม่ยอมทนหรอกนะ
ต้องทำให้เขารู้ว่าเราทรงพลังขนาดไหน
ไม่อย่างนั้นจะยิ่งทำให้เจ้าตัวคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว
เซียวหย่วนหยางโกรธจนพูดไม่ออก
อยากจะด่าแต่ก็พยายามควบคุมตัวเองไว้ด้วยเช่นกัน
จะไปลืมได้ยังไงว่าเขาจะทำให้ซูเสี่ยวเถียนขุ่นเคืองใจไม่ได้
คนหนุนหลังเธอมีอำนาจเยอะมาก
แม้ตระกูลเซียวจะถือว่ามีชื่อเสียงในเมืองหลวง แต่ตอนนี้เขาโดนปรามอำนาจ จึงยังไม่สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้เช่นเมื่อก่อน
ตระกูลเลยตัดหางปล่อยวัดเขาเสีย
แม้จะไม่รู้ว่าคนหนุนหลังเด็กนั้นเป็นใคร แต่คงไม่ใช่คนธรรมดาที่ลดตำแหน่งเขาและให้ออกจากมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงแล้วส่งตัวไปตะวันตกเฉียงเหนือได้แน่นอน
ชายอ้วนเลยจำต้องกล้ำกลืนฝืนรับมันไว้แม้ใจจะหน่ายก็ตาม
ทำไมต้องทำให้ตัวเองลำบากด้วยล่ะ?
สุดท้ายจึงเลือกเมินเฉยไป
ตอนกลับมาที่ห้องก็เห็นคนทั้งสองกำลังนั่งกินเกี๊ยว
ไม่รู้คิดอะไร ถึงมานั่งกินเกี๊ยวบนรถไฟ มีจานมีน้ำจิ้มอีก
แค่ได้กลิ่นอันเข้มข้น โดยเฉพาะตอนจิ้มน้ำจิ้มรสเปรี้ยวเขาก็ยิ่งหิวมากกว่าเดิมอีก
แป้งทอดที่อุ่นแล้วยังไม่อร่อยเท่าเลย
สุดท้ายก็ทำได้แค่เฝ้ามองพวกเขากินไปด้วย หัวเราะคิกคักไปด้วย
กลิ่นเกี๊ยวฟุ้งไปทั่วทั้งห้องโดยสาร ไม่ใช่แค่เซียวหย่วนหยางที่ได้กลิ่น กระทั่งอิ่นหรูอวิ๋นก็ได้กลิ่นเหมือนกัน
แต่อาหารเหล่านี้มีพอสำหรับคนสองคนเท่านั้น
ตอนไปล้างกล่อง เสี่ยวเถียนเอาแตงกวามาด้วย
“หนูล้างแตงกวามาด้วยค่ะ กินเป็นผลไม้หลังข้าวน่าจะดี”
เสี่ยวเถียนยิ้มสดใส
เซียวหย่วนหยางรู้สึกว่าเด็กคนนี้จงใจทำ
ทำให้รู้ว่าตนไม่สามารถกินอาหารพวกนี้ได้
สงสัยคงคิดเยอะไป ซูเสี่ยวเถียนไม่ทำตัวน่าเบื่อแบบนั้นหรอก
ซูเสี่ยวเถียนจะไม่ทำให้ตัวเองลำบาก สิ่งสำคัญคือกินก่อนค่อยว่ากัน
กว่าจะกินข้าวเสร็จก็เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว
“เราไปอาบน้ำเตรียมพักผ่อนกันค่ะ!”
