เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 209 หลบในตู้เสื้อผ้า
เป็นเสียงของหลิ่วอวี่เจ๋อ!
หวังเจียเหยาตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีทันที!
สีหน้านั้นเหมือนที่ตอนที่พบว่าตัวเองโดนเย่เฉินจับได้ว่าไปเปิดห้องที่โรงแรมกับฟางเชาไม่มีผิดเพี้ยน!
เย่เฉิน ‘โชคดี’ ที่ได้เห็นสีหน้าเดียวกันนี้จากหวังเจียเหยาอีกครั้ง!
เขาอดคิดถึงตอนนั้นไม่ได้ ภาพเหตุการณ์ที่พอเขาฝันถึงเมื่อไหร่ต้องสะดุ้งตื่นทุกครั้ง!
เพียงแต่ว่าครั้งก่อนเย่เฉินอยู่ที่ด้านนอกโรงแรม เขาเป็นคนที่โดนไล่
แต่คราวนี้เย่เฉินเป็นคนที่อยู่ในโรงแรม เขาในตอนนี้กลายเป็น ‘ฟางเชา’ ในตอนนั้นแทน !
เย่เฉินหันมองหวังเจียเหยา ตอนนี้หญิงสาวสวมชุดนอนสายเดี่ยวเบาบาง แต่งตัวยั่วยวนเปิดเผย
ถ้าหากว่าตอนนี้หลิ่วอวี่เจ๋อเข้ามาเห็นพวกเขาสองคน จะต้องเข้าใจไปว่าพวกเขาลอบคบหากันแน่!
หวังเจียเหยาย่อมคิดถึงจุดนี้เช่นกัน! ดังนั้นหล่อนจึงลนลานอย่างมาก!
ตอนนั้นที่หวังเจียเหยาถูกเย่เฉินจับได้ว่าแอบมีชู้ หล่อนเพียงแค่ตกใจเล็กน้อย แล้วในวินาทีต่อมาก็ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกลับกันยังมาตำหนิเย่เฉินด้วย
แต่ว่าวันนี้กลับต่างกันออกไป หล่อนไม่มีทางตำหนิหลิ่วอวี่เจ๋อแน่นอน ในทันทีที่เขารู้ว่าหล่อนทรยศเขาล่ะก็ ตระกูลหลิ่วต้องไม่ปล่อยหล่อนไปแน่!
อีกทั้งทั้งตระกูลหวังของของหล่อนก็จะต้องพลอยซวยไปด้วย!
หวังเจียเหยารีบร้อนดึงเย่เฉินแล้วกล่าวเสียงเบา “เย่เฉิน สามีของฉันกลับมาแล้ว นายรีบไปหาที่หลบก่อนเร็ว เรื่องนี้อธิบายยาก ถ้าเขาเห็นเราสองคนในสภาพนี้จะต้องเข้าใจผิดแน่!”
เย่เฉินลังเลว่าจะช่วยหล่อนดีหรือไม่!
ที่จริงแล้วหลิ่วอวี่เจ๋อตามตอแยหญิงสาวตอนที่พวกเขาสองคนกำลังเป็นสามีภรรยากัน เดิมเย่เฉินเองควรจะตอบสนองอีกฝ่ายด้วยการกระทำแบบเดียวกัน
แต่ถ้าหากว่าปล่อยให้หลิ่วอวี่เจ๋อเข้าใจผิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน เช่นนั้นแล้วหลิ่วอวี่เจ๋อจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกฉินหงเหยียนแน่นอน
พอถึงตอนนั้นแล้วถ้าฉินหงเหยียนถามเย่เฉินขึ้นมา แล้วเขาจะตอบหญิงสาวว่ายังไง?
ก็จริงอยู่ที่วันนี้เขาไม่ได้ทอำอะไรกับหวังเจียเหยา แต่วันนั้นล่ะ?
เขาไม่อาจะโกหกหญิงสาวได้ หากหล่อนรู้ว่าเขาทำเรื่องผิดต่อหล่อน ไม่เชื่อใจหล่อน หล่อนจะต้องเสียใจมากแน่!
“ขอร้องล่ะ” หวังเจียเหยามีท่าทีน่าสงสาร
ย่เฉินกล่าวพลางส่ายหน้า “ก็ได้”
ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำไปเพื่อช่วยหวังเจียเหยา แต่เพื่อไม่ให้ฉินหงเหยียนเสียใจ!
