เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 156 แหกพวกหน้าเงิน
เย่เฉินยิ้มน้อยๆ ขณะกดรับสาย
บนหน้าจอมือถือของเขาก็ปรากฏภาพชายชราในวัยช่วงผ่านการฉลองแซยิดคนหนึ่งขึ้น
“ฮัลโหล MR. A!”
เย่เฉินทักทายชายชราในสายวีดีโอคอลตรงหน้า
คนต่างชาติเรียกคนแก่ไม่เหมือนคนจีน
ในประเทศเราจะใช้คำว่าคุณปู่ นอกประเทศจะใช้คำว่ามิสเตอร์ แล้วเรียกชื่อไปเลยตรงๆ ไม่ได้มีลำดับศักดิ์อาวุโสอะไรให้วุ่นวาย
ส่วน A เป็นอักษรตัวแรกของชื่อ เพราะเขาชื่อ Arnauld เย่เฉินจึงเรียกเขาแบบนี้
“คริส ไม่เจอกันนานเลยนะ ขอโทษด้วยเมื่อกี้เข้านอนไปแล้ว เลยไม่ทันได้รับวีดีโอคอลของนาย”
Arnauld พูดด้วยใบหน้าสำนึกผิด
เย่เฉินกล่าวอย่างเกรงใจ “ไม่เป็นไร ผมโทรหาคุณดึกเกินไป รบกวนคุณต่างหาก”
“อย่าพูดแบบนี้เลย นายไม่รู้หรอกว่าฉันคิดถึงเด็กจอมซนแบบนายขนาดไหน! ฮ่าๆ”
“ฮ่าๆ ผมเองก็คิดถึงคุณมากเลยครับ อ้อ จริงด้วย ผมจะแนะนำแฟนผมให้คุณรู้จัก ฉินหงเหยียน”
เย่เฉินสังเกตเห็นฉินหงเหยียนเองก็เข้ามาในกล้อง เขาจึงพอจะรู้ว่าหญิงสาวจะต้องอยากรู้จักลูกพี่ของบริษัทแบรนด์เนมคนนี้แน่ๆ
ดังนั้นถึงได้อาศัยจังหวะนี้แนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน
“อ้อ สวัสดีนะคุณฉิน คุณเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ เลย หมอนี่มันชอบผู้หญิงสวยๆ เหมือนผมเลย ฮ่าๆ!”
Arnauld พูดกระเซ้า เขามีท่าทีดีใจเมื่อเห็นแฟนของเย่เฉิน
ฉินหงเหยียนตื่นเต้นอย่างยิ่ง คนในสายเป็นถึงบิดาของโลกของแบรนด์เนมเลยเชียวนะ!
เมื่อสองเดือนก่อนเขายังเป็น 1 ใน 100 คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก!
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักมากๆ เลยนะคะ สวรรค์ ฉันตื่นเต้นมากเลย คุณเป็นไอดอลของฉันเลยค่ะ!”
ฉินหงเหยียนกระอึกกระอัก บวกกับภาษาอังกฤษของหญิงสาวก็ไม่ถือว่าเก่งอะไรมากนักดังนั้นจึงตื่นเต้นเล็กน้อย
เหวินเชี่ยนเชี่ยนและจินฉ่าวนั่งอยู่ตรงข้ามกับพวกเขาจึงไม่เห็นหน้าจอโทรศัพท์ของเย่เฉิน
และในเวลานี้เองทั้งสองคนก็สบตากันอย่างประหลาดใจ หรือว่าคนในโทรศัพท์ก็คือเจ้าของ LV จริงๆ?
“ฉันไม่เชื่อหรอก! ถ้าเป็น Arnauld จริงๆ ฉันจะกินจานตอนนี้เลย!”
จินฉ่าวชันตัวลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปหาเย่เฉิน พอเห็นชายชราในโทรศัพท์ ก็แข้งขาอ่อนลงทันที
“คุณพระคุณเจ้า…เจ้าของแบรนด์ LV จริงด้วย…”
“OMG! ไอดอล! ไอดอล! ไอดอลผมรักคุณ!”
ในฐานะที่เหวินเชี่ยนเชี่ยนเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมความงาม แค่มองเพียงปราดเดียวก็จำเจ้าของแบรนด์หรูหรานั้นได้
หญิงสาวตื่นเต้นและเลื่อมใสเขาจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ อุทาชื่ออีกฝ่ายออกมาเสียงดัง
เหวินเชี่ยนเชี่ยนฉวยโอกาสนี้แนะนำลิปสติกของตนเอง ถ้าหากได้ร่วมมือกับแบรนด์เนมหรูหราแบบพวกเขาได้ก็จะได้หน้าอย่างมาก!
