เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 278 ไปตระกูลซู
ตอนที่ 278 ไปตระกูลซู!
เย่เฉินและพวกไม่อยู่ที่นั่นต่อ เมื่อเขาได้รู้ความจริงแล้ว ก็รีบเดินตรงดิ่งไปที่เครื่องบินส่วนตัวเพื่อเตรียมไปเมืองหลวง
เย่เฉินกดโทรหาฉินหงเหยียนเพื่อบอกแฟนสาว
“หงเหยียน”
“เย่เฉิน”
เสียงปลายสายของหญิงสาวแผ่วเบา เหมือนเพิ่งตื่นนอน
“ขอโทษด้วยนะครับหงเหยียน สองวันมานี้ไม่ไดโทรหาคุณเลย ไม่มีเวลาส่งข้อความหาด้วย ผมบินมาอเมริกา ตอนนี้กำลังจะบินกลับเมืองหลวง เรื่องวุ่นวายมาติดๆ กันเลย”
“งั้นรอคุณจัดการธุระเสร็จเราค่อยคุยกันก็ได้” ฉินหงเหยียนตอบเสียงเบา
“อืม ได้ผมวางล่ะ”
ตอนนี้ ที่จริงแล้วเย่เฉินควรจะอยู่ในห้วงความสุขและหวานฉ่ำหลังจากที่ขอแฟนสาวแต่งงานสำเร็จ
แต่ว่ากลับมีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นไม่หยุด
ตอนแรกก็เป็นเรื่องตรวจ DNA ลูกสองคนของหวังเจียเหยา พบว่าหนึ่งในนั้นไม่ใช่ลูกเขา
ตอนนี้กว่าจะเจอพ่อแท้ๆ ของเด็กผู้หญิง เย่เฉินถึงได้พบว่าเรื่องนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากกล คิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดที่เขาเคยทำเอาไว้เมื่อสี่ปีก่อน
ตอนนี้เย่เฉินอยากจะรู้ใจจะขาดว่าผู้หญิงที่ชื่อซูมู่ชิงหน้าตาเป็นยังไง เขาอยากจะถามเรื่องราวความเป็นมาและขอโทษหญิงสาว
หลังจากเดินทางกันหลายสิบชั่วโมง พวกเย่เฉินก็มาถึงเมืองหลวง!
หลังจากเดินทางติดต่อกัน พวกเย่เฉินก็ออกจะมีอาการ Jet lag กันหมดอีกท้ังยังเริ่มจะไม่ค่อยมีสติแล้วด้วย
ถึงแม้ว่าอยากจะหาโรงแรมนอนพักสักหน่อย แต่เย่เฉินก็ยังตัดสินใจไปพบซูมู่ชิงพี่สาวของซูมู่หลินก่อน!
“พี่สาวนายอยู่ที่ไหน?” เย่เฉินถาม
“นายมากับฉันสองคน ห้ามพาลูกน้องมา” ซูมู่หลินกล่าว
ซูมู่หลินไม่เรียกคนมารับเขา แต่เรียกรถส่งๆ แล้วเย่เฉินก็เดินตามเขาเข้าไป
ไม่นานนักทั้งสองคนก็มาแถวๆ ประตูหน้าของบางพื้นที่ ที่นี่เป็นเขตสี่เรือนประสานล้วนแต่สร้างขึ้นจากก้อนหินและท่อนไม้ที่ค่อนข้างเก่าแก่
เย่เฉินประหลาดอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าซูมู่ชิงจะอาศัยอยู่ที่นี่
เมื่อผลักประตูสีแดงที่สร้างจากไม้เก่า เย่เฉินก็ถามอย่างประหลาดใจ “ตระกูลซูของพวกนายไม่ใช่ตระกูลร่ำรวยเหรอ? ทำไมพี่สาวนายมาอยู่ที่นี่?”