ในที่สุดหวังเจียเหยาก็โล่งอก ลากเย่เฉินไปที่ข้างเตียงแล้วชี้ไปตรงนั้นพลางกล่าว “นายไปหลบใต้เตียงไป”
เย่เฉินรีบปฏิเสธทันควัน “ผมไม่หลบใต้เตียงพวกคุณนะ!”
ในสายตาเขานี่คือเรื่องน่าอายและดูหมิ่นศักดิ์ศรีกันอย่างมาก
“งั้นนายไปหลบในตู้เสื้อผ้าไปสิ”
หวังเจียเหยาจัดแจงยัดเขาเข้าไปในตู้เสื้อผ้า
“ที่รักครับ คุณอยู่ไหม?”
หลิ่วอวี่เจ๋อที่อยู่ด้านนอกเรียกภรรยาสาวอีกครั้ง
“เร็วๆ รีบเข้าไป”
หวังเจียเหยาเร่งรัดเขา โชคดีที่ตู้เสื้อผ้าห้องเพรสซิเดนท์สูทมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เย่เฉินจึงสามารถซ่อนตัวได้อย่างง่ายดาย
“นายซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าไปก่อน อย่าเอะอะล่ะ ทุกคนจะได้ไม่ซวย”
หวังเจียเหยากำชับเย่เฉินอีกรอบ
“รู้แล้วน่า” เย่เฉินปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วซ่อนตัวอยู่ด้านในเงียบๆ
เมื่ออยู่ในพื้นที่มืดมิดเล็กๆ เย่เฉินก็โอดครวญในใจ “แม่งเอ้ย ฉันเป็นถึงคุณชายตระกูลเย่ คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะต้องมาหลบในตู้เสื้อผ้าในห้องพักของโรมแรมคนอื่น แถมคนซ่อนยังเป็นภรรยาเจ้าของห้องอีกต่างหาก หมดคำจะพูด!”
ตอนนี้หวังเจียเหยาก้าวไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
เพิ่งจะเปิดประตู หลิ่วอวี่เจ่อก็ย้อนถามอย่างหงุดหงิด “ทำไมนานจังกว่าจะเปิดประตู…”
แต่ยังไม่ทันพูดจบ เมื่อเห็นชุดของหวังเจียเหยา หลิ่วอวี่เจ๋อก็ตกตะลึงไป “ที่รัก…คุณสวยจังเลย”
หวังเจียเหยาตั้งใจแต่งตัวอย่างประณีตเพื่อจะลอบนัดพบกับเย่เฉิน ดังนั้นเกรงว่าต่อให้หลิ่วอวี่เจ๋อที่เห็นหล่อนทุกวันก็ยังต้องตกใจในความสวยของหญงสาว
“ที่รัก คุณซื้อชุดนอนตัวนี้เมื่อไหร่ครับ? ทำไมไม่เคยเห็นคุณใส่มาก่อนเลย?”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวถาม
เย่เฉินที่หลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าได้ยินคำถามของหลิ่วอวี่เจ๋อ ลอบกล่าวกับตนเองในใจ
“ชุดตัวนี้เราเป็นคนซื้อให้หล่อนเอง หลังจากที่แต่งงานกับหมอนั้นแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังไม่ทิ้งแถมยังไม่เคยใส่ให้เขาดูมาก่อน”
เย่เฉินประหลาดใจเล็กน้อย
“แค่ก…” หวังเจียเหยาอึกอักเฉไฉถาม “ที่รัก ทำไมคุณกลับมาเช้าขนาดนี้? นี่มันเพิ่งสี่ทุ่มเอง พวกคุณจะกินเหล้ากันถึงเที่ยงคืนไม่ใช่เหรอ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อยังไม่อธิบาย แต่เมื่อเห็นหวังเจียเหยาที่สวยปานนางฟ้าก็ตรงดิ่งเข้าไปอุ้มหล่อน
“ว้าย นายจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ”
หวังเจียเหยากลัวมาก เพราะหลิ่วอวี่เจ๋ออุ้มหล่อนพลางเดินเข้าไปด้านใน
ยิ่งเดินเข้าไปด้านในเท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้เย่เฉินเข้าไปทุกที!