แต่ว่าในตอนที่เหวินเชี่ยนเชี่ยนกำลังจะเอื้อมมือไปคว้ามือถือของเย่เฉินมานั้นเอง เย่เฉินก็เปลี่ยนมือข้างที่ถือโทรศัพท์ทันที ไม่ยอมเปิดโอกาสให้อีกฝ่าย
“นาย…” เหวินเชี่ยนเชี่ยนหัวเสีย
เย่เฉินไม่สนใจหญิงสาวแต่คุยกับคนปลายสายต่อ “MR. A ผมมีเรื่องจะถาม กระะเป๋าใบนี้ยี่ห้ออะไร?”
เย่เฉินหันกล้องไปทางกระเป๋า LV ของจินฉ่าว
จินฉ่าวตื่นเต้นอย่างมาก“สวรรค์ เจ้าของ LV กำลังดูกระเป๋าของฉัน! ฉันนี่โชคดีจริงๆ!”
ทว่าเขากลับรู้สึกว่าคำถามของเย่เฉินช่างโง่งมเหลือเกิน เขาเป็นถึงเจ้าของแบรนด์ LV จะไม่รู้จักกระเป๋าแบรนด์ตัวเองได้ยังไง?
ก็ดี ในเมื่อเขาไม่เชื่อข้อมูลในป๋ายตู้ ก็ให้เจ้าของแบรนด์แหกหน้านายแล้วกัน!
ทว่าใครจะรู้อีกฝ่ายกลับพูดว่า “แอปเปิ้ล”
ทั้งสามคนบนโต๊ะรวมไปถึงฉินหงเหยียนชะงักไป
แอปเปิ้ล?
ทำไมเขาถึงบอกว่านี่คือกระเป๋าแอปเปิ้ล? นี่มันกระเป๋า LV ชัดๆ!
“ฮ่าๆ คุณยังจำได้เหรอครับเนี่ย”
เย่เฉินพูดพลางหัวเราะ
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว ความหัวรั้นของนายฉันลืมไม่ลงหรอก”
คำพูดนี้ของทั้งสองคนทำให้คนที่เหลือสับสนงุนงงไปหมด
จากนั้นทั้งสองคนก็คุยสัพเพเหระกันต่ออีกเล็กน้อย เย่เฉินก็วางสายไป
หลังจากนั้นเย่เฉินก็ถามจินฉ่าว “ว่ายังไงล่ะ ผมบอกแล้วไงว่ากระเป๋าคุณคือแบรนด์แอปเปิ้ล คุณบอกว่าผมไม่เข้าใจวงการแฟชั่น หรือคุณคิดว่าเจ้าของ LV ก็เป็นเหมือนกันหรือไง?”
จินฉ่าวหัวเสียจนใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิด นี่มันเป็นกระเป๋า LV จริงๆ
แต่ใครจะคาดคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ตนเองพูดถูกแล้วแต่จะโดนฉีกหน้าอย่างแรง อัดอั้นตันใจแต่ไม่สามารถระบายออกมาได้แบบนี้ !
จะกล้าเถียงได้ยังไง?
เจ้าของแบรนด์ LV พูดเองกับปากว่าแอปเปิ้ล!
“นายมันแน่!”
จินฉ่าวกินออเดิร์ฟอย่างหัวเสีย
ส่วนท่าทีที่เหวินเชี่ยนเชี่ยนปฏิบัติต่อเย่เฉินในตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!
หญิงสาวไม่กลับไปนั่งยังที่ของตนเอง แต่ย่อตัวอยู่ข้างๆ เย่เฉิน แล้วถามด้วยท่าทีเคารพนบนอบ
“เย่เฉิน คุณชายเย่ คุณดูคุณสิคะ ซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้เสียมิดเลยนะคะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะสนิทสนมกับเจ้าพ่อวงการแบรนด์เนมขนาดนี้ เขาหลับแล้วยังตื่นมาคุยกับคุณด้วยตัวเอง คุณนี่ใหญ่โตใช้ได้เลย”
เย่เฉินเหลือบแลหญิงสาว เขาใช้ส้อมของตนเองจิ้มลงที่อาหารว่าง
เหวินเชี่ยนเชี่ยนกล่าวตอบด้วยท่าทีนอบน้อม “ได้ยินหงเหยียนบอกว่าคุณอยากทำงานที่เทียนไห่ คุณยินดีทำงานที่บริษัทของฉันไหมล่ะ? ฉันรับคุณทำงานในตำแหน่งรองผู้บริหาร! คุณกับหงเหยียนเป็นรองผู้บริหารของบริษัททั้งคู่เลย ทำงานด้วยกันคงดีมากและแน่นอนว่าฉันน่ะอยากจะอาศัยสายสัมพันธ์ระหว่างคุณกับ MR.A เพื่อช่วยให้แบรนด์ของเราได้มีโอกาสได้ COLLAP กับแบรนด์ของเขา”
เย่เฉินย่อมเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ จึงปฏิเสธทันควัน “ต้องขอโทษด้วยนะครับ เมื่อก่อนผมทำงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ที่อวิ๋นโจว คราวนี้ที่มาเทียนไห่ก็อยากจะส่งอาหารเดลิเวอรี่เหมือนเดิม บริษัทของคุณไม่เหมาะกับผมหรอก”
“เอ่อ…”
เหวินเชี่ยนเชี่ยนยืนนิ่งด้วยใบหน้าเก้อเขิน
ฉินหงเหยียนลุกขึ้นแล้วจับมือเหวินเชี่ยนเชี่ยนพลางกล่าว “เชี่ยนเชี่ยน เธอกลับไปนั่งกินข้าวดีๆ เถอะ เรื่องนี้เดี๋ยวเราค่อยๆ คุยกันทีหลังดีไหม?”
