เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 166 หวังเจียเหยายอมรับแล้ว!
เย่เฉินพูดไม่ออก!
ผมเนี่ยนะไม่ลืมคุณ? ผมจะคุกเข่าขอร้องคุณ?
คุณเป็นฝ่ายผิดชัดๆ!
หวังเจียเหยาคนนี้ เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้ ยังเย่อหยิ่ง แถมยังคิดเองเออเองอยู่ได้!
เพราะซ่งหงเย่มีชู้ หญิงสาวก็ได้รับบทเรียนที่สาสมไปแล้ว คราวก่อนที่เจอกันในร้านเฟอร์นิเจอร์ก็พอจะมองออกว่า หล่อนไม่ได้มีสง่าราศีแบบที่ผ่านมา
เจ้าตัวยังคงมีชีวิตสบายเหมือนเดิม!
ไม่มีเย่เฉิน หล่อนยังมีหลิ่วอวี่เจ๋อ แถมหลิ่วอวี่เจ๋อก็เป็นคนร่ำรวยเหมือนกัน หนำซ้ำยังทะนุถนอมเจจ้าหล่อนมากกว่าเขา
เป็นผู้หญิงที่เคยทำเรื่องชั่วช้าไม่ควรจะมีจุดจบที่ดีแบบนี้!
เย่เฉินกล่าวกับหวังเจียเหยาด้วยน้ำเสียงโมโห “หวังเจียเหยา คุณช่วยเลิกหลงตัวเองที! ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะต้องบูชาคุณไปทั้งชีวิตเพียงแต่ว่าคุณสวยหรอกนะ! แฟนผมคนปัจจุบันอย่างฉินหงเหยียนด้อยกว่าคุณตรงไหน? สวยกว่าคุณ บุคลิกดีกว่าคุณ แถมยังฉลาดกว่าคุณ รู้จักดูแลคนอื่นมากกว่า แถมยัง…”
เพี้ยะ!
เย่เฉินพูดไวมากแต่ยังไม่ทันพูดจบ มือนวลเนียนของหวังเจียเหยาก็สะบัดขึ้นมา
“นายหุบปากไป! นายมันคนสารเลว!”
หวังเจียเหยาเป็นคนขี้อิจฉา แต่ไหนแต่ไรมาเชื่อมั่นเสมอว่าตนเองเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุด หญิงสาวไม่อาจจะยอมรับการที่อดีตสามีของตนเองดูถูกตนเองแล้วชื่นชมผู้หญิงคนอื่น
ความเย่อหยิ่งโอหังของหวังเจียเหยาทำให้เย่เฉินไม่พอใจอย่างยิ่ง!
หวังเจียเหยามีสิทธิ์อะไรมาตบหน้าเขา!
เย่เฉินง้างมือขึ้น แล้วตบลงบนใบหน้าหวังเจียเหยาเบาๆ!
เพี้ยะ!
ฝ่ามือเพียงเบาๆ ประทับลงใบหน้างดงามของหวังเจียเหยาในชุดเจ้าสาวสีขาว
“โอ้ย”
หวังเจียเหยาอุทานเสียงเบา น้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาในเบ้าตา หญิงสาวกุมหน้ารู้สึกอับอายอย่างมาก หญิงสาวมองชายหนุ่มด้วยแววตาเจ็บปวด
เย่เฉินเห็นน้ำตาที่ไหลซึมจากหัวตาของหวังเจียเหยา ก็รู้สึกไม่สบายใจ
เขาไม่มองหญิงสาวอีก เสสายตาหลบแล้วกล่าว
“คุณ…ไม่มีสิทธิ์ตบผม คราวหน้าอย่าลงมือทำร้ายผมแบบนี้อีก ผมไม่ใช่สามีของคุณอีกแล้ว”
หวังเจียเหยากุมหน้าแล้วกล่าว “เย่เฉิน นายมันคนไร้หัวใจ!”
เย่เฉินไม่ตอบ
หวังเจียเหยาปาดน้ำตาแล้วกล่าวต่อ “เย่เฉิน ฉินหงเหยียนหางานไม่ได้เป็นเพราะฉันบอกให้หลิ่วอวี่เจ๋อทำแบบนี้เอง นายไม่ต้องหาเรื่องสามีฉัน ถ้าอยากล้างแค้นล่ะก็ลงที่ฉันแล้วกัน!”
