เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 189 สวี่ฉู่หมิงประกาศความเป็นเจ้าของ
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 189 สวี่ฉู่หมิงประกาศความเป็นเจ้าของ
ณ วิลล่าเฝยชุ่ย บ้านข้างฉินหงเหยียนและเย่เฉิน
หลิวอวี่เจ๋อเองก็กลับบ้านมาในสภาพที่เมามายโดยได้บอดี้การ์ดประคองเขามาที่บ้าน ใบหน้าของเขาฉีกยิ้มกว้าง
ทันทีที่ผลักประตูเข้ามาก็กล่าวกับภรรยา
“ฮ่าๆ โดนสวมเขาแล้ว โดนสวมเขาแล้ว!”
หวังเจียเหยาเองรู้สึกหวาดระแวงเหมือนโดนจับได้ว่าตนเองทำผิด เพราะเมื่อครู่เจ้าหล่อนเพิ่งอาศัยจังหวะช่วงที่หลิวอวี่เจ๋อไม่อยู่บ้านใช้เย่เฉินล้างแค้นสามีตนเองมา
“นาย…นายพูดอะไรน่ะ”
หวังเจียเหยากำลังดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก เห็นอีกฝ่ายกลับบ้านมาจึงปิดทีวี
หลิ่วอวี่เจ๋อระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ผมบอกว่าเจ้าเด็กเย่เฉินโดนสวมเขาอีกแล้ว ฮ่าๆ เด็กน้อยที่น่าสงสาร ตัวเองมีสภาพยังไงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอเนี่ย? ไปมีแฟนเป็นคนทั่วไปก็ไม่มีอะไรแล้ว แต่ดันคบหากับผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมอย่างคุณและฉินหงเหยียน ฮ่าๆ เขาจะไม่ถูกสวมเขาได้ยังไง?”
“บนอินเตอร์เน็ตมีคำพูดไม่ใช่เหรอไง? บอกว่าคนจนอย่างหวังจะงาบคนสวย ไม่เชื่อให้ลองไปถามบัณฑิตอู มีเงินทองแต่งงานแล้วก็ต้องระวัง… เอ๊ะ ประโยคต่อไปคืออะไรนะ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อที่ยังมีฤทธิ์แอลกอฮอล์ เขานั่งลงข้างๆ หวังเจียเหยาแล้วอยากจะกอดหญิงสาวเอาไว้
หวังเจียเหยายังตั้งท้อง และรังเกียจกลิ่นแอลกอฮอล์ของหลิ่วอวี่เจ๋อ จึงผลักเขาออก
“ฉันจะรู้ได้ยังไง? มือของนายยังเจ็บอยู่เลย ทำไมดื่มเยอะแบบนี้ล่ะ จริงสิ นายบอกว่าฉินหงเหยียนไปเปิดห้องกับสวี่ฉู่หมิงหรอ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อส่ายหน้า “เปล่านะ สวี่ฉู่หมิง เขาอายุจะห้าสิบกว่าแล้ว แก่จนทำอะไรไม่ได้แล้ว ดื่มเหล้าไปนิดหน่อย ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ต่อให้ไปโรงแรมก็คงนอนทันทีที่หัวถึงหมอน ฉินหงเหยียนกลับมาแล้ว แม่นี่คอแข็งดีจริงๆ ผมกับพี่ชายมอมหล่อนไปตั้งเยอะ แต่เจ้าหล่อนไม่เมาเลยแถมยังทำเราสองคนพี่น้องไปอ้วกที่ห้องน้ำมาตั้งหลายหน”
“อุ๊บ…”
ในขณะที่หลิ่วอวี่เจ๋อพูดก็อยากจะอ้วกขึ้นมา
หวังเจียเหยารีบร้อนลากเขาไปห้องน้ำ
ใบหน้าหวังเจียเหยาฉายแววรังเกียจ ขณะมองหลิ่วอวี่เจ๋อคุกเข่ากอดชัดโครกอ้วกแตก
หญิงสาวลอบกล่าวกับตนเอง “ไร้ประโยชน์จริงๆ! ตอนนั้นฉันตาบอดไปชอบเขาได้ยังไงเนี่ย? เคยแต่งงานมาสามรอบถึงได้รู้ว่าเย่เฉินดีที่สุดเลย…”
หวังเจียเหยาอดนึกถึงเรื่องของตนเองและเย่เฉินที่เกิดเมื่อครู่ไม่ได้ แล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้า
……
8 โมงเช้าวันต่อมา เย่เฉินและฉินหงเหยียนกำลังกินข้าวเช้าด้วยกัน วันนี้เย่เฉินไม่ได้ไปทำงาน เพราะว่ามีเรื่องต้องจัดการมากมาย
ฉินหงเหยียนกินข้าวเช้าไปพร้อมกับเล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย
เย่เฉินเหลือบมองหน้าจอมือถือของหญิงสาว เห็นที่หล่อนกำลังไถหาร้านอาหารแล้ววถาม “คุณดูอะไรอยู่?”
