เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 229 ฉินเสี่ยวตั่วที่ร้องไห้อย่างทุกข์ทรมาน
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 229 ฉินเสี่ยวตั่วที่ร้องไห้อย่างทุกข์ทรมาน
ในวินาทีที่ได้ยินเสียงปืน หญิงสาวก็ตกใจจนแข้งขาอ่อน
ที่บริเวณด้านนอกประตูเย่เฉินเองก็ตกใจเช่นกัน เพราะเขาเองก็พอจะรู้อยู่ว่าประชากรในประเทศอเมริกาสามารถครอบครองปืนได้
แต่ว่าปกติสถานที่ที่ตกอยู่ในความวุ่นวายคือพื้นที่ของคนยากจน สถานที่อย่างเช่น manhattan คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก
แต่ในตอนนี้คิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในโรงแรมหรูหราอย่าง Ritz Carton
“ไม่ได้มาตั้งหลายปี คิดไม่ถึงว่ากระทั่งโรงแรมห้าดาวก็จะไม่ปลอดภัยเหมือนกัน”
โชคดีที่เย่เฉินตามมา ไม่อย่างนั้นหากว่าฉินเสี่ยวตั่วเป็นอะไรขึ้นมา ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหล่อน แถมยังเป็นชาวเอเชียอีกจะทำยังไง?
คนที่ยิงปืนเป็นชายผิวขาว เขายิงปืนฆ่าคนตาย แล้วมองเห็นเย่เฉินกำลังยืนอยู่ที่ด้านนอกประตูของฉินเสี่ยวตั่ว ก็เลยเดินมาทางนี้ แล้วยกปืนขึ้นมา!
“Hey Bro, Calm down, Calm down! (เฮ้ไอ้หนุ่ม ใจเย็นๆ!)”
เย่เฉินใช้เสียงปลอบสติอีกฝ่ายให้สงบลง แล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบโทรศัพท์ออกมา
ส่วนฉินเสี่ยวตั่วที่อยู่ในห้องโรงแรม หลังจากที่ได้ยินแล้วก็เอ่ยถามขึ้นมาในทันที “เย่เฉิน ด้านนอกเกิดอะไรขึ้น? มีคนยิงปืนหรือเปล่า? รีบเข้ามาก่อน เดี๋ยวฉันจะเปิดประตูให้นาย!”
ฉินเสี่ยวตั่วเปิดประตูออกมาในทันทีแต่เย่เฉินกลับเรียกเอาไว้ “อย่าเปิดประตู! ล็อคประตูให้ดีๆ อย่าออกมา!”
ฉินเสี่ยวตั่ว “เย่เฉิน…”
วินาทีนี้ฉินเสี่ยวตั่วอยากจะร้องไห้ ทว่าแม้แต่น้ำตายังไม่กล้าจะปล่อยให้ไหลออกมา
วินาทีนี้หล่อนถึงได้รู้ว่า ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่พวกนั้นที่หล่อนชื่นชอบ ผู้ชายที่ทำให้หล่อนรู้สึกปลอดภัย ก็ยังไม่มีประโยชน์
ถ้าหากคนที่อยู่ด้านนอกคือหลิ่วอวี่เจ๋อ เกรงว่าคงจะกลัวฉินเสี่ยวตั่วเป็นตัวถ่วงเขา คงจะทุบประตูอย่างสุดแรงเกิด เพื่อให้ฉินเสี่ยวตั่วเปิดประตูให้เขาเข้าไปด้านใน
แต่ว่าเย่เฉินกลับเป็นห่วงความปลอดภัยของหล่อน เห็นแก่ความปลอดภัยของหญิงสาวมากกว่าตัวเอง!
แต่เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่าถ้าไม่ไหวก็อย่าดันทุรังเลย
เย่เฉินทำแบบนี้ก็เป็นเพราะเขาฝึกฝนวิชาป้องกันตัวตั้งแต่เด็ก แล้วยังเคยไปที่สงครามจริงๆ มาก่อน เคยต่อสู้กับคนมีอาวุธด้วยมือเปล่า เขาเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน
เมื่อมองเห็นชายตรงหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ได้มีท่าทีจะฟังคำเตือนของเย่เฉินแม้แต่น้อย
เย่เฉินหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา ควานๆ เล็กน้อย แล้วโยนออกมาทันที!
