เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 300 การตัดขาดของฉินหงเหยียน
ตอนที่ 300 การตัดขาดของฉินหงเหยียน!
ฉินเสี่ยวตั่วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ พี่ยังจะพูดอีกว่าอยากจะเลิกกับเย่เฉิน แค่บอกว่าผู้ชายที่พี่รักที่สุด พี่ก็พูดถึงเย่เฉินทันทีเลย เห็นชัดๆ เลยว่าผู้ชายที่พี่รักที่สุดคือเย่เฉินไม่ใช่คุณอาสวี่”
สีหน้าฉินหงเหยียนเก้อเขิน ท่าทางของหล่อนดูซูบซีดและอมทุกข์กว่าตอนอยู่เทียนไห่เมื่อเดือนก่อนมาก
ทว่านี่ไม่ได้ส่งผลกับความงดงามของหญิงสาว เพราะต่อให้ไม่ได้แต่งหน้า เพราะบุคลลิกที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่และสูงส่งทั้งที่ไม่ได้แต่งหน้าแบบนี้ก็ยังดูสัสวยและชวนสะกดตากว่าอยู่ดี
เมื่อไม่มีท่าทางวางท่าของผู้บริหารแบบที่ผ่านมา หญิงสาวก็เหมือนผู้หญิงชาวจีนที่บอบบางน่าทะนุถนอม
หากเย่เฉินเห็นหล่อนในตอนนี้คงจะอดปรี่เข้ามากอดหล่อนไม่ได้ แล้วถนอมหล่อนทั้งคืน
ฉินหงเหยียนหัวเสียอย่างหนัก “พี่บอกเธอแล้วไง ว่าห้ามเธอไปเจอเย่เฉิน ห้ามติดต่อกับเขา เธอเห็นคำพูดพี่เป็นแค่ลมหรือไง?”
ฉินเสี่ยวตั่วรีบดึงมือพี่สาวแล้วออดอ้อน “อ๋อย พี่คะ พี่อย่าโกรธหนูเลย ก็เย่เฉินมาที่เมืองเสินเฉิงแล้วหาพี่ไม่เจอไม่ใช่หรือไงคะ พี่เองก็ไม่ได้คุยกับเขาให้รู้เรื่องชัดเจน หนูก็กลัวว่าเขาจะคิดสั้น เมื่อกี้ตอนเจอพี่เย่เฉิน เขาบอกหนูทุกอย่างเลย เขาบอกว่าเขารู้ว่าที่พี่โกรธเขาก็เพราะเขามีลูก
เขารับรองกับหนูแล้วว่าพี่ไม่ต้องเลี้ยงลูกเขา ไม่ต้องเป็นแม่เลี้ยงให้พวกเด็กๆ ลูกชายจากอดีตภรรยาของเขาจะโดนตระกูลเขามารับตัวไป ส่วนลูกสาวอายุสามขวบกว่าที่อยู่เมืองหลวง แม่เด็กจะเป็นคนเลี้ยงเอง แล้วเขาก็บอกว่าอยากจะมีลูกกับพี่สองคน ทรัพย์สมบัติอะไรก็มีมากพอจนทำให้พวกเขาใช้ได้สบายๆ ไปตลอดชีวิต พี่คะ หนูว่าเย่เฉินเขาก็ดูจริงใจดี พี่ก็ให้อภัยเขาไปเถอะ อย่างอนเขาเลย”
ฉินหงเหยียนยังคงมีท่าทีแน่วแน่ “ฉันกับเย่เฉินมันเป็นไปไม่ได้แล้ว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลูกเขาสองคน”
ฉินเสี่ยวตั่วถามอย่างประหลาดใจ “ไม่เกี่ยวกับลูกเขาเหรอ? พี่ไม่ได้เลิกกับเขาเพราะกลัวว่าจะต้องเป็นแม่เลี้ยงให้ลูกเขาเหรอ?”
พูดถึงเรื่องนี้ฉินเสี่ยวตั่วก็หงุดหงิด
ที่จริงจากที่หล่อนรู้จักกับพี่สาวของหล่อน หล่อนก็คิดว่าพี่สาวเป็นคนใจกว้าง อีกทั้งเรื่องที่หวังเจียเหยาตั้งท้อง ฉินหงเหยียนก็รู้เรื่องตั้งนานแล้ว
ลูกสองคนของหวังเจียเหยา มีคนหนึ่งในนั้นไม่ใช่ลูกเย่เฉิน
ถ้าฉินหงเหยียนติดใจจริงๆ ล่ะก็ คงจะขอเลิกกับเย่เฉินตั้งนานแล้ว ไม่มีทางยอมแต่งงานกับเย่เฉิน!
