เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 239 ข่าวลือเกี่ยวกับฉินหงเหยียน
ตอนที่ 239 ข่าวลือเกี่ยวกับฉินหงเหยียน!
เหอเหวินเจี้ยนชอบฉินหงเหยียนอยากครอบครองหญิงสาวไม่ใช่แค่วันสองวัน และอาจจะไม่ใช่ปีสองปีด้วยซ้ำไป
ตั้งแต่พบหญิงสาวที่แคนาดา ตอนที่เขาหายใจไม่ออกแล้วได้หล่อนช่วยเขาเอาไว้ เขาก็ปักใจหวังให้ฉินหงหยียนเป็นคู่ชีวิตของเขา
แต่หลายปีมานี้ไม่ว่าเหอเหวินเจี้ยนจะทำอย่างไรก็ไม่อาจได้หล่อนมาครอบครอง
ตั้งแต่ที่ฉินหงเหยียนกลายเป็นประธานบริษัทไป๋ลี่แล้วกลายเป็นหัวหน้าของเหอเหวินเจี้ยนอย่างงงๆ เหอเหวินเจี้ยนก็ไม่มีโอกาสอีก
แต่ว่าตอนนี้หลิ่วอวี่เจ๋อกลับให้โอกาสสานฝันของเหอเหวินเจี้ยนให้เป็นจริง!
เหอเหวินเจี้ยนดื่มเหล้า เขาไม่สนใจแล้วว่าอะไรคือเรื่องจริงหรือโกหกตั้งนานแล้ว คนอายุอานามเท่าเขาทำความเข้าใจมานานแล้วว่าโลกนี้มีทั้งจริงและเท็จ พอเรื่องราวผ่านพ้นไปก็จะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
ทว่าเหอเหวินเจี้ยนกลับพุ่งพรวดไปหา ‘ฉินหงเหยียนตัวปลอม’ ผู้หญิงคนนี้กลับสะดีดสะดิ้ง “คุณเหอ คุณทำอะไรน่ะ ฉันมีแฟนแล้ว คุณช่วยให้เกียรติฉันด้วย!”
เหอเหวินเจี้ยนหัวเสียแล้วกล่าวถาม “แฟนคุณคือใคร? ใช่ เย่เฉินผู้จัดการเล็กๆ ในแผนกอบรมบุคลากรคนนั้นหรือเปล่า”
‘ฉินหงเหยียนตัวปลอม’ กล่าว “ใช่ แฟนฉันชื่อเย่เฉิน!”
เหอเหวินเจี้ยนได้ยินชื่อเย่เฉินก็กัดฟันกรอด “ถุย! ไอ้ปลิงที่เกาะคุณกินน่ะนะ มันไม่คู่ควรกับคุณด้วยซ้ำ พวกเราสิเป็นกิ่งทองใบหยก!”
พูดจบเขาก็โผตัวหาหญิงสาวทันที
เพี้ยะ!
แต่ผู้หญิงคนนี้กลับตบหน้าเขาอย่างแรง!
“สารเลว!”
หลิ่วอวี่เจ๋อที่อยู่ข้างๆ ตบโต๊ะอย่างแรง เขาด่าหยิงสาวคนดังกล่าวเสียงดัง “ผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเธอกล้าตบคุณเหอเหรอ? อยากตายหรือไง! ดูว่าฉันจะตบแกยังไง!”
ทว่าในตอนที่หลิ่วอวี่เจ๋อจะลงมือทำร้ายอีกฝ่าย เหอเหวินเจี้ยนกลับปกป้องผู้หญิงคนนี้ กลับยื่นมือเข้ามาขวางหลิ่วอวี่เจ๋อ
เขาไม่ได้โกรธแต่อย่างใด กลับกันใบหน้ากลับฉายแววยินดี “ถูกต้อง นี่สิถึงจะเป็นฉินหงเหยียนตัวจริง! ยิ่งนานยิ่งเหมือนด้วยซ้ำ! ฮ่าๆ!”
ในใจหลิ่วอวี่เจ๋อปลื้มปิติอย่างมาก ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่เขาฝึกซ้อมด้วยตนเอง ดังนั้นจึงรู้นิสัย คำพูดคำจาของฉินหงเหยียนอย่างทะลุปรุโปร่ง
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวต่อ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ให้คุณเหอพาคุณฉินโรงแรม แล้วพวกคุณสองคนค่อยๆ คุยกันดีไหมครับ? พวกเราจองเพรสซิเด้นท์สูทของ peninsula ให้คุณเหอแล้ว”
เหอเหวินเจี้ยนเป็นฝ่ายยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มเอง “ได้เลย ผมขอรับของขวัญชิ้นนี้ของน้องอวี่เจ๋อแล้วกัน ต่อไปทุกคนคือคนกันเอง เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว!”