เย่เฉินคล่องแคล่วปราดเปรียว เล็งมุมได้อย่างแม่นยำ ถ้าหากว่ามีคนดูอยู่ข้างๆ จะต้องตกตะลึงแน่นอน
มือถือบินตรงไปยังส่วนใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม
แต่ในเวลาเดียวกันที่โยนมือถือออกไปนั้น เย่เฉินก็ถอดนาฬิกาข้อมือตรงมือซ้ายของเขาอย่างรวดเร็ว
เย่เฉินออกไปไหนมาไหนหากว่าเขาไม่ได้พกอาวุธ ก็จะต้องสวมใส่นาฬิกา เหตุผลที่เขาสวมใส่นาฬิกาแตกต่างไปจากพวกผู้ชายที่สวมนาฬิกาเพื่อบ่งบอกฐานะ ส่วนตัวเขาใส่เพื่อป้องกันตัวเอง
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ใส่นาฬิกาสายหนัง เขาเป็นคนใส่นาฬิกาโลหะ
เพราะเมื่อโยนนาฬิกาสายโลหะออกไปถึงจะสามารถกระแทกข้อมือให้เกิดการเจ็บปวด ในวินาทีที่ทำสำเร็จนั้นก็จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะซื้อเวลาให้ตนเอง
นาฬิกาข้อมือของเขานี้พิเศษอย่างยิ่ง ขอแค่ตบลงก็จะสามารถหลุดออกมาเองได้
แล้วเขาก็โยนนาฬิกาข้อมือที่หนักอึ้งออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วครั้งนี้ก็ปานาฬิกาใส่มือที่กำลังกำปืนของอีกฝ่ายอยู่
ฝ่ายตรงข้ามโดนปามือถือใส่ตา ในเวลาเดียวกันกับที่ดวงตาถูกกระทบกระเทือน เขาก็ยิงปืนโดยไม่รู้ทิศทาง ผลคือนาฬิกากระแทกใส่มือเขาอย่างรวดเร็ว จนปืนร่วงลงบนพื้น
อริยาบทพวกนี้เหมือนจะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที
เย่เฉินตีลังกาไปหาเขาแล้วเตะปืนไปอีกฝั่ง จากนั้นก็ต่อยเขาจนล้มไป
คนปกติแล้วเมื่อไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ยังไม่ได้ตั้งตัว เลยโดนหมัดทั้งสองข้างของเย่เฉินประเคนใส่หน้าเข้าจังๆ ต่อให้เป็น Tyson ตอนอยู่ในช่วงพีคๆ ก็อาจจะไม่ได้สติ
จากนั้นเย่เฉินเรียกให้พนักงานบริการที่หลบไปตั้งแต่แรกให้มาเก็บกวาดสถานที่ รอจนตำรวจมาแล้วส่งพวกตำรวจมาเฝ้าโรงแรม เย่เฉินถึงได้เคาะประตูของเสี่ยวตั่วอีกครั้ง
ก๊อกๆ
ฉินเสี่ยวตั่วเปิดประตู เห็นเย่เฉินเดินเข้ามาอย่างปลอดภัย ก็โผเข้าไปกอดชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
“ขอบคุณสวรค์ ที่นายไม่เป็นอะไร ฮือๆ…. ถ้านายเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะบอกพี่สาวฉันยังไง พี่สาวฉันจะต้องเสียใจตายแน่นอน”
เย่เฉินไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อน
เย่เฉินลูบผมฉินเสี่ยวตั่วเบาๆ แต่ก็เกรงใจเกินกว่าจะกอดหล่อนแน่นๆ เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวตั่ว นี่ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมล่ะ? ต่อให้เป็นอะไร แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกันและก็ไม่ได้คุ้นเคยกัน คุณไม่ต้องร้องไห้ให้ผมจนมีสภาพแบบนี้ก็ได้”
เย่เฉินเห็นเฉินเสี่ยวตั่วร้องไห้หนักแบบนี้จึงตื้นตันอย่างมาก นี่แปลว่าน้องสะใภ้ค่อนข้างจะชอบตัวเอง
