เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 167 เย่เฉินนายสู้สามีของฉันไม่ได้หรอก
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 167 เย่เฉินนายสู้สามีของฉันไม่ได้หรอก
หวังเจียเหยาเผลอหลุดปากพูดออกมา!
แต่เย่เฉินรู้ความจริงนานแล้ว!
วินาทีก่อนเย่เฉินเพิ่งจะตั้งใจว่าจะไม่ทะเลาะกับอีกฝ่ายเพื่อลูกน้อยในท้องหล่อน
แต่ในวินาทีนี้ คำพูดที่หญิงสาวกล่าวชวนให้โมโหสุดๆ!
เย่เฉินชี้หวังเจียเหยาอย่างมีอารมณ์โมโห “หวังเจียเหยา ในที่สุดคุณก็ยอมรับว่าเคยนอนกับฟางเชาแล้วล่ะสิ!”
หวังเจียเหยารู้ว่าเวลาตอนนี้ไม่ว่าหล่อนจะพูดอะไรก็ไร้ประโยชน์
ทว่าตอนนี้หวังเจียเหยาไม่ใช่ภรรยาของอีกฝ่ายอีกต่อไป เจ้าหล่อนจึงไม่สนใจเขา
หวังเจียเหยากล่าว “ยอม..ยอมรับแล้วจะทำไม! ใช่ วันนั้นที่โรงแรมเจียหัวฉันนอนกับฟางเชา!”
“แล้วทำไมต้องหลอกผม!?” หน้าเย่เฉินแดงก่ำ
หวังเจียเหยาตะคอก “ไม่หลอกนายแล้วนายจะยกโทษให้ฉันหรือไง? นายใจแคบแบบนี้ ถ้าบอกความจริงนาย นายก็ต้องรังเกียจฉันแน่”
“ผมใจแคบเหรอ? คุณคิดว่าคุณควรได้การอภัยจากผมเหรอ?!” เย่เฉินย้อนถาม
หวังเจียเหยากล่าว “ใช่ นายมันคนใจแคบ! เปรียบเทียบกับสามีของฉันแล้ว นายเป็นผู้ชายใจแคบคิดเล็กคิดน้อย ไม่ใจกว้างแม้แต่น้อย! ตอนนี้ฉันตั้งท้องลูกของนาย อวี่เจ๋อก็ดีกับฉันมาก อีกทั้งยังทะนุถนอมฉัน ดูแลฉันเหมือนเป็นเด็กน้อยๆ เลย เปลี่ยนเป็นนาย ฮึ นายรับได้เหรอถ้าฉันท้องลูกของคนอื่นแล้วคบหากับนาย?”
เย่เฉินพูดไม่ออก เมื่อไหร่กันที่โลกใบนี้เริ่มมาเปรียบเทียบใครสูงใครต่ำต้อย ใครประจบประแจงเก่งกว่ากัน!
ต่อให้หลิ่วอวี่เจ๋อทำแบบนี้จริงๆ แปลว่าเขาทำแบบนี้ถูกแล้วเหรอ?
ดีกับผู้หญิงถือว่าถูกต้องแล้วเหรอ?
งั้นก็ต้องดูว่าหล่อนเป็นผู้หญิงแบบไหน!
ยิ่งไปกว่านั้นหลิ่วอวี่เจ๋อไม่ใช่คนโง่ เขาเป็นคุณชายเจ้าชู้ หวังเจียเหยาเป็นผู้หญิงใสซื่อ รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ!
เย่เฉินกล่าว “ก็ได้ ผมยอมรับ ผมทำไม่ได้ แต่ผมขอเตือนคุณไว้ก่อนนะ หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ใช่ผู้ชายที่ดีอะไรนักหรอก ทางดีคุณอย่าตกหลุมรักในมันลึกเกินไป!”
หวังเจียเหยากล่าวอย่างดูหมิ่น “นายเลิกอิจฉาสามีฉันเถอะย่ะ! สามีฉันเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก! ดีกว่านายร้อยเท่า พันเท่า หมื่นเท่า! ดีกับฉันมากกว่านาย ใจกว้างกว่านาย นายไม่ได้หนึ่งในพันในหมื่นของเขาด้วยซ้ำ!”
เมื่อครู่เย่เฉินกล่าวว่าหวังเจียเหยาด้อยกว่าฉินหงเหยียนในทุกด้าน ถ้าคราวนี้หวังเจียเหยาอยากจะล้างแค้นโดยบอกว่าเขาด้อยกว่าหลิ่วอวี่เจ๋อทุกด้าน
ผู้หญิงต่างก็เจ้าคิดเจ้าแค้นทั้งนั้น!
