เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 995 รับเป็นญาติ
บทที่ 995 รับเป็นญาติ
บทที่ 995 รับเป็นญาติ
วันต่อมา เซี่ยหนานมาหาแต่เช้า
ขณะนั้นยังไม่มีสมาชิกคนไหนในบ้านเข้าร้านเลย
ส่วนเสี่ยวเถียนกลับมหาวิทยาลัยไปแล้ว เพราะมีคาบเช้าถ้าไม่รีบไปจะเข้าสายเอา
คนที่บ้านเห็นเซี่ยหนานเป็นอันต้องประหลาดใจ
“คุณคืออาจารย์เซี่ยหนานใช่ไหมคะ?”
เหลียงซิ่วคิดอยู่นาน เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นอาจารย์เซี่ยหนานสินะ?
ตอนที่เพิ่งกลับมาจากหนานหลิ่ง เซี่ยหนานแวะไปหออีหมิงด้วย แต่ตนอยู่ในครัวจึงไม่เห็นกัน
“ใช่ค่ะ คุณคือคุณแม่ของเสี่ยวเถียนใช่ไหมคะ?”
“ค่ะอาจารย์ ทำไมมาแต่เช้าเลยล่ะ? มาหาเสี่ยวเฉ่าหรือเปล่าคะ?” เหลียงซิ่วยิ้มก่อนเชิญอีกฝ่ายเข้าบ้าน
คุณย่าซูกำลังจะไปร้านพอดี ตอนเดินออกมายังลานบ้าน สายตาเห็นเซี่ยหนานถือของเต็มไม้เต็มมือยืนคุยกับลูกสะใภ้
“อาจารย์เซี่ยหนานมาแต่เช้าเลย เสี่ยวเฉ่าอยู่ในบ้านน่ะ พอดีเลย เราว่าจะออกไปร้านกัน ต้องวานให้หลานดูแลอาจารย์แทนแล้วค่ะ”
คำพูดไม่เกรงใจของแม่สามีทำเอาเหลียงซิ่วตกใจมาก
ช่วงนี้ท่านทำตัวแปลกจริง ๆ นะ ต่อให้อาจารย์เซี่ยหนานผู้ได้เสี่ยวเฉ่าช่วยชีวิตเอาไว้มาหาที่บ้าน แต่เราก็ไม่ควรจะยกหน้าที่ดูแลให้หลานมันส่ง ๆ หรือเปล่า?
เมื่อก่อนท่านไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนี่นา
แล้วทำไมอาจารย์เซี่ยหนานถึงดูซาบซึ้งในบุญคุณขนาดนัั้น?
เมื่อเห็นสายตาแม่ที่มองอาจารย์ พลันคิดว่าแม่เราเป็นคนไปช่วยเขาไว้เสียอีก
“เดี๋ยวตอนกลางวันเอาข้าวมาส่งให้นะคะ ดูแลเสี่ยวเฉ่าดี ๆ เน้อ!”