เย่เฉินสัมผัสได้ว่าสองคนนั้นกำลังเดินมาทางเขา! เขาเองก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมา!
ทว่าเห็นได้ชัดว่าหลิ่วอวี่เจ๋อไม่ได้สังเกตว่าเพิ่งมีผู้ชายคนอื่นเข้ามาในห้อง
เขาอุ้มหวังเจียเหยาเพียงเพื่อจะอุ้มหล่อนไปที่เตียงนอนเท่านั้น
แค่ได้ยินเสียงเย่เฉินก็เดาออกว่าหลิ่วอวี่เจ๋อตั้งใจจะทำอะไร
ทว่าหวังเจียเหยากลับผลักสามีออกแล้วกล่าว “นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่าทำไมกลับมาเร็วจัง”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ผมกลับมาเอาของ”
พูดจบก็จุมพิตแฟนสาวของตนเอง
“มาเอาของอะไร?” หวังเจียเหยายังคงผลักอีกฝ่ายออก
ชายหนุ่มตอบกำกวมอีกครั้ง “กุญแจ”
“กุญแจอะไร?” หวังเจียเหยาเซ้าซี้
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวว่า “กุญแจของสนามกอล์ฟอวี๋ซาน”
หวังเจียเหยาพอจะรู้ว่าหวังเจียเหยาและเพื่อนกลุ่มนั้นของเขามักจะไปตีกอล์ฟกันที่นั่น
“กุญแจอะไรของสนามกอล์ฟเหรอคะ?” หวังเจียเหยายังถามต่ออีก
หลิ่วอวี่เจ๋อดูอ้ำๆ อึ้งๆ อย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้จะทำยังไงเลยพูดต่อ
“ที่นั่นมีตู้ส่วนตัวของพวกเรา กุญแจอยู่ที่ผม พรุ่งนี้ข่ายจื่อจะกลับประเทศแต่เช้าไปเอาของในตู้ ดังนั้นผมเลยกลับมาเอากุญแจไปให้เขา”
หวังเจียเหยาดูมีท่าทีสงสัย “ตู้ส่วนตัวเหรอ? ใส่อะไรไว้เหรอคะ?”
ไม่ได้มีแค่หวังเจียเหยาที่สงสัย กระทั่งเย่เฉินเองก็ยังสงสัยเมื่อได้ยิน!
สนามกอล์ฟมีตู้ส่วนตัวอะไรกัน? ถึงจะมีทำไมพวกเขาหลายคนถึงใช้ร่วมกัน?
อีกทั้งกุญแจยังมีแค่ดอกเดียวแถมยังฝากไว้ที่คนๆ เดียว!
เย่เฉินเดาว่าหลิ่วอวี่เจ๋ออาจจะมีความลับที่บอกใครไม่ได้กับเพื่อนชาติชั่วพวกนั้น เขาเอาแต่ใช้วิธีสะอาดเพื่อทำให้หลิ่วอวี่เจ๋อโดนลงโทษ
ดังนั้นเย่เฉินจึงแง้มประตูตู้ออกเป็นรอยผ่านเล็กๆ เพื่อดูสีหน้าหลิ่วอวี่เจ๋อ
เย่เฉินเคยเรียนจิตวิทยาและอ่านสีหน้า เขาสามารถตัดสินได้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นจริงหรือเท็จจากสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา!
หลิ่วอวี่เจ๋ออ้ำๆ อึ้งๆ “ก็พวกของแบรนด์เนมที่พวกเราเอามาจากที่ต่างๆ ทั่วโลก”
เย่เฉินตัดสินจากสีหน้าอีกฝ่ายว่าที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องโกหก!
“ดูแล้วหลังจากกลับไปคงต้องแอบไปรื้อตู้พวกเขาดู”
เย่เฉินลอบกล่าว
ในตอนนี้เขาดีใจมากที่เจอความลับของหลิ่วอวี่เจ๋อได้ขณะที่ซ่อนอยู่ในตู้!
แต่ความลับเล็กๆ นี้อาจจะสามารถล้มหลิ่วอวี่เจ๋อหรืออาจจะถึงขั้นล้มทั้งตระกูลหลิ่วได้เลย!
แต่ว่าในวินาทีนี้เขามองเห็นทั้งสองคนนั้นกำลังจุมพิตกันอย่างดูดดื่มผ่านทางรอยแยกของตู้