เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 158 เจอหวังเจียเหยาอีกครั้ง
ทั้งสองคนพูดไปพลางหัวเราะแล้วเดินออกจากวิลล่าที่เพิ่งซื้อใหม่ ขับรถไปที่บูทีคของ POLTRONA FRAU ของเทียนไห่
POLTRONA FRAU เป็นรอยัลแบรนด์ของอิตาลี เมื่อ 100 ปีก่อนพวกเขาก็ทำเฟอร์นิเจอร์ให้ราชวงศ์ของอิตาลี่
ร้อยปีมานี้สามารถพูดได้ว่าราชวงศ์ทั้งยุโรปใช้เฟอร์นิเจอร์แบรนด์นี้
วิลล่าที่ฉินหงเหยียนซื้อมาใหม่นี้ตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรปพอดี
บวกกับที่หญิงสาวเองก็เป็นคนทะเยอทะยาน อยากจะประสบความสำเร็จสักครั้งในเทียนไห่และกลายเป็นราชินีของวงการธุรกิจ แบรนด์นี้เหมาะสมกับหญิงสาวอย่างที่สุดแถมเย่เฉินยังเป็นคนเลือกให้หญิงสาวเองด้วย
เตียงของแบรนด์นี้มีมูลค่าหลายหมื่นไปถึงหลายแสน สัมผัสสบายอย่างยิ่ง
ก่อนจะมาเย่เฉินก็โทรศัพท์มานัดล่วงหน้าเอาไว้แล้ว จึงมีเซลล์ผู้หญิงออกมาต้อนรับด้วยตนเอง
“คุณและคุณนายเย่ คุณลองดูเตียงนี้นะคะ เตียงนี้ออกแบบโดย ROBERTO LAZZERONI โดยใช้หนังแกะคัดพิเศษของ FRAU มาบุเตียงค่ะโดยที่ทางคุณลูกค้าสามารถเลือกสีเองได้ ส่วนบริเวณหัวเตียงสามารถสามารถสั่งทำเล็กใหญ่และเลือกรูปแบบมุมหัวเตียงได้ ตอนนี้กำลังจัดโปรโมชั่นมีมูลค่าเพียง 99999 หยวน”
เย่เฉินปรายตามองเล็กน้อยก็รู้สึกว่าดีไซน์เตียงดีมากทีเดียว
ใช้เงินแสนหยวนเพื่อซื้อเตียงหนึ่งหลัง ถึงแม้ว่าจะฟุ่มเฟือยมากไปเสียหน่อย แต่เงินนี้เป็นเงินของจินฉ่าวจึงไม่ต้องเสียดาย
เย่เฉินทรุดตัวนั่งลงลองสัมผัสดู “สบายมากทีเดียว คุณจะลองเอนตัวดูไหม?”
ฉินหงเหยียนกอดอก ขณะยืนอยู่ข้างเตียงแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข “ไม่ต้องหรอกแค่คุณชอบก็พอแล้ว”
ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงอายุ 30 ปีไม่เหมือนกับเด็กผู้หญิงอายุสิบกว่าขวบ
ถ้าหากเป็นเด็กสาวอายุเพียงสิบกว่าขวบจะซื้อเตียงล่ะก็ คาดว่าคงจะกระโดดขึ้นเตียงไปแล้ว แต่คนที่วางมาดเป็นนางพญาอย่างหล่อนก็ไม่ย่อมไม่อยากจะทำเรื่องเหมือนเด็กๆ
ในเมื่อฉินหงเหยียนไม่อยากจะลอง หน้าที่ที่เหมือนจะดูเป็นเด็กๆ ก็ยกให้เย่เฉินเป็นคนจัดการก็แล้วกัน
เย่เฉินนั่งลงบนเตียงแล้วลองทดสอบความนุ่มของฟูก “ฟูกนี่สบายใช้ได้เลย”
ทว่าในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง
“หน้าไม่อาย! หญิงโฉดชายชั่ว!”
สีหน้าฉินหงเหยียนฉายแววโทสะ เย่เฉินเองก็หันไปมอง
พวกเขาสองคนตกตะลึงไป
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อ!
คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินและหวังเจียเหยาจะมาพบกันอีกครั้งในเทียนไห่!
หวังเจียเหยาสวมชุดกระโปรงสีขาว บนตัวกระโปรงปักไข่มุกสีเงินกระจายเต็มกระโปรง ดูเป็นนางฟ้าเหมือนอย่างเคย
กำไลข้อมือ ตุ้มหู ทำให้เจ้าตัวดูเป็นลูกคุณหนูที่บอบบางร่ำรวย
เย่เฉินสังเกตที่นิ้วนางของหวังเจียเหยา หญิงสาวสวมแหวนอยู่และแน่นอนว่าแหวนที่หญิงสาวสวมใส่อยู่นั้น ไม่ใช่แหวนที่เจ้าหล่อนได้มาจากเย่เฉิน
นี่แสดงให้เห็นว่าหวังเจียเหยาตกปากรับคำจะแต่งงานกับหลิ่วอวี่เจ๋อ!