จริง ๆ แขนเจ็บข้างเดียวไม่ต้องดูแลอะไรหรอก
แต่หญิงชราอยากให้คนทั้งสองได้สนทนากัน
เซี่ยหนานเอ่ยขอบคุณก่อนเฝ้ามองคนบ้านซูออกไปร้าน
ซูเสี่ยวเฉ่าเห็นอาจารย์เซี่ยยังนึกแปลกใจ
“อาจารย์ไม่ต้องมาหาก็ได้นะคะ หนูดูแลตัวเองได้”
“ทีแรกตั้งใจว่าจะไปทำงาน แต่เสี่ยวเถียนบอกให้พัก อย่าเพิ่งรีบร้อนน่ะค่ะ”
เธอหวงแหนเวลาในการเล่าเรียนมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ไปทุกวัน
ช่องว่างระหว่างโรงเรียนมัธยมในเมืองกับในมณฑลมันต่างกันมาก
เธอจึงอยากเรียนรู้ให้มากกว่านี้เพื่อกลับไปสอนเด็ก ๆ ได้
ซูเสี่ยวเฉ่าเป็นครูที่ทุ่มเทมาก ไม่อย่างนั้นคนสาว ๆ แบบนี้คงไม่ได้มาฝึกอบรมที่เมืองหลวงหรอก
“เธอฟังเสี่ยวเถียนเถอะ การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญนะ เรามีโอกาสให้เรียนอีกเยอะจ้ะ” เซี่ยหนานรีบห้ามเอาไว้
เซี่ยหนานไปแลกคาบกับอาจารย์ท่านอื่น มาเป็นกรณีพิเศษ จึงได้ลาพักสามวัน
แม้จะต้องเข้าสอนทุกวัน แต่การได้มาดูแลเสี่ยวเฉ่าถือว่าคุ้มแล้วละ
เธอทุกข์ระทมมาชั่วชีวิต ในที่สุดก็ได้ดูแลลูกสาวเสียที เพียงนี้ก็พอใจมากแล้ว
หลังจากใช้เวลาร่วมกันทั้งวัน ทั้งสองคนจึงสนิทสนมกันมากขึ้น
เซี่ยหนานคิด ‘นี่สินะคือสิ่งที่เรียกว่าเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน’
ตกเย็น คุณย่ายิ้มให้กับความใกล้ชิดของคนทั้งสอง
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือการที่ซูซานกงกลับมามากกว่า
มหาวิทยาลัยเกษตรกรรมอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราหรอก ก่อนหน้านี้ถ้าเขาว่างจะกลับบ้านช่วงวันหยุด แต่ถ้าไม่ว่างก็จะไม่กลับมาเลย
แล้วทำไมวันนี้ไปเช้ากลับเย็นเลยล่ะเนี่ย?
คุณย่าถาม “ทำไมกลับมาเวลานี้ล่ะ?”
ชายหนุ่มไม่ชอบใจเท่าไร แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มรับ “สองวันนี้ผมไม่ได้ยุ่งมากครับเลยกลับมา แต่อีกเดี๋ยวก็มีงานเข้าแล้ว”
เธอไม่แปลกใจว่าทำไมถึงกลับมา
จากนั้นซูซานกงจึงรีบแอบไปเยี่ยมซูเสี่ยวเฉ่า
พอรู้ว่าเธอสบายดีถึงค่อยโล่งใจ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เสี่ยวเถียนเพิ่งทราบว่าพี่สามกลับมาบ้านทุกวัน
และก็ได้แต่สงสัยว่าดวงอาทิตย์ขึ้นฝั่งไหนล่ะเนี่ย?
ปกติพี่เขาไม่เคยกระตือรือร้นจะกลับบ้านขนาดนี้เลยนะ
ขนาดหลานชายคนเล็กเกิดเขายังไม่เป็นแบบนี้เลย
แปลกจริง ๆ
ประเด็นคือซูซานกงไม่รู้ว่าความจริงที่ว่าซูเสี่ยวเฉ่าเป็นลูกสาวบุญธรรมของซูฉางจิ่ว ไม่อย่างนั้นเธอคงคิดว่าพี่สามชอบพี่สาวแล้วละ
ส่วนเรื่องที่เซี่ยหนานรับซูเสี่ยวเฉ่าเป็นลูกบุญธรรมก็เป็นอันเสร็จสิ้น เราจะมาจัดการกันในวันอาทิตย์ตอนเที่ยง