“คุณเนี่ยนะ?” เย่เฉินมองหวังเจียเหยาใหม่อีกครั้ง
หวังเจียเหยาพูดด้วยโทสะ “ใช่ ฉันนี่แหละ นายไม่กล้ายอมรับว่านายยังรักอยู่ แต่ฉันกล้า! ฉันยอมรับว่าฉันยังชอบนายอยู่ ฉันเห็นนายอยู่กับฉินหงเหยียนฉันไม่พอใจ! อีกทั้งพวกนายยังอยู่ข้างบ้านฉันอีก! แค่คิดแบบนี้ฉันก็นอนไม่หลับแล้ว! ฉันอยากให้ฉินหงเหยียนหางานไม่ได้ ให้หล่อนอับจนหนทาง ให้หล่อนต้องซมซานออกจากเทียนไห่! ออกไปจากสายตาฉัน!”
เย่เฉินคิดไม่ถึงว่าหวังเจียเหยาที่กลายเป็นภรรยาของหลิ่วอวี่เจ๋อแล้ว จะยังกล้าพูดว่าชอบตนเองอยู่
ความหึงหวง ความเป็นศัตรู ที่หวังเจียเหยามีต่อฉินหงเหยียนนั้นหยั่งรากลึก
หวังเจียเหยากล่าว “เย่เฉิน หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีต่ำช้าเพื่อหาเรื่องฉินหงเหยียน นายต้องรู้นะ ด้วยอิทธิพลของตระกูลหลิ่วในเทียนไห่ สามารถทำให้พวกนายมีชีวิตอยู่ในเทียนไห่อย่างยากลำบาก กระทั่งกินข้าวยังลำบากเลย! พวกเราเลือกใช้การทำงานมาสู้กับพวกนาย ถ้าหากว่านายอยากจะทวงความยุติธรรมให้แฟนตัวเอง ก็ไปอาศัยหน้าที่การงานของตัวเองมาล้างแค้นพวกเรา เหมือนเมื่อก่อนตอนที่นายกับหลิ่วอวี่เจ๋อปั่นหุ้นกันน่ะ! นั่นถึงจะเป็นวิธีการของลูกผู้ชาย ไม่ได้เหมือนพวกอันธพาลที่มาโหวกเหวกที่บ้านคนอื่น! สิ่งที่นายทำอยู่มันเป็นนิสัยคนขี้แพ้!”
เย่เฉินมองหวังเจียเหยา “คุณบอกว่าผมเป็นคนขี้แพ้หรอ?”
หวังเจียเหยาแค่นเสียง “หรือว่าไม่ใช่หรือไง? เก่งมากนายก็ไปหาผู้บริหารพวกนั้นของบริษัท ให้พวกเขาจ้างฉินหงเหยียนของนายสิ! มีความสามารถมากพวกนายก็เปิดบริษัทเองแล้วเลี้ยงดูฉินหงเหยียนสิ! แพ้กันในหน้าที่การงาน แล้วทำได้แค่มาระบายอารมณ์แบบนี้ ไม่ใช่พวกขี้แพ้เหรอ? เย่เฉินนายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงยืนยันแน่วแน่ว่าจะหย่ากับนาย? ไม่เพียงแต่เพราะว่าเรื่องของหยวนหยวน สาวน้อยอย่างหล่อนเอาแต่อยากเอาชนะฉัน หล่อนจงใจนอนกับนายเพื่อทำให้ฉันโกรธก็เป็นไปได้ ดังนั้นที่ฉันหย่ากับนายก็ไม่ใช่เพราะนายไม่มีเงิน แต่เพราะฉันไม่เห็นความหวังอะไรจากนาย! นายไม่รู้จักแสวงหาความก้าวหน้า!”
“คุณมันโกหก!”
เย่เฉินด่าหวังเจียเหยา!
“ผมไม่รู้จักแสวงหาความก้าวหน้าเหรอ? ตอนนั้นผมโดนไล่ออกจากตระกูลไม่กี่วัน คุณก็ตัดสินใจจะทิ้งผมไปแล้ว! คุณมันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยินดีต่อสู้ฝ่าฝันไปกับสามี! แถมยังประโยคใช้ในเวยป๋อมาดูหมิ่นผม! หวังเจียเหยาคุณไม่ได้มีความสามารถในการตัดสินใจถูกผิดเลยเถอะ! เห็นกงจักรเป็นดอกบัว! คำพูดไร้ศีลธรรมพวกนั้นของซ่งหงเย่คุณเชื่อฟังเหมือนเป็นพระคัมภีร์เชียว! ชีวิตแต่งงานของพวกเราล่มเพราะความโง่ของคุณ!”