“เธอก็ยังสวยแบบนั้นเหมือนเดิม”
เย่เฉินทอดถอนใจ ส่วนท้องของหญิงสาวยังไม่นูนจนเห็นเด่นชัดนัก ยังเหมือนเด็กสาวทั่วๆ ไป
ถ้าหากไม่รู้เรื่องที่หวังเจียเหยาเคยทำมาก่อน แค่เจอหน้าครั้งแรกเขาก็น่าจะชอบหญิงสาวกระมัง?
เย่เฉินลุกออกจากเตียงแล้วถาม “คุณมาอยู่ที่เทียนไห่ได้ยังไง?”
เย่เฉินยังคิดว่ากิ่นที่เด็กจะคลอด หวังเจียเหยาจะอยู่ที่อวิ๋นโจวเพื่อเตรียมผดุงครรภ์ อย่างไรเสียมารดาของหญิงสาวก็อยู่ที่นั่นคงจะดูแลหญิงสาวได้ดี
หลิ่วอวี่เจ๋อเองก็ประหลาดใจมาก คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเย่เฉินและฉินหงเหยียนที่นี่
ตอนนี้เขาไม่สามารถมีลูกได้ เย่เฉินเป็นคนน่าสงสัยที่สุด แต่หลิ่วอวี่เจ๋อก็เคยคิดมาก่อน ว่าเรื่องนี้จะใช่ฝีมือของเย่เฉินหรือเปล่า?
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามแผนการของเขาก็จะไม่เปลี่ยนไป
“ฮ่าๆ เย่เฉินคิดไม่ถึงเลยว่าแกจะมากล้าโผล่หัวมาที่นี่”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวพลางหัวเราะเหยียดหยาม
ที่นี่คืออาณาเขตของเขา เขาย่อมไม่กลัวเย่เฉิน!
เย่เฉินหัวเราะด้วยท่าทีดูหมิ่น “ทำไมฉันจะไม่กล้ามา?”
หลิ่วอวี่เจ๋อแค่นเสียงเย็นชา เขาไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาโอหังรุนแรงต่อหน้าคนอื่น
เขาเดินไปบริเวณเตียงที่เย่เฉินสนใจแล้วถามเซลล์หญิง “เตียงนี่ราคาเท่าไหร่?”
เซลล์คนนั้นกล่าวตอบ “หนึ่งแสน”
หลิ่วอวี่เจ๋อหัวเราะ “ใช้ได้นี่หว่า เย่เฉินถังแตกแล้ว ยังใช้เงินมือเติบอีก ใช้เงินแสนซื้อเตียงหลังเดียว”
ฉินหงเหยียนกล่าว “เย่เฉินไม่มีเงินแต่ฉันมี พวกเราอยากซื้อของแพงเท่าไหร่ก็ได้ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”
หลิ่วอวี่เจ๋อมองฉินหงเหยียนด้วยแววตาเหยียดหยาม “ก็แค่เบี้ยรองกระดาน คุณเองก็โดนปลดออกจากตำแหน่งผู้บริหารไม่ใช่เหรอไง? ตอนนี้พวกคุณสองคนก็เป็นพวกคนตกงานสองคน!”
จากนั้นหลิ่วอวี่เจ๋อก็หันไปถามเซลล์สาว“มีเตียงกี่หลัง?”
เซลล์ตอบ “เตียงหลังนี้มีแค่หลังเดียวค่ะ ถ้าคุณผู้ชายอยากได้ล่ะก็ต้องจองก่อนนะคะ ประมาณหนึ่งสัปดาห์ก็มาถึงค่ะ”
หลิ่วอวี่เจ๋อก่นด่า “ใครจะไปรอแม่งได้ตั้งสัปดาห์! ฉันจะซื้อเตียงใช้สำหรับงานแต่งงาน! งั้นฉันจะซื้อในราคาห้าแสนก็แล้วกัน!”
“เอ่อ…” เซลล์มีท่าทีลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้ามีคนใช้เงินซื้อของในราคา 5 เท่าของราคาขาย คุณขายให้เขาเถอะครับ ยังไงเสียพวกเราก็ไม่ใช่ว่าจะต้องซื้อเตียงนั้นให้ได้เสียหน่อย”
เย่เฉินและฉินหงเหยียนเพิ่งเริ่มดูเตียง จึงต้องใช้เวลาเลือกต่อสักหน่อย
ในเวลานี้หวังเจียเหยาก็เดินมาแล้วลากหลิ่วอวี่เจ๋อไปอีกทาง “ที่รัก พวกเราไม่ต้องซื้อเตียงหลังนั้นหรอกค่ะ เย่เฉินนั่งลงบนเตียงนั้นไปแล้ว สกปรก!”