ฉินเสี่ยวตั่วงุนงง “ในเมื่อไม่เกี่ยวกับเรื่องลูกของเย่เฉิน แล้วทำไมพวกพี่สองคนต้องเลิกกันด้วย? เพราะช่วงนี้เขาไม่ค่อยมีเวลาให้พี่เหรอ? ถ้าเป็นเรื่องนี้หนูขอว่าพี่หน่อยเถอะ ช่วงนี้เขามีเรื่องกวนใจมากมาย ทั้งเรื่องลูกไม่ใช่ของเขา แล้วอยู่ๆ เขาก็มีลูกสาวงอกออกมาอีกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ช่าง จะมีหน้ามาทำตัวอารมณ์ดีได้อีกหรอ? พี่คะ พี่เป็นคู่หมั้นของเขา ก็น่าจะเข้าใจเขาหน่อย แล้วก็น่าจะคอยอยู่เคียงข้างเขา คอยปลอบเขาหน่อย”
ฉินหงเหยียนนั่งบนโซฟาแล้วยกขาเรียวงามขึ้นมาพาดขาอีกข้าง “ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอก”
ฉินเสี่ยวตั่วนั่งลง ขาเรียวสวยของสองคนพี่น้องก็ทำให้คนไพล่รู้สึกไปว่ามีพริตตี้มอเตอร์โชว์อยู่ที่นี่
“งั้นมันเพราะอะไรกันแน่?” ฉินเสี่ยวตั่วซัก
ฉินหงเหยียนไม่ได้ตอบฉินเสี่ยวตั่วแต่เลี่ยงไปตอบว่า “เรื่องของพี่กับเย่เฉิน เธอไม่ต้องยุ่งหรอก สรุปเลยก็คือพี่กับเย่เฉินไม่มีอะไรกันแล้ว ตลอดชีวิตนี้จะไม่มีทางได้อยู่ด้วยกันอีก เธอก็ห้ามไปพบเขาอีก แล้วให้คนส่งตุ้มหูเพชรกับจดหมายนี้ไปคืนเขา”
จดหมายขอโทษที่เย่เฉินให้ฉินหงเหยียน หญิงสาวไม่แต่จะเปิดอ่าน มองออกว่าหล่อนตัดขาดจากเย่เฉินโดยสิ้นเชิง!
ฉินเสี่ยวตั่วกล่าว “พี่คะ พี่จะให้คนส่งตุ้มหูเพชรคืน? ให้ใครไปเหรอคะ? พวกผู้หญิงจากบริษัทขนส่งไป๋ลี่ของพี่หรือคนขับรถล่ะคะ? พี่รู้ไหมคะว่าตุ้มหูคู่นี้ราคากี่บาท? เจ็ดร้อยล้านเชียวนะ! พี่ไม่กลัวคนขโมยไประหว่างทางเหรอ?”
ฉินหงเหยียนปรายตามองตุ้มหูสีสวยที่มูลค่าควรเมืองคู่นั้นเล็กน้อย แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าตุ้มหูคู่นี้มีมูลค่าสูงส่ง
ฉินหงเหยียนกล่าว “ได้ งั้นเธอเอาไปคืนให้เย่เฉินเอง แล้วก็ไปบอกเขาด้วยว่าให้เขาออกไปจากเมืองเสินเฉิงได้แล้ว ต่อไปไม่ต้องมาพบฉันอีก แล้วก็วิลล่าหลังนั้นที่เทียนไห่ ฉันตั้งใจจะขายทิ้ง ฉันเก็บสัมภาะของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เธอบอกให้เขากลับไปเทียนไห่แล้วจัดการเก็บของๆ เขาในวิลล่าไปได้แล้ว”
ฉินเสี่ยวตั่วได้ยินก็ทนไม่ได้แทนเย่เฉิน “พี่คะ พี่จะตัดขาดแบบนี้เลยเหรอคะ?”
ฉินหงเหยียนกล่าว “รีบไปรีบกลับ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอเจอกับเขาแล้ว ต่อไปห้ามไปเจอกันอีก!”