หวังเจียเหยาโกรธจนน้ำหูน้ำตาไหล ไม่กล้าลงมือทำร้ายเขาอีก แต่ผลักอดีตสามีเบาๆ “นายสิโง่!”
เย่เฉินหัวเสีย “เหอะ ให้ผมใช้หน้าที่การงานมาล้างแค้นพวกคุณเหรอ ได้! คุณสบายใจได้เลยผมจะไม่เป็นฝ่ายไปหาหลิ่วอวี่เจ๋อก่อนแล้ว”
หวังเจียเหยาไม่ได้รู้เลยว่าที่เย่เฉินมาหาเขาที่บ้าน เพื่อสอบถามเรื่องราวถือว่าเป็นการเมตตาเขาแล้ว!
เพราะถ้าเขาโดนเย่เฉินสั่งสอนสักยก ชายหนุ่มก็คงจะคลายโทสะแล้วไม่หาเรื่องเขาอีก
การล้างแค้นที่จะโหดร้ายอย่างแท้จริงก็คือการล้างแค้นในธุรกิจหรือส่วนตัวของเย่เฉิน!
เพราะเย่เฉินจะทำให้อีกฝ่ายสิ้นเนื้อประดาตัว!
ให้ภรรยาเศรษฐีอย่างหวังเจียเหยาไม่เหลืออะไรเลย!
หวังเจียเหยาหันหลังไปมอง เห็นประตูยังปิดสนิทอยู่ไม่มีแขกคนไหนออกมาดู
แต่หล่อนไม่อยากจะทะเลาะกับเย่เฉินต่อ ในเมื่อเย่เฉินรับปากแล้วว่าจะไม่ใช้วิธีแบบนี้มารบกวนสามีของตนเองก็เพียงพอแล้ว
หวังเจียเหายและเย่เฉินเงียบไปสิบกว่าวินาทีแล้วถึงจะปรับสภาพอารมณ์กันได้
จากนั้นหวังเจียเหยาก็กล่าว “นายคิดให้ดีๆ แล้วกัน ฉันไม่อยากทะเลาะกันายอีกต่อไป ฉันกลัวว่าลูกเราจะได้ยินเสียงทะเลาะกันของพ่อกับแม่แล้วจะไม่อยากมาที่โลกใบนี้”
หวังเจียเหยาก้มหน้าลงแล้วลูบท้องตนเองเบาๆ
คำพูดนี้ของหวังเจียเหยาทำให้เย่เฉินใจอ่อนลง เขาถึงขนาดรู้สึกผิด คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแย่ๆ ต่อหน้าลูกของตนเอง
จริงด้วยถ้าหากให้ลูกได้ยินเข้า ลูกน้อยคงคิดว่าโลกใบนี้มันสกปรกโสโครกล่ะมั้ง?
ถ้าหากลูกเลือกได้ ก็คงจะไม่เลือกมาที่โลกใบนี้
หวังเจียเหยาหมุนตัวกลับไปที่วิลล่า
“รอก่อน”
จู่ๆ เย่เฉินก็เรียกหวังเจียเหยาแล้วกล่าว “มีอยู่เรื่องหนึ่ง ผมอยากอธิบายกับคุณก่อน วันนั้นผมกับหยวนหยวนไม่มีอะไรกัน”
เขาไม่รู้ว่าคำพูดนี้จงใจจะอธิบายกับหวังเจียเหยาฟัง หรือว่าจะบอกลูกในท้องหญิงสาว
เขาหวังว่าไม่ว่าจะใครก็ตาม ก็น่าจะช่วยกันรักษาความน่าอยู่ของโลกใบนี้
อย่าได้รู้สึกว่าโลกใบนี้มีเพียงแค่ความชั่วร้ายเลวทราม
ดังนั้นเขายินดีจะพูดความจริงออกมา เพื่อให้หวังเจียเหยาและเด็กในท้องได้รับรู้!
ใครจะรู้ว่าหวังเจียเหยากลับหัวเราะเสียงเจ้าเล่ห์ “นอนด้วยกันแล้วไม่ได้ทำอะไรกัน? เหอะ นายคิดว่าฉันจะโง่เหมือนนายแล้วเชื่อคำพูดเหลวไหลแบบนี้ได้หรือยังไง?”
เพิ่งพูดจบหวังเจียเหยาก็เสียใจภายหลัง หวาดกลัว ตกตะลึงแล้วใช้มืออุดปากทันที