เหอเหวินเจี้ยนได้ล่วงรู้ความลับของทั้งห้าคนนี้โดยบังเอิญ เขารู้ว่าถ้าตัวเองไม่ยอมลงเรือลำเดียวกับพวกเขาสักครั้ง พวกเขาก็จะไม่เชื่อใจตัวเอง
บวกกับที่เขาเองก็อยากจะได้ครอบครองฉินหงเหยียนตัวปลอมคนนี้ใจจะขาด
หลิ่วอวี่เจ๋อชนแก้วกับเหอเหวินเจี้ยน ก่อนที่ทั้งสี่คนจะออกจากห้อง VIP ด้วยกัน
หลังจากที่ทั้งสี่คนไปแล้ว หลายนาทีต่อมาจู่ๆ ก็มีเงาลับล่อๆ เดินเข้าไปในห้อง VIP จากนั้นก็เหยียบเก้าอี้ แล้วไปหยิบเอากล้องขนาดเล็กที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ในมุมที่ลึกที่สุดของห้องดังกล่าว
คนผู้นี้ก็คือหวังเอ้อร์เชอ!
พอถึงลานจอดรถ หลิ่วอวี่เจ๋อและหม่าหนานก็โบกมือลาเหอเหวินเจี้ย
“คุณเหอ ผมไม่ไปส่งแล้วนะ ขอให้พวกคุณสองคนคืนนี้สสนุกกันให้เต็มที่ มียานิดหน่อยเผื่อต้อใช้ ฮ่าๆ”
หลิ่วอวี่เจ๋อส่งถุงพลาสติกเล็กๆ ให้เหอเหวินเจี้ยน
“ได้ ไว้ค่อยคุยกัน”
เหอเหวินเจี้ยนและ‘ฉินหงเหยีนยนตัวปลอม’ ก็เป็นฝ่ายออกไปก่อน
หลังจากที่ทั้งสองคนเดินไปแล้วหม่าหนานก็แค่นเสียง “ในที่สุดก็ลากตาแก่นั่นลงเรือลำเดียวกับพวกเราได้ซักที แต่ว่านะ อวี่เจ๋อนายเลือกผู้หญิงมาแล้วส่งหล่อนไปศัลยกรรมปรับบุคลิกภาพเพียงเพื่อลากหมอนี่ให้ลงเรือลำเดียวกับเรา สิ้นเปลืองเงินทองและเวลามาเกินไปแล้ว”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวพลางหัวเราะ “เสี่ยวหม่า นายไม่เข้าใจ ฉันไม่ได้เป็นฝ่ายลากเขาลงน้ำเพื่อให้เขากลายเป็นพวกเดียวกับเรา ฉันอยากจะฉวยโอกาสนี้ โจมตีไป๋ลี่ให้หนักๆ!”
หม่าหนานเข้าใจทันที “นายหมายความว่า…?”
หลิ่วอวี่เจ๋อหัวเราะเจ้าเล่ห์ “พรุ่งนี้เดี๋ยวนายก็จะเห็นข่าวแล้ว ประธานและรองประธานบริษัทไป่ลี่นอนด้วยกัน ฮ่าๆ!”
……
เจ็ดโมงครึ่ง
ณ วิลล่าเฝยชุ่ย
ในเวลานี้ฉินหงเหยียนตื่นมาอาบน้ำแปรงฟันแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดชาแนลแบบที่หล่อนมักจะสวมใส่บ่อยๆ
ในตอนที่ฉีดน้ำหอมขณะส่องกระจก เย่เฉินก็ตื่นขึ้นแล้วกอดหญิงสาวจากด้านหลัง ก่อนจะถาม “ที่รัก วันนี้เช้าคุณอยากกินอะไร ผมจะไปทำให้”
ฉินหงเหยียนยิ้มอย่ามีความสุข แล้วกล่าวขณะมองเย่เฉินผ่านกระจก “จู่ๆ ก็อยากกินไก่ คุณทอดไก่ให้หน่อยสิ พวกเราดื่มนมก็พอ”
“ครับ เดี๋ยวผมจะไปทำเดี๋ยวนี้แหละ”
เย่เฉินคลายวงแขนลง ในตอนที่กำลังจะไปเตรียมอาหารเช้านั้นเอง
ติ๊ง ต่อง
ติ๊ง ต่อง
มือถือของทั้งสองคนได้รับข้อความพร้อมกัน
ตอนนี้ทั้งสองคนถือเป็นคนในบริษัทและสายงานเดียวกัน จึงกดติดตาม APP ที่เหมือนกันจำนวนมาก จะได้ข้อความพร้อมกันก็ไม่แปลกอะไร
ดังนั้นทั้งสองคนต่างก็หยิบมือถือขึ้นมาดู ปรายตามองว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
นี่คือข้อความแนะนำจากวีแชท เป็นข้อความจากบัญชีทางการที่พวกเขากดติดตามเหมือนกัน
เนื้อหาทำให้พวกเขาตกใจ
“ประธานและรองประธานบริษัทไป๋ลี่จูบกันหน้าลิฟต์อย่างดุเดือด แถมยังจับมือถือแขนกันอย่างสนิทสนมขณะเข้าโรงแรม!”