ฉินเสี่ยวตั่วสะอึกสะอื้นแล้วกล่าว “นายไม่เข้าใจ ฉันกับพี่สาวไม่สามารถเผชิญกับการสูญเสียคนในครอบครัวได้อีกแล้ว”
“พ่อของฉันโดนคนฆ่าตายตอนอยู่เมืองนอก”
“หรอ?” เย่เฉินตกใจ
เขาเองพอรู้มาว่าพ่อของสองคนพี่น้องเสียชีวิตตอนอยู่ต่างประเทศ
แต่ไม่ได้รู้เลยว่าบิดาของหญิงสาวตายเพราะโดนคนฆ่า
“แล้วเจอตัวฆาตกรหรือเปล่า?” เย่เฉินถามอย่างห่วงใย
ฉินเสี่ยวตั่วส่ายหน้า “ฉันไม่ค่อยแน่ใจ แต่หลายปีมานี้เราสองคนพี่น้องไม่เคยล้มเลิกความพยายามจะตามหาตัวฆาตกรเลย”
เย่เฉินพยักหน้า “คุณสบายใจเถอะ ผมเองก็มีเพื่อนอยู่ไม่น้อยที่ต่างประเทศ ผมจะช่วยพวกคุณหาตัวฆาตกรเอง”
“ค่ะ” ฉินเสี่ยวตั่วพยักหน้ารับ
จากนั้นฉินเสี่ยวตั่วก็ลากเย่เฉินไปในห้อง แล้วให้เขานั่งลงจากนั้นก็กล่าวกับเขาอย่างมีอารมณ์ “เย่เฉิน ฉันไม่ได้เป็นคนง่ายแบบนั้นที่เพิ่งรู้จักใครวันแรกแล้วก็ไปเปิดห้อง ไม่รู้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อคนนั้นไปสืบเรื่องพื้นเพครอบครัวของฉันได้ยังไง เขาบอกว่าพ่อแม่เขาเองก็ตายทั้งคู่ จากนั้นก็ตั้งใจมาเป็นบังเอิญมาพบฉัน แถมยังสร้างเรื่องว่าตัวเองชื่อเหมือนนายอีก สรุปคือบังเอิญหลายอย่าง แล้วก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าเขากับฉันมีดวงสมพงศ์กัน ดังนั้นฉันถึงได้…”
เย่เฉินลูบผมหญิงสาวเบาๆ แล้วกล่าว “เสี่ยวตั่ว ผมรู้ว่าคุณเป็นเด็กผู้หญิงที่ดี หลิ่วอวี่เจ๋อวางแผนล้านแปดเพื่อมาล่อลวงคุณ ก่อนหน้านี้มีเพื่อนของเขาหลายคนพยายามจีบคุณ ดังนั้นจึงรู้เรื่อพื้นเพครอบครัวและความอดิเรกของคุณอย่างแน่ชัด”
ฉินเสี่ยวตั่วเข้าใจทันที “มิน่าล่ะเขาถึงรู้ว่าฉันชอบกินอะไรด้วยซ้ำไป! คนพวกนี้มันเจ้าชู้และมีจิตใจที่สกปรก”
เย่เฉินกล่าว “สบายใจเถอะ เดี๋ยวพอผมกลับไปจะกลับไปจัดการไอ้สี่คนที่เหลือให้เอง”
“ขอบคุณนะคะพี่เขย! เอ่อ ฉันกลัวว่าคืนนี้จะเกิดเรื่องอีก พี่เขยพอจะอยู่เป็นเพื่อนฉันสักคืนได้ไหมคะ อย่าไปไหนเลยนะคะ” ท่าทางฉินเสี่ยวตั่วหวาดกลัวอย่างมาก
เย่เฉินไม่ได้นอนที่พื้นเป็นครั้งแรกเสียหน่อย เมื่อก่อนเวลาออกไปต่างจังหวัดกับหวังเจียเหยาก็นนอนพื้นตลอด
“ได้ งั้นผมนอนพื้นแล้วกัน” เย่เฉินกล่าว
แต่ใครจะรู้ ฉินเสี่ยวตั่วกลับไปคว้ามือเย่เฉินแล้วลากเขาไปที่เตียง “นอนที่พื้นทำไมล่ะ เราคุยกันทั้งคืนก็ได้นี่นา หรือไม่ก็เล่นเกม นายเล่นเกม ROV หรือ PUBG ไหม? หรือว่าเล่น Minecraft ไหม?”
“แค่ก…”
เย่เฉินคิดในใจว่าเกม minecraft มันเกมเด็กเล่นไม่ใช่หรือไง
เย่เฉินกล่าวพลางหัวเราะ “อย่าเล่นเกมเลย ผมมีเรื่องอยากขอคำปรึกษากับคุณพอดี”
“คุณว่ามา”
“ผมกะจะขอพี่สาวคุณแต่งงาน พี่สาวคุณเคยบอกไหมว่าหล่อนอยากโดนขอแต่งงานแบบไหน? หรือว่าอยากโดนขอแต่งงานบนเกาะกลางทะเลที่ไหน หรือว่าที่บ้าน? แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง? นอกจากดอกไม้สดกับแหวนอะไรพวกนั้น”