ฉินหงเหยียนกล่าวว่า “วันนี้คุณจะเลี้ยงข้าวสวี่ฉู่หมิงไม่ใช่เหรอ? ฉันจะช่วยคุณเลือกร้านไงคะ เขาคนนั้นน่ะเรื่องมาก ถ้าคุณเลือกร้านอาหารที่ธรรมดาเกินไปเขาจะดูถูกคุณ”
เรื่องเงินไม่จำเป็นต้องให้เย่เฉินต้องเป็นกังวล เพราะยังไงเสียหล่อนก็มีเงิน เขาจะเลือกร้านอาหารแพงๆ ร้านไหนในเทียนไห่ก็ได้ พอถึงตอนนั้นฉินหงเหียนก็แค่โอนเงินให้ชายหนุ่ม ให้เขาเอาไปจ่ายก็เป็นอันใช้ได้
เย่เฉินกล่าวพลางหัวเราะ “ไม่ต้องหรอกครับ ผมเลือกสถานที่ที่จะไปกินข้าวได้แล้วล่ะ”
“ฮะ? คุณไปเลือกตอนไหนกันคะ? จองที่ไหนไว้?” ฉินหงเหยียนวางมือถือแล้วถาม
ชายหนุ่มตอบ “แม่น้ำหวงผู่”
ฉินหงเหยียนไม่ประหลาดใจแต่อย่างใด “ที่ว่ายทานน่ะเหรอคะ? ฉันเองก็อยากจะจองที่นั่นพอดี คุณจองร้านไหนไป?”
เย่เฉินวางตะเกียบแล้วอธิบาย “ไม่ใช่ร้านที่ว่ายทาน แต่เป็นแม่น้ำหวงผู่ ในแม่น้ำหวงผู่น่ะ”
“ในแม่น้ำหวงผู่เหรอ? บนแม่น้ำมีร้านอาหารอะไรเหรอ?” ฉินหงเหยียงุนงง
“กินบนเรือสำราญน่ะสิ” เย่เฉินบอก
ฉินหงเหยียนถึงได้เข้าใจ “อ้อ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ล่องเรือในแม่น้ำหวงผู่เพื่อชมวิวกินข้าวใช่ไหมคะ? ฉันคิดก่อนนะคะ ที่นั่นเหมือนจะมีเรือสำราญที่เช่าได้ ราคาอาจจะแพงนิดหน่อยแต่ว่าคุณไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเลยนะคะ ในเมื่อคุณชอบที่นั่น เราก็ไปกินข้าวที่นั่นกันเถอะ!”
ฉินหงเหยียนรู้สึกว่าสถานที่ที่แฟนของตนเองเลือกนั้นค่อนข้างสร้างสรรค์มากทีเดียว
ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในโลกไปพร้อมๆ กับดื่มด่ำกับอาหารเลิศรส จะต้องเป็นชีวิตที่หรูหราอย่างที่สุด สวี่ฉู่หมิงเองก็อาจจะไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน
ดังนั้นฉินหงเหยียนจึงไปโทรหาสวี่ฉู่หมิง
“ฮัลโหล เมื่อวานไม่ได้ดื่มเยอะใช่ไหม?” ฉินหงเหยียนถามไถ่
สวี่ฉู่หมิงเป็นคนที่เคยชินกับการตื่นเช้า ตอนนี้น่าจะเริ่มทำงานในห้องเพรสซิเด้นท์สูทในโรงแรม peninsula แล้ว
“อ้อ ไม่เลย ไม่ได้เจอเธอมานาน เลยดื่มเยอะไปหน่อย”
สวี่ฉู่หมิงถอดแว่นตาลงแล้วมองไปนอกหน้าต่าง
“เอ่อแฟนฉันอยากจะขอบคุณที่คุณช่วยเคลียร์ปัญหากับตระกูลหลิ่วให้เขาเลยอยากจะเลี้ยงข้าวคุณ คุณว่างไหมคะ?” ฉินหงเหยียนถาม
หลังจากที่กล่าวประโยคนี้ออกมาแล้ว ในใจของหล่อนก็ภาวนาว่า “อย่ารับปากเชียว อย่ารับปากเชียว”
เพราะตนเองรู้จักชายผู้นี้ เขามีประสบการณ์ในชีวิตอย่างมาก เขามีวิธีการเป็นร้อยที่จะรับมือกับคนอายุน้อยอย่างเย่เฉิน
และเป็นไปได้อย่างมากว่าหลังจากที่เย่เฉินกินข้าวกับอีกฝ่ายแล้ว เขาก็อาจจะกลับมาเป็นฝ่ายขอเลิกกับหล่อนแทน
เหมือนบทละครในซีรี่ย์เรื่อง ‘The bachelor’