เหวินเชี่ยนเชี่ยนกล่าวพลางระบายยิ้ม “ก็ได้ๆ เพราะไม่ว่ายังไงหงเหยียนเธอก็เป็นรองประธาน เย่เฉินเป็นแฟนเธอไม่มีทางไม่สนใจเธอแน่ ต่อไปโปรเจ็กต์ที่จะ COLLAP กับ LV คงต้องฝากเธอแล้วล่ะ ฮ่าๆ!”
ฉินหงเหยียนส่ายหน้าอย่างเอือมระอา หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้เย่เฉินไม่ใช่คนของตระกูลเย่ อาจจะเป็นเพราะว่า Arnauld ไม่ล่วงรู้เรื่องนี้ ดังนั้นถึงได้เกรงอกเกรงใจเขาแบบนี้
ทว่าไม่ว่าจะพูดอย่างไร อนาคตของฉินหงเหยียนจะต้องทุ่มเทให้บริษัทผลิตภัณฑ์เสริมความงามเหวินเชี่ยน
ฉินหงเหยียนส่งบัตรธนาคารใบหนึ่งให้เหวินเชี่ยนเชี่ยน “เชี่ยนเชี่ยน ในบัตรมีเงินห้าสิบล้านหยวนถือว่าเป็นเงินลงทุนส่วนหนึ่งของฉัน”
เหวินเชี่ยนเชี่ยนไม่อิดออด อย่างไรเสียนี่ถือเป็นการร่วมลงทุน ไม่ใช่ของขวัญ
เหวินเชี่ยนเชี่ยนรับเงินมาอย่างเบิกบานใจกล่าวพลางส่งยิ้ม “ยินดีต้อนรับเธอเข้าสู่การเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทเหวินเชี่ยนเรา พวกเราสองคนร่วมมือกันจะต้องไร้เทียมทานแน่ ฮ่าๆ!”
“มา ชนแก้ว!”
“ชนแก้ว!”
เย่เฉินถือแก้วแล้วกล่าว “เดี๋ยวผมต้องขับรถไปดูบ้านกับหงเหยียนอีก ผมขอใช้น้ำเปล่าแทนเหล้าร่วมฉลองกับพวกคุณ”
“ขอบคุณค่ะคุณชายเย่!”
หลังจากเหวินเชี่ยนเชี่ยนพอจะเห็นเส้นสายของเย่เฉินแล้ว ก็ไม่สนใจอีกแล้วว่าเย่เฉินจะดื่มเหล้าหรือน้ำเปล่า
ส่วนจินฉ่าวก็ไม่กล้าล่วงเกินเขาอีก
หลังจากกินข้าวแล้ว เหวินเชี่ยนเชี่ยนกับจินฉ่าวก็ปลีกตัวไปก่อน เหวินเชี่ยนเชี่ยนเดิมทียังจะทู่ซี้ไปดูบ้านเป็นเพื่อนพวกเขาด้วยซ้ำไป
ทว่าฉินหงเหยียนรู้ว่าหล่อนยุ่งมาก อีกทั้งพวกเขายังต้องไปดูบ้านอีกมากต้องใช้เวลาในการเลือกนาน เลยไม่รบกวนเวลาอีกฝ่าย
หลังจากที่ทั้งสองคนไปแล้ว ฉินหงเหยียนก็ควงแขนแฟนหนุ่มแล้วกล่าว “ที่รักคะ คุณอยากอยู่บ้านแบบไหน? จะเป็นคอนโดหรือวิลล่าดี? คุณเลือกได้ตามสบายเลย ชอบหลังไหนฉันซื้อเอง!”