เสี่ยวเถียนมีหลายเรื่องให้จัดการเลยไม่ได้คิดอะไรมาก
เซี่ยหนานจัดเตรียมโต๊ะไว้หลายตัวเลย
นอกจากเพื่อนในเมืองหลวง ก็มีเพื่อนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับบ้านซูมาด้วย
แม้จะไม่สนิทกับเซี่ยหนาน แต่เจ้าตัวบอกว่าทุกคนเป็นผู้อาวุโส คอยดูแลเสี่ยวเฉ่า จึงอยากให้มาเป็นพยานน่ะ
อีกอย่างพ่อแม่เสี่ยวเฉ่าไม่สามารถมาร่วมงานได้ เลยอยากให้ผู้ใหญ่มาเป็นหน้าเป็นตาให้เสี่ยวเฉ่า
ซูเถาฮวาประหลาดใจมากตอนที่ทราบถึงเรื่องนี้
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมจู่ ๆ อาจารย์มหาวิทยาลัยถึงอยากได้เสี่ยวเฉ่าเป็นลูกบุญธรรมนัก
มันเป็นเรื่องของครอบครัวน่ะ โดยปกติเราจะให้ลูกบุญธรรมคำนับ ส่วนแม่บุญธรรมมอบของขวัญให้เฉย ๆ
แต่อาจารย์เซี่ยยืนกรานเลยว่าอยากจัดเป็นพิธิให้อย่างเหมาะสม
เพราะทุกคนไม่ได้รู้ความจริงของเรื่องนี้ยังไงละ และมันก็เป็นเรื่องของชาวบ้านเนอะ หากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อง ฝ่ายพ่อแม่และลูกสาวเห็นพ้อง คนอื่น ๆ ก็ไม่มีสิทธิ์แย้งหรอก
ในเมื่อเป็นงานมงคล ทุกคนจึงมอบของขวัญให้แก่หญิงสาว
เซี่ยหนานเตรียมของดี ๆ ไว้ให้ลูกเพียบเลย
เธอบากบั่นทำงานมาหลายปีเพื่อไปสู่ความสำเร็จ จึงมีทั้งเงินและข้าวของอยู่บ้าง เมื่อถึงวันนี้จึงมอบให้กับซูเสี่ยวเฉ่า
ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายจะสงสัย คงเอาของดี ๆ มาให้หมดแล้วละ
“แม่บุญธรรม แม่ให้ฉันมาเยอะเลยนะ ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
ซูเสี่ยวเฉ่ารีบปฏิเสธ
เธอจำได้ว่าเวลาคนในหมู่บ้านรับเป็นแม่บุญธรรม มากสุดให้แค่ถ้วยกับตะเกียบเอง ถ้าดีกว่านั้นจะเป็นเสื้อผ้าหนึ่งชุด
แล้วทำไมอาจารย์ถึงเตรียมของขวัญล้ำค่าให้เธอขนาดนี้ล่ะ?
ดูเหมือนของที่ตนเตรียมไว้จะสู้ไม่ได้เลย
หญิงสาวรู้สึกละอายใจ
ซูเสี่ยวเฉ่ายังเตรียมของขวัญให้แก่อีกฝ่ายเช่นกัน เป็นเสื้อผ้าที่อาเถาฮวาช่วยเตรียมให้ แต่ตนยืนกรานว่าจะออกเงินเอง
แล้วก็มีของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องเตรียมไว้สำหรับการรับเป็นญาติ ซึ่งคุณย่าซูช่วยจัดการเรื่องนี้ให้
ทีแรกคิดว่ามันค่อนข้างดีแล้วนะ แต่พอได้เห็นของที่อาจารย์เซี่ยหนานมอบให้ เธอก็ไม่กล้าหยิบมันออกมา
แต่เซี่ยหนานรอบคอบมาก มีหรือจะมองไม่เห็นความลำบากใจของลูก
เธอเพิ่งนึกได้เพราะมัวแต่เตรียมของให้เขาอยู่ วันนี้ลูกเองก็ต้องแสดงความกตัญญูต่อเธอเช่นกัน
ในเมื่อเตรียมไว้แล้ว จึงไม่มีเหตุผลให้ต้องเอากลับไปหรอกนะ
++++++++++++++++++++++++++++