พูดจบหวังเจียเหยาก็ยกกระโปรงขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในวิลล่า
หลังจากทะเลาะกับหวังเจียเหยาแล้ว เย่เฉินก็หัวเสียอย่างมาก!
เขาไม่สามารถทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของหวังเจียเหยาได้ หญิงสาวสามารถทำให้อารมณ์เขาเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย!
“หวังเจียเหยา หลิ่วอวี่เจ๋อ คู่สามีภรรยาอย่างพวกคุณไม่คู่ควรจะมีจุดจบที่ดี!”
เย่เฉินกำหมัดแน่นแล้วเดินออกจากวิลล่าไป
เพิ่งจะเดินจากไปแต่แหงนหน้ามองโดยไม่ได้ตั้งใจ ทันใดนั้นเองก็พบว่าเหนือศีรษะของตนเองมีโดรนลอยอยู่
เย่เฉินรู้ได้เลยว่าโดรนตัวนี้อาจจะเป็นของหลิ่วอวี่เจ๋อ เขาอาจจะจงใจส่งโดรนออกมาเพื่อจะสอดแนมดูเขาและหวังเจียเหยาที่อยู่ด้านนอก
“แม่งเอ้ย!”
เย่เฉินโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง เขาหยิบก้อนหินขึ้นมาแล้วโยนใส่โดรน!
โครม!
หินก้อนนั้นลอยไปอย่างรวดเร็ว โดรนตัวนั้นก็ร่วงลงบนพื้นทันที!
จากนั้นเย่เฉินก็เดินกลับไปที่วิลล่าของตนเอง
แต่เพิ่งจะเดินกลับไปก็ได้รับข้อความมา
เป็นหลิวเจิ้งคุนส่งมา
“ขอโทษด้วยนะครับนายท่าน โดรนอยู่ใกล้คุณไปใช่ไหมครับ ทำให้คุณโมโห นายท่านอย่าโกรธเลยนะครับ!”
เมื่อเห็นเนื้อหาในข้อความ เย่เฉินก็อุทานด้วยความแปลกใจ “โดรนเป็นของหลิวเจิ้งคุนเหรอเนี่ย?”
เย่เฉินหันไปมองรอบๆ แล้วพบว่ารอบๆ บริเวณนี้ไม่มีแม้แต่เงาของหลิวเจิ้งคุน
“หลิวเจิ้งคุนอยู่อวิ๋นโจวไม่ใช่เหรอ? หรือว่าเขาก็ตามมาเทียนไห่ด้วยเหรอ?”
เย่เฉินกดโทรศัพท์
“นายท่านขอโทษครับ!”
ทันทีที่รับสาย หลิวเจิ้งคุนก็กล่าวขอโทษเย่เฉินทันที เพราะเห็นภาพจากโดรนทำให้เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคุณชายของเขาในตอนนี้หัวเสียขนาดไหน
เย่เฉินเองก็แค่โกรธภรรยาเก่า เมื่ออยู่ต่อหน้าภรรยาเก่าเขามักจะฟิวส์ขาดบ่อยๆ
เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเย่เฉินมักจะสะกดอารมณ์ตัวเองได้อยู่เสมอ
เย่เฉินกล่าวเสียงเย็นชา “นายอยู่เทียนไห่เหรอ? มาทำอะไรที่เทียนไห่? ใช้โดรนมาสอดแนมฉันเหรอ?”
หลิวเจิ้งคุนรีบร้อนตอบ “มิกล้าๆ นายท่านครับ ผมส่งโดรนมาสอดแนมหลิ่วอวี่เจ๋อครับ”
“อ้อ?”
เย่เฉินสงสัย เพราะว่าเขาไม่ได้สั่งให้อีกฝ่ายทำเช่นนี้
หลิวเจิ้งคุนกล่าว “ตั้งแต่รู้ว่านายท่านกับคุณฉินมาใช้ชีวิตอยู่ที่เทียนไห่ ผมก็เดาได้ว่าเจ้าเด็กหลิ่วอวี่เจ๋อจะหาเรื่องคุณ”
“ดังนั้นผมก็เลยล่วงหน้ามาดูเขา ดูว่าจะเจอข้อมูลฉาวๆ อะไรบ้างไหม”
เย่เฉินรู้สึกได้เลยว่า หลิวเจิ้งคุนจงใจประจบประแจงตนเอง จึงอยากจะช่วยทำนั่นทำนี่ให้ตนเอง
เย่เฉินถาม “งั้นนายสอดแนมมาหลายวันนี้ได้อะไรมาบ้าง?”