พูดจบฉินหงเหยียนก็เดินขึ้นบ้านไป
“เฮ้อ”
ฉินเสี่ยวตั่วถอนหายใจ แล้วเก็บตุ้มหูเพชรมาแล้วหย่อนใส่กระเป๋า จากนั้นก็เดินออกจากวิลล่า
เมื่ออกมาแล้ว ฉินเสี่ยวตั่วก็กลัวว่าจะโดนคนปล้นไประหว่างทาง แล้วโทรหาซีกวาที่เป็นคนส่งหล่อนเมื่อครู่เพื่อให้เขามารับหล่อน
แล้วซีกวาก็ขับรถ BMW คันหนึ่งมารับหล่อน
“คุณหนูฉิน ทำไมถึงจะกลับไปเร็วขนาดนี้ล่ะครับ? ลืมของหรือเปล่าครับเนี่ย?” ซีกวาถาม
ฉินเสี่ยวตั่วทำปากยื่น “ฉันจะเอาของขวัญของเขาคืนให้เขา ไม่รู้ว่าพี่สาวฉันทำไมถึงต้องพยายามจะเลิกกับเขาให้ได้ เฮ้อ จริงสิ ซีกวา คุณบอกฉันมาตรงๆ ว่าช่วงนี้เย่เฉินได้แอบไปมีผู้หญิงคนอื่นที่ไหนหรือเปล่า?”
ซีกวาขับรถไปพร้อมกับรับรองกับฉินเสี่ยวตั่ว “คุณชายเย่กำลังทำงานยุ่งๆ ทุกวัน เดิมไม่มีแก่ใจมาสนใจเรื่อวุ่นวายจิปาถะแบบนี้หรอก พูดอีกอย่างคุณชายเย่ไม่สนใจเรื่องพวกนั้น ไม่อย่างนั้นประธานบริษัทตั้งแสนล้าน ผู้หญิงที่อยากอ่อยเขา ผมคอยขวางจนเหนื่อยเลย”
ฉินเสี่ยวตั่วครุ่นคิดแล้วก็พบว่าเย่เฉินไม่ได้เป็นคนเลวร้าย
แต่ในเมื่อไม่ได้เป็นเพราะสาเหตุนี้แล้วทำไมพี่สาวของหล่อนถึงต้องดึงดันจะเลิกกับเย่เฉินได้?
ตลอดทางที่เดินทางมาโรงแรมของเย่เฉิน ฉินเสี่ยวตั่วก็ไม่ค่อยเข้าใจปัญหานี้นัก
“เสี่ยวตั่ว? ทำไมคุณกลับมาไวขนาดนี้? หงเหยียนมาด้วยหรือเปล่า?”
ตอนที่เห็นหญิงสาวขณะที่เปิดประตูห้องให้ฉินเสี่ยวตั่ว เย่เฉินยังคิดว่าฉินเสี่ยวตั่วพาพี่สาวมาด้วย
แต่ว่าหญิงสาวกลับกล่าว “เลิกฝันหวานเถอะ ฉันมาคนเดียว”
ไม่เพียงเท่านั้นฉินเสี่ยวตั่วยังส่งกล่องตุ้มหูคืนเย่เฉินด้วย “พี่เขาบอกว่าไม่เอาของขวัญ จดหมายก็ไม่อ่านด้วย แล้วก็พี่เขาบอกว่าอยากจะขายวิลล่าที่เทียนไห่แล้ว ให้นายเอาข้าวของของนายออกจากวิลล่าไปให้หมดด้วย”
“อะไรนะ?”
เย่เฉินได้ยินคำพูดแบบนี้ก็ชะงักไปทันที
นี่เป็นการเลิกกันจริงๆ แล้วไม่คิดจะติดต่ออะไรกันอีก!
ฉินหงเหยียนเป็นคนซื้อวิลล่าที่ทั้งสองเคยอยู่ด้วยกันที่วิลล่า หล่อนย่อมมีสิทธิ์ทำแบบนี้
แต่เพราะอะไรนะ?
ฉินเสี่ยวตั่วกล่าวว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ฉันบอกพี่เขาแล้วเรื่องคำสัญญาของนาย แต่หล่อนก็ไม่ยอมยกโทษให้นาย ฉันคิดว่าที่พี่เขาโกรธนายไม่ใช่เพราะเรื่องลูกหรอก แล้วก็ไม่ใช่เพราะนายไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนหล่อนด้วย นายไปทำเรื่องอะไรให้พี่เขาโมโหอีกหรือเปล่า?”
เย่เฉินคิดวนไปวนมา เรื่องอื่นอย่างนั้นเหรอ?
ตนเองไม่น่าจะมีเรื่องอะไรไปล่วงเกินฉินหงเหยียนแล้วนะ?
“นายค่อยๆ คิดเอาเองแล้วกัน พี่สาวฉันไม่ให้ฉันอยู่กับนายนาน ต่อไปฉันคงจะมาหานายไม่ได้แล้ว” ฉินเสี่ยวตั่วกล่าว
ในตอนที่ฉินเสี่ยวตั่วหันหลังเตรียมเดินออกไป เย่เฉินก็คว้าแขนหล่อน