เซี่ยหนานนอนมาแล้วตลอดบ่าย ตอนนี้จึงตาสว่างมาก
แต่รถไฟจะดับไฟแล้วน่ะสิ ถ้าไปอาบตอนนั้นคงลำบาก
หลังจากชำระล้างร่างกายเสร็จก็แยกย้ายกันเข้านอน
เสี่ยวเถียนหยิบหนังสือออกมาอ่านต่อ เธอนอนตะแคงแล้วเริ่มอ่าน
หนังสือถูกเก็บไว้ในระบบน่ะ เลยพกพาไปไหนมาไหนสะดวกดี
ต่อให้สภาพแวดล้อมมืดลงก็ยังอ่านได้โดยที่คนอื่นมองไม่เห็นด้วย
หนังสือที่อ่านคือหนังสือเศรษฐศาสตร์
จริง ๆ เธอไม่ได้สนใจการทำธุรกิจหรอก
เพียงแต่ข้อเสียของระบบคือถ้าเล่มที่หยิบออกมาอ่านไม่จบและไม่ทำความเข้าใจ จะไม่สามารถอ่านเล่มอื่นต่อได้
เธอไม่ชอบเลย แต่ทำได้แค่อดทนต่อไป
หลายปีที่เชี่ยวชาญความรู้หลากหลายแขนงเพราะตัวระบบห้องสมุดนี่แหละ
คืนนี้ผ่านไปอย่างสงบ ตื่นมาอีกทีก็รุ่งเช้า
หลังจากอาบน้ำเสร็จก็มานั่งกินซาลาเปาและมะเขือเทศ
เซี่ยหนานแปลกใจตอนหยิบซาลาเปาอุ่น ๆ มา
ด้วยสภาพอากาศเช่นนี้ไม่น่าเก็บไว้ได้นานนะ
แต่ตอนนี้ซาลาเปาลูกนี้กลับไม่ต่างไปจากซาลาเปาที่เพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ ๆ เลย
อีกสองคนในห้องยังไม่ได้กินข้าวเลย พอได้กลิ่นหอมเย้ายวนจึงรู้สึกหิวโหย
อิ่นหรูอวิ๋นอาบน้ำเสร็จก็มานั่งกินแป้งทอดที่อุ่นแล้ว
เหมือนได้กินของอร่อยเลย
แต่เซียวหย่วนหยางกลับกระเดือกไม่ลง
สายตาเขาเผลอเลื่อนไปมองคนฝั่งตรงข้าม
เขาได้แต่นึกแปลกใจที่อิ่นหรูอวิ๋นกินแป้งทอดแห้ง ๆ พวกนั้นได้อย่างเฉยเมย
อิ่นหรูอวิ๋นที่เขารู้จักไม่ใช่คนแบบนี้
ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้เลยว่า หญิงสาวกำลังคิดเรื่องหนึ่งอยู่ทั้งคืน และตอนนี้ก็คิดได้แล้วด้วย
ชีวิตเธอคงไม่ดีขึ้นแล้ว หรืออาจต้องอดอยากตลอดไป แต่อย่างน้อยแป้งทอดที่ใช้แป้งสาลีทำก็ไม่ใช่ของไม่ดี
แต่เซียวหย่วนหยางไม่ใช่คนแบบนั้น เขาเคยชินกับการถูกเอาอกเอาใจมาตลอด
ในเมื่อมีคนอื่นนอกจากเรา เสี่ยวเถียนกับเซี่ยหนานจึงไม่ได้คุยอะไรกันเยอะ
เด็กสาวปีนขึ้นไปนั่งอ่านหนังสือต่อ
เซี่ยหนานที่เบื่อ ๆ เอ่ยถามว่ามีหนังสือเล่มอื่นที่เอามาอีกไหม เพราะอยากอ่านฆ่าเวลา
“หนูมีเรื่อง ‘Les Misérables’ ค่ะ ลองอ่านไหม?”
เซี่ยหนานไม่ค่อยได้อ่านงานวรรณกรรมเท่าไร แต่เพื่อฆ่าเวลาแล้วจึงยอมรับมา
แต่พอได้เห็นหนังสือกลับนึกสงสัยว่าเสี่ยวเถียนตั้งใจให้เธออ่านจริง ๆ ใช่ไหม?
“เสี่ยวเถียน แน่ใจใช่ไหมว่าตั้งใจจะให้ฉันอ่าน?”
เธอไม่รู้ภาษาฝรั่งเศส!
เสี่ยวเถียนเพิ่งนึกขึ้นได้ Les Misérables ที่ติดตัวเอาไว้เป็นงานต้นฉบับน่ะ
“ขอโทษค่ะ หนูมีบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์อยู่นะ อาจารย์จะอ่านไหมคะ?”
เธอมีหนังสืออยู่เพียบเลย แต่ใส่ไว้ในระบบน่ะ
แต่ตอนนี้อยู่บนรถไฟเลยใส่ติดตัวไว้แค่ไม่กี่เล่ม
“เสี่ยวเถียน เธออ่านงานต้นฉบับตลอดเลยหรือ?”
เมื่อได้ยินว่าความสามารถด้านภาษาของเธอแก่กล้ามาก เหมือนว่าข่าวลือพวกนั้นจะจริงนะ
“ต้นฉบับมันดีกว่าฉบับแปลน่ะค่ะ อ่านแล้วซึมซับได้มากกว่า”
เซี่ยหนานถึงกับเงียบกริบ “…”
งั้นก็ต้องมีความสามารถในระดับหนึ่งเลยนะ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้เลย
เธอบอกได้เลยว่าเด็กคนนี้มีความมั่นใจมาก
——————————————————-