หลิวเจิ้งคุนกล่าว “หมอนี่ไม่ได้มีนิสัยอะไรไม่ดีนะครับ ส่วนเรื่องผิดกฎหมายตอนนี้ยังไม่เจอ ทว่าเขายังผู้หญิงอีกคนหนึ่งแถมยังเป็นดาราลับหลังหวังเจียเหยาชื่อเหม่ยฉี!”
“เหม่ยฉี?”
เย่เฉินชะงักไป เย่เฉินเคยเจอดาราคนนี้ที่บริษัทของเหวินเชี่ยนเชี่ยน เจ้าหล่อนเป็นพรีเซ็นเตอร์ของผลิตภัณฑ์เสริมความงามของเหวินเชี่ยน
วันนั้นเย่เฉินกับเหม่ยฉีแค่เจอกันผ่านๆ เท่านั้น
หล่อนหน้าตาใช้ได้ มากความสามารถและอายุน้อย
เพราะเย่เฉินไม่เคยฟังหล่อนร้องเพลง และเล่นละคร
ส่วนเรื่องหน้าตานั้น เมื่อเทียบกับหวังเจียเหยาและฉินหงเหยียนแล้วก็ถือว่าทั่วๆ ไป
ดังนั้นเย่เฉินจึงจำเหม่ยฉีได้ไม่ลึกซึ้งนัก
“ใช่ครับ เหม่ยฉี คืนวานหลิ่วอวี่เจ๋อและเหม่ยฉีก็เจอหน้ากัน รถเขย่าเชียวครับ!” หลิวเจิ้งคุนกล่าว
เย่เฉินแค่นเสียงแล้วแอบพูดในใจ “หวังเจียเหยาเอ้ยหวังเจียเหยา นี่คือผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกของคุณเหรอ! เขาประคบประหงมคุณเหมือนเป็นลูกสาวตัวเอง เขาใจกว้าง เขามีเงิน! แต่ว่าคุณจะรู้ไหมในคืนก่อนที่จะแต่งงานกัน เขายังไปมั่วผู้หญิงคนอื่นอยู่เลย!”
เดิมทีหวังเจียเหยาและสามีของหล่อนจะเป็นคนแบบไหน เป็นเรื่องของหล่อน เย่เฉินไม่สนใจ
แต่หลิ่วอวี่เจ๋อกลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่ดันมาล่วงเกินฉินหงเหยียน แต่หวังเจียเหยาก็ยังเชื่อมั่นในตัวเองอย่างโง่งม รู้สึกว่าตนเองแต่งงานกับสามีที่ดี
อย่างนั้นแล้วเย่เฉินจึงตั้งใจจะเอาให้สองคนนั้นให้เละเทะ!
เย่เฉินถาม“ถ่ายรูปได้ไหม?”
หลิวเจิ้งคุนหัวเราะอย่างมีเลศนัย “แน่นอนสิครับ นายท่าน ผมเตรียมไว้ให้คุณนานแล้ว!”
หลิวเจิ้งคุนส่งของขวัญที่ชวนให้เย่เฉินประหลาดใจ เขารู้สึกว่าหลิวเจิ้งคุนซื่อสัตย์กับตนเองอย่างมากจึงกล่าว
“ต่อไปนายอย่าเรียกฉันว่านายท่าน ฟังแล้วประหลาดชะมัด เรียกคุณชายเย่ หรือไม่ก็เรียกว่าคุณชายสามเหมือนพ่อบ้านฟางก็ได้ ถ้าหากว่ามีคนนอกอยู่ด้วยเรียกชื่อได้เลย”
“ครับ คุณชายเย่!”
หลิวเจิ้งคุนตื่นเต้นอย่างมาก เขารู้ว่าเปลี่ยนสรรพนามการเรียกนั่นแปลว่าเขาเชื่อใจตนเองเหมือนเชื่อใจพ่อบ้านฟาง!
หลิวเจิ้งคุนถาม “คุณชาย จะปล่อยภาพพวกนั้นตอนนี้เหรอครับ? เหม่ยฉีเป็นดาราดังเลยนะครับ มีเวยป๋อที่คนติดตามสิบล้าน ถ้าข่าวหลุดออกไปจะต้องติดฮอตเสิร์ชแน่เลย!”
เย่เฉินถาม “งานแต่งงานของหวังเจียเหยากับหลิ่วอวี่เจ๋อยังไม่เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการใช่ไหม”
“ครับ เริ่มตอนเที่ยงครับ แขกยังอยู่โรงแรมอยู่เลยครับ” หลิวเจิ้งคุนตอบ
เย่เฉินกล่าว “ตอนเที่ยง ตอนที่พวกเขากำลังจัดงานแต่งงานกันให้นายปล่อยภาพออกมาตอนนั้นเลย!”