เย่เฉินเองย่อมรู้ว่าพื้นที่ในเมืองหลวงนั้นมีมูลค่าราวทองคำ เรือนสี่ประสานที่นี่ราคาสูงแน่นอน
ราคาประเมินน่าจะมากกว่าแสนหก เรือนสี่ประสานแห่งนี้คาดว่าน่าจะหลายร้อยล้าน
แต่ว่าพวกเขาคือคนตระกูลซู คนตระกูลซูน่าจะอาศัยอยู่ที่บ้านราคาเกินพันล้าน แต่การที่หญิงสาวอาศัยอยู่ในเรือสี่ประสานดูไม่ค่อยเหมาะสมกับหญิงสาวที่เป็นลูกคุณหนูเท่าไหร่นัก
ซูมู่หลินได้ยินแบบนี้ก็ถลึงตามองเย่เฉิน “ก็เพราะเรื่องงามหน้าที่นายทำยังไงล่ะ! ตอนนี้พี่สาวฉันทะเลาะกับคนทั้งบ้าน เลยย้ายตัวเองมาอยู่ที่เรือนสี่ประสานนี่”
เย่เฉินไม่เข้าใจตัวเขาเองกับซูมู่ชิงก็เป็นอะไรเทือกๆ แบบ ‘one night stand’ ก็เท่านั้นเอง เรื่องแบบนี้ในสายตาสาวๆ ยุคนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องราวอะไร
หรือว่าหลังจากเกิดเรื่องซูมู่ชิงเป็นโรคซึมเศร้า? ทำไมถึงได้ทะเลาะกับที่บ้านได้?
เย่เฉินพอจะรู้นิสัยของซูมู่หลิน จึงไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ เขาว่าเขาไปถามหญิงสาวเองน่าจะดีกว่า
“ไม่รู้ว่าซูมู่ชิงหน้าตาเป็นยังไง สวยไหม…”
ทันใดนั้นเองก็มาถึงเรือนสี่ประสานของซูมู่ชิงอย่ารวดเร็ว เย่เฉินก็เริ่มอยากเห็นหน้าตาของหญิงสาวคนนี้ขึ้นมา!
ลำดับแรกเขาพอจะเดาได้ว่าอายุของซูมู่ชิงน่าจะไม่มาก ซูมู่หลินเพิ่งจะ 20 ต้นๆ พี่สาวก็ไม่น่าจะเกิน 30
สองเขาเดาว่าหญิงสาวน่าจะหน้าตาดี!
เพราะซูมู่หลินหน้าตาสะสวย!
ตอนแรกที่เย่เฉินเห็นหมอนี่ ยังคิดเลยว่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่เป็นผู้หญิง!
คิดไม่ถึงว่าเขาจะยังมีพี่สาว กรรมพันธุ์ดีๆ ของพวกเขาไม่สิ้นเปลืองไปอย่างน่าเสียดาย!
“เอ่อ ซูมู่ชิงเป็นพี่สาวแท้ๆ ของนายเหรอ? พ่อแม่เดียวกันเลยไหม?”
เย่เฉินเอ่ยถามขณะเดินตามหลังซูมู่หลิน
เขาพอจะรู้ว่าตระกูลใหญ่ๆ อย่าตระกูลเย่ หรือตระกูลซูมีลูกหลานมากมาย แต่ลูกหลานในรุ่นนั้นๆ อาจจะไม่ได้มีพ่อแม่เดียวกัน
ซูมู่หลินกล่าว “ใช่ พ่อแม่เดียวกันสิ แต่เรามีน้องชายน้องสาวต่างแม่อีกสองคน”
“อืม”
พอรู้ว่าคนที่กำลังจะไปพบนี้พ่อแม่เดียวกันกับคนที่เดินนำหน้าเขาก็สบายใจ ในเมื่อหมอนี่หน้าตาสวยขนาดนี้ พี่สาวของเขาก็ไม่น่าจะหน้าตาแย่อะไร
เย่เฉินย่อมไม่ได้คิดอะไรกับซูมู่ชิง เพราะตอนนี้เขารักฉินหงเหยียน
เพียงแต่คนที่ชอบคนสวยอย่างเขา ทำใจไม่ได้ถ้าหากจะต้องรู้ว่าผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วยเป็นคนหน้าตาน่าเกลียด
เมื่อมาถึงภายในตัวบ้าน ก็มีเด็กาวเหมือนคนรับใช้เดินมา “คุณชาย”
“พี่สาวฉันล่ะ?” ซูมู่หลินถาม
เด็กสาวตอบ “คุณหนูไปบ้านคุณท่านแล้วค่ะ”
เย่เฉินหัวเราะ ตระกูซูนี่น่าสนใจจริๆ ไม่เพียงแต่มีเด็กรับใช้เหมือนสมัยโบราณ แต่สรรพนามเหมือนสมัยโบราณอย่างไรอย่างนั้น นายท่าน คุณหนู คุณชาย แหมเป็นตระกูลใหญ่โตของเมืองหลวงจริงงๆ!
ซูมู่หลินชะงักไป “ไปบ้านพ่อฉัน? พี่สาวฉันไปที่นั่นทำไม?”