หลิ่วอวี่เจ๋อระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“จริงด้วยสกปรกแล้ว!”
เพิ่งจะด่าเขาและฉินหงเหยียนเป็นหญิงโฉดชายชั่ว ตอนนี้บอกว่าเขาทำเตียงสกปรก เขาทนไม่ไหวแล้ว !
เย่เฉินย้อนถามหวังเจียเหยา “คุณหมายความว่ายังไง? ผมสกปรกยังไง?”
หวังเจียเหยาก็เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมา “นายยังมีหน้ามาถามอีก! นายแอบเล่นชู้กับน้องสาวฉัน ยังไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็ทิ้งหล่อนมาเกาะฉินหงเหยียนแล้ว! ฮึ ฉันว่า เมื่อสองเดือนก่อนนายกับฉินหงเหยียนคงจะคบหากันตั้งนานแล้วล่ะมั้ง? ฉันก็ว่าเลิกงานอะไรดึกๆ ดื่นๆ ได้ทุกวี่วัน! พลอดรักกันในห้องทำงานล่ะสิ!”
“คุณ…”
ฉินหงเหยียนโดนอีกฝ่ายยั่วโมโห ผู้หญิงสารเลวคนนี้ทั้งๆ ที่คนทำผิดก่อนเป็นหล่อนแท้ๆ คนที่ไปมีชู้ก่อนก็คือหล่อน
แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าหล่อนจะด่าว่าเย่เฉินสกปรก แถมยังใส่ร้ายความสัมพันธ์ของเย่เฉินและฉินหงเหยียน!
เย่เฉินกล่าว “ผมกับฉินหงเหยียนไม่มีอะไรกัน พวกเราคบหากันหลังจากที่ผมหย่ากับคุณแล้วต่างหาก! แต่คุณกับหลิ่วอวี่เจ๋อต่างหากที่แอบพบปะกันตอนที่ยังแต่งงานกับผม คนหน้าไม่อายคือพวกคุณต่างหาก!”
หลิ่วอวี่เจ๋อชี้นิ้วใส่เย่เฉิน “แกจะพูดอะไรให้มันระวังปากหน่อย ที่นี่คือเทียนไห่นะ!”
ฉินหงเหยียนกล่าว “เทียนไห่แล้วมันจะทำไม? เทียนไห่ไม่ใช่ที่ที่ตระกูลหลิ่วของพวกคุณจะใช้มือข้างเดียวปิดฟ้าได้เสียหน่อย!”
เซลล์ที่ในตอนยืนตัวแข็งก็รีบร้อนเดินมาไกล่เกลี่ยกับพวกเขาสองคน “คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงคะ พวกคุณอย่าใจร้อนเลยนะคะมีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จาเถอะค่ะ”
ทั้งสี่คนต่างก็เป็นกลุ่มคนที่ถือว่าเป็นชนชั้นสูงในสังคม แต่มาทะเลาะกันในร้านเฟอร์นิเจอร์จะไปต่างอะไรกับเหล่าแม่ค้าในตลาด?
ดังนั้นพวกเขาถึงได้เงียบปากลง
ฉินหงเหยียนกล่าว“พวกเราซื้อเตียงหลังนี้เองค่ะ เดี๋ยวฉันจะจ่ายเงินตอนนี้เลย”
ในเมื่อหวังเจียเหยาไม่อยากได้เตียงหลังนี้ ฉินหงเหยียนก็คิดจะรีบๆ ซื้อให้เสร็จๆ จะได้รีบออกจากร้าน
ไม่อยากจะทะเลาะกับพวกเขาที่นี่
เซลล์กล่าว “ได้ค่ะ คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าคุณอยู่ที่ไหนคะ? พวกเราจะได้ให้คนส่งของไปให้คุณค่ะ”
ฉินหงเหยียนกล่าว“พวกเราอยู่ที่วิลล่าเฝยชุ่ย…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลิ่วอวี่เจ๋อและฉินหงเหยียนที่กำลังจะเดินออกไปก็เดินกลับมา
หลิ่วอวี่เจ๋อถามด้วยใบหน้าตื่นตระหนก “พวกคุณพักอยู่ที่วิลล่าเฝยชุ่ยเหรอ? พวกคุณไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง!”
วิลล่าเฝยชุ่ยเป็นบ้านของหลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยาเช่นกัน!