เมื่อกดเข้าไปดู ก็เห็นเป็นภาพของเหอเหวินเจี้ยนและฉินหงเหยียนที่จุมพิตกันอย่างดุเดือด!
อีกทั้งยังมีภาพของทั้งสองคนจับมือกันอย่างสนิทสนมเดินเข้าไปในโรงแรม !
เย่เฉินตะลึงไปทันที เพราะจากมุมกล้องและความคมชัดนั้น พอจะเห็นได้ว่าผู้หญิงในภาพคือฉินหงเหยียน กระทั่งเสื้อผ้า ก็ยังเป็นชุดเซ็ทที่ฉินหงเหยียนใส่อยู่ในตอนนี้!
เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน!
ในฐานะที่เป็นแฟนของฉินหงเหยียนเมื่อเห็นภาพแบบนี้ เย่เฉินย่อมต้องรู้สึกไม่ดีมากแน่!
เมื่อฉินหงเหยียนเห็นภาพพวกนี้ หญิงสาวก็รีบร้อนวางมือถือลงแล้วเดินไปหาเย่เฉินพลางอธิบาย
“ที่รักฉันสาบานได้ ฉันไม่ได้ไปโรงแรมกับเหอเหวินเจี้ยนจริงๆ นะคะ คนในรูปไม่ใช่ฉัน!”
บางทีอาจเพราะตัวฉินหงเหยียนเองก็รู้สึกว่าผู้หญิงในภาพหน้าเหมือนตนเองมากเกินไป หล่อนเองก็รู้ว่าเย่เฉินอาจจะไม่เชื่อตนเอง
ดังนั้นเพื่อจะให้เย่เฉินเชื่อใจ หญิงสาวจึงคุกเข่าลง ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา “ฉันฉินหงเหยียนขอสาบานว่า ถ้าหากฉันเคยทำเรื่องที่ผิดต่อคุณ ขอให้ฉัน…”
ฉินหงเหยียนยังพูดไม่จบ เย่เฉินเข้าไปห้ามแล้วประคองหญิงสาวขึ้นมา “หงเหยียนเรารู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว รักกันอย่างลึกซึ้ง ผมจะไม่เชื่อคุณได้ยังไง? ทั้งหมดนี้จะต้องมีคนจงใจจัดฉากขึ้น ผมไม่มีทางสนใจหรอก”
“ขอบคุณค่ะ” ฉินหงเหยียนกอดย่เฉินอย่างซาบซึ้งใจ
จากนั้นทั้งสองคนก็มองคำวิจารณ์และภาพถ่ายอย่างละเอียด
ฉินหงเหยียนกล่าว “รูปภาพใบนี้ไม่ใช่ภาพตัดต่อนะคะ ที่รักคุณดูสิ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สูงเท่าฉัน ทรงผมก็ไม่เหมือนกัน หล่อนเป็นแค่ผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนฉันมากๆ ก็เท่านั้นเอง”
เย่เฉินเพ่งมองอีกครู่ใหญ่ แล้วพบว่าเป็นแบบที่ฉินหงเหยียนพูดเอาไว้จริงๆ
“แปลกพิกลจริงๆ คุณกับฉินเสี่ยวตั่วเกิดจากพ่อแม่คนเดียวกัน พวกคุณสองคนยังไม่เหมือนกันขนาดนี้เลย ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงเหมือนคุณขนาดนี้ได้นะ?”
เย่เฉินแปลกใจ
ฉินหงเหยียนกลับไม่ได้กังวลปัญหานี้ หล่อนดูพวกความคิดเห็นเล็กน้อย ทุกคนต่างก็รู้ว่าเหอเหวินเจี้ยนมีภรรยาแล้ว
ในฐานะที่เหอเหวินเจี้ยนเป็นรองประธานบริษัทไป๋ลี่กลับมีข่าวแบบนี้แพร่งพรายออกมา ถือเป็นการสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับบริษัทไป๋ลี่ที่มูลค่าหุ้นกำลังพุ่งอย่างมาก!
“เกรงว่าราคาหุ้นน่าจะล่วงอีกแล้ว!” ฉินหงเหยียนกล่าวอย่างปลงๆ