จากน้ำเสียงของซูมู่หลินแล้วพอจะฟังออกว่า ซูมู่ชิงคนนี้ไม่ค่อยไปที่บ้านพ่อของหล่อนนัก
เด็กสาวตอบ “ได้ยินว่านายท่านเรียกคุณหนูไปดูตัว”
ซูมู่หลินหัวเสีย “พี่สาวฉันไม่เคยชอบไปดูตัวอะไรบ้าบอนั่น! ต้องโดนหลอกไปแน่ๆ!”
พูดจบซูมู่หลินก็หุนหันจากไป
“เฮ้ นายไปไหน?” เย่เฉินถาม
ไม่ได้เจอซูมู่ชิงทันทีที่มาถึง เขาผิดหวังนิดหน่อย
ซูมู่หลินหันไปตอบเย่เฉิน “ไปที่บ้านพ่อฉันกัน ถ้านายอยากไปเจอพี่สาวฉันล่ะก็ ไปด้วยกันสิ”
เย่เฉินไม่ได้ตามกับเขาในทันที แต่ลังเลไปน้อยๆ
พ่อของซูมู่หลินซึ่งก็คือทายาทรุ่นที่สองของตระกูลซู ตอนนี้กำลังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญของตระกูลซู
ตระกูลเศรษฐีอย่างตระกูลซูในเมืองหลวง ไม่ได้เข้าง่ายๆ แบบนั้น
อีกอย่างเย่เฉินก็เคยทำเรื่องผิดต่อตระกูลซูเสียด้วย…
“ทำไม? กลัวเหรอ? กลัวว่าตระกูลซูของเราจะซ้อมนายเหรอ?”
ซูมู่หลินเห็นเย่เฉินไม่กล้าตามมา ก็หัวเราะร่วน
สองวันที่ผ่านมาเย่เฉินเอาแต่พูดว่าจะส่งซูมู่หลินขึ้นสวรรค์ ทำให้ความเป็นลูกผู้ชายที่เขาคยมีสูญสลายอันตรธานหายไปหมด
ตอนนี้เห็นเย่เฉินหวาดกลัว ทำให้เขาสะใจ
เย่เฉินหัวเราะเสียงเย็น “ซูมู่หลิน เรื่องของฉันกับพี่สาวนายกับเรื่องของนายกับหวังเจียเหยาน่ะ มันคนละเรื่องกัน รอฉันจัดการเรื่องพี่สาวนายก่อน ถือว่าเป็นการให้เกียรติคนตระกูลซูของพวกนาย แล้วค่อยกลับมาจัดการนาย!”
เขาไม่ได้กลัวตระกูลซู!
คนตระกูลเย่เคยกลัวใครที่ไหน!
ซูมู่หลินจินตนาการถึงตอนที่เย่เฉินถึงเมืองหลวง มาถึงถิ่นของเขาแต่ยังวางท่ากร่าง พลันรู้สึกนับถือเขาในใจ หมอนี่เป็นลูกผู้ชายตัวจริง
“เกรงว่าเรื่องของนายกับพี่สาวฉันไม่น่าจะจบง่ายๆ!”
ซูมู่หลินไม่กล้าพูดอะไรอีก เขากดโทรศัพท์เรียกรถ Audi มาคันหนึ่งเป็นรถ Audi รุ่น A8 ทั่วๆ ไป ทะเบียนรถก็ธรรมดาๆ ไม่สามารถจะตัดสินได้เลยว่าคนที่นั่งในรถนั้นเป็นเศรษฐีหรือไม่
เมืองหลวงก็แบบนี้ ทุกที่ล้วนแต่มีพยัคฆ์หมอบซ่อนตัวอยู่
ซูมู่หลินขับรเอง เขาขับรถพาเย่เฉินไปเขตวิลล่าที่มีชื่อว่า Maison no.1
ตำแหน่งของอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้ดีเยี่ยม วิลล่าเป็นสไตล์บ้านกลางสวน รอบๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว ทำให้ราคาของวิลล่าแห่งนี้คงจะสูงเกินจะคาดเดา!
รถจอดลงตรงปากประตูวิลล่าหรูหราโดดเด่น
“เย่เฉิน ถ้านายไม่กล้าเข้าไป ตอนนี้จะเปลี่ยนใจก็ยังทันนะ” ซูมู่หลินกล่าว
เย่เฉินเปิดประตูลงไป “ในโลกใบนี้ไม่มีสถานที่ไหนที่ฉันไม่กล้าไปหรอก!”