สวี่ฉู่หมิงที่อยู่ในโรงแรมประหลาดใจในทันที “แฟนเด็กของฉินหงเหยียนกล้าชวนฉันกินข้าวด้วยเหรอเนี่ย? ”
ที่จริงแล้วต่อให้เย่เฉินไม่นัดเขา เขาก็จะเป็นฝ่ายนัดเอง
เหมือนฉากในซีรี่ย์ไม่มีผิดเพี้ยน ที่ชายที่อายุมากกว่าจะคุยกับผู้อ่อนวัยกว่าอย่างใจเย็น แต่ใช้เหตุผลแปลกประหลาดทั้งหลายทั้งแหล่ เพื่อให้ชายอ่อนวัยกว่าสำนึกได้ว่าเขาไม่คู่ควรฉินหงเหยียน ให้เขารู้ตัวแล้วเป็นฝ่ายล่าถอยไปเอง
ขอแค่เป็นผู้ชายที่หยิ่งในศักดิ์ศรีต่างก็ทนรับการโดนดูถูกแบบนี้ไม่ได้
ถ้าหากว่าเป็นผู้ชายที่ไม่รักในศักดิ์ศรีแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็คงจะไม่มีทางไปจะไปจากฉินหงเหยียน แต่มันก็จะทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นก็แค่ใช้เงินฟาดหัวเขา หรือไม่ก็ข่มขู่เขาก็เป็นอันใช้ได้แล้ว
สวี่ฉู่หมิงกล่าวพลางหัวเราะ “ผมว่าง ที่ไหนล่ะ?”
“ที่แม่น้ำหวงผู่ค่ะ” ฉินหงเหยียนตอบ
“เอ๋? ในแม่น้ำหวงผู่อ่ะเหรอ? เรือส่วนตัวเหรอ? หรือว่าเรือที่คนเยอะแยะไปหมดแบบนั้นล่ะ? ถ้าหากว่าต้องกินข้าวในเรือสำราญแบบนั้นผมไม่ไปกินหรอกนะ ไม่ว่าอย่างไรผมก็เป็นประธานบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีทางให้หมอนั่นมาดูถูกได้นะ”
สวี่ฉู่หมิงมีอคติกับเย่เฉิน เขาตัดสินแล้วว่าอีกฝ่ายมีดีแค่อายุยังน้อยและหล่อเหลาเท่านั้น ไม่ได้มีข้อดีข้ออื่น ดังนั้นจึงด่วนตัดสินไปก่อนแล้วว่าสถานที่ที่อีกฝ่ายเลือกจะต้องเป็นสถานที่ระดับล่าง
ฉินหงเหยียนจึงตอบ “ไม่หรอก เป็นเรือส่วนตัว”
สวี่ฉู่หมิงยังคงขมวดิ้ว “เรือที่เช่าโดยราคาไม่กี่หมื่นล่ะสิ? เรือแบบนั้นฉันเคยเห็นมาก่อนพุผังยับเยิน อะไหล่ในนั้นคงไม่ได้เปลี่ยนมานานแล้ว แถมยังไม่สะอาดด้วย เอาแบบนี้แล้วกันในเมื่อเขาอยากจะกินอาหารชมวิวว่ายทาน ฉันก็จะเอาเรือมาเองแล้วกัน ฉันมีเรือสำราญราคาห้าสิบล้านจอดอยู่ที่เทียนไห่พอดี คืนนี้ไปกินที่เรือฉันแล้วกัน!”
สีหน้าฉินหงเหยียนไม่สู้ดี “ฉู่หมิงอาหารเย็นมื้อนี้แฟนฉันเป็นคนนัด ก็ควรจะเป็นแฟนฉันที่เป็นคนเลี้ยงและเตรียมสถานที่ คุณขับเรือตัวเองมาแบบนี้มันแปลว่ายังไง?”
สวี่ฉู่หมิงตอบ “หงเหยียน เธอก็รู้จักฉัน สถานที่ในระดับล่างๆ แบบนั้น ฉันไม่ไปหรอกนะ หลายปีที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ตลอด เธอก็ช่วยคิดเผื่อฉันหน่อย เธอคิดว่าเรือเก่าๆ พังๆ ราคาไม่กี่แสนแบบนั้น มันสมฐานะคนอย่างฉันหรือไง? ไม่ต้องพูดแล้ว คืนนี้ฉันจะเป็นคนเลี้ยง แฟนเธอกับเธอมากินที่ข้าวที่แม่น้ำผู่เจียง ถ้าเขาคิดว่าขายหน้ามากล่ะก็ให้เอาเหล้ามาสักขวดแล้วกัน! เอาแบบนี้แล้วกันฉันวางล่ะ”
พูดจบสวี่ฉู่หมิงก็กดตัดสาย