เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 361 มีเงินแล้ว
ตอนที่ 361 มีเงินแล้ว!
ลูกน้องของซูมู่หลินตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ไม่นะครับ เย่เซวียนคนนี้กะล่อนสุดๆ คนของเราโดนเขาสลัดทิ้งไปจนหมดแล้ว”
ซูมู่หลินขมวดคิ้ว “ดูแล้วความสามารถของเย่เซวียน เกรงว่าจะอยู่เหนือเย่เฉินล่ะสิ!”
เย่เฉินที่อยู่ตรงประตูแค่นเสียง พวกเขาสามคนพี่น้องต่างก็ไม่มีใครอ่อนแอหรอกนะ!
ถึงแม้ว่าเย่เซวียนจะไม่เคยมีประสบการณ์ในการไปรบ แต่เขาก็เคยเรียนวิชาต่างๆ ตั้งแต่เด็กเหมือนเย่เฉิน
อีกทั้งหมอนี่เป็นเทพแห่งการวางแผน เหมือนโลกิจากเรื่องธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าไม่มีผิดเพี้ยน
เขาปั่นประสาทคนอื่น แต่คนอื่นไม่กล้าปั่นประสาทเขา
อยากจะสะกดรอยตามเขาเหรอ?
จะใช้ลูกน้องแค่ไม่กี่คนของซูมู่ชิงไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!
ทว่าลูกน้องของเขากลับกล่าวในทันที “ถึงแม้ว่าจะคลาดกับเย่เซวียน แต่เราก็ไปเจอสถานที่ซ่อนตัวของเย่เซวียนในเมืองหลวง!”
เย่เฉินตกตะลึง ซูมู่หลินกล่าวอย่างพึงพอใจ “ที่ไหน?”
ลูกน้องกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม “อยู่ในแถบชนบทของเมืองหลวง หมู่บ้านบ้านนอกแห่งหนึ่งในเขตไป๋เหอ อำเภอไป๋เหอวาน”
ซูมู่หลินกล่าว “ที่นั่นเจอของน่าต้องสงสัยบ้างหรือเปล่า?”
ลูกน้องส่ายหน้า “บ้านตกแต้งได้สวยงามดี สิ่งของหรูหรา ในห้องมีกล่องนิรภัย แต่เปิดไม่ได้เพราะไม่รู้รหัสแต่หลังจากใช้เครื่องสแกนดู ก็พบว่าด้านในมีสมบัติล้ำค่าพวกเครื่องประดับต่างๆ เราส่งอันอันกับหัวจื่อไปเฝ้าแล้วครับ”
ซูมู่หลินพยักหน้ารับ “ถึงแม้ว่าด้วยความกะล่อนของเย่เซวียนจะรู้ว่าเรารู้ว่าเขาพำนักที่ไหน โอกาสที่จะกลับมาก็คงลดลง แต่ลองซุ่มดูที่นั่นต่ออีกสักพักก็ได้”
“เย่เซวียนทางที่ดีอย่าให้ฉันจับนายได้ หลังจากจับนายได้แล้ว ฉันจะต้องสับนายเป็นชิ้นๆ แน่!”
“เอาเถอะ นายออกไปเถอะ ฉันจะนอนแล้ว ถ้าได้ข่าวเย่เซวียนแล้ว ให้แจ้งฉันทันที”
“ครับ!”
เย่เฉินเห็นซูมู่ชิงปิดไฟเผื่อเข้านอน ก็รู้ว่าอยู่ที่นี่ต่อก็คงไม่ได้อะไร จึงแอบหนีกลับก่อน
เมื่อเดินออกมาจากตึกโรงพยาบาล ในใจเย่เฉินก็ย้อนคิดอย่างละเอียด
ครั้งนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้หาข่าวว่าฉินหงเหยียนโดนจับไว้ที่ไพน แต่ว่าเขาก็ยังพอได้ยินข่าวคราวที่มีประโยชน์บ้าง
“คิดไม่ถึงว่าพี่รองจะมาเมืองหลวงแล้ว เขามีบ้านอยู่ในชทบทเหรอ”
เย่เฉินประหลาดใจ ดังนั้นเขาจึงรีบเรียกรถไปที่หู่บ้านไป๋เหอ จากอำเภอไป๋เหอวันที่นี่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา อยู่ใกล้แม่น้ำ ตัวหมู่บ้านอยู่บริเวณปากทางเข้าของหมู่บ้านไป๋เหอเพียง 50 เมตร ทิวทัศน์สวยงาม
ในตัวบ้านเต็มไปด้วยป่าไม้ อากาศบริสุทธิ์มากทีเดียว
“พี่รองเลือกที่เก่งจริง”
เย่เฉินเดินทอดน่อง หมู่บ้านแห่งนี้มีขนาดใหญ่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านหลังไหนเป็นของพี่ชาย
ในตอนที่เขาเดินไปถึงบริเวณบ้านสีขาวเรียบๆ ไม่สะดุดตา ทันใดนั้นเองก็มีคนสวมชุดคนของตระกูลซูโผล่พรวดมา
“คนกันเอง ฉันมาส่งอาหารให้พวกนาย”
เย่เฉินเตรียมอาหารกล่องมาเอาไว้ก่อนแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลาตีสาม หมู่บ้านมืดสนิท มีเพียงแสงไฟสลัวๆ บวกกับคนที่อยู่ตรงข้ามก็ไม่ได้รู้จักเย่เฉินเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงไม่ได้สงสัยอะไร
“ดีจริงๆ ฉันกำลังหิวท้องร้องเลย!”
ชายในเครื่องแบบที่อยู่ตรงหน้ารับข้าวกล่องมาทันที
“อันอันล่ะ?” เย่เฉินถาม
เขารู้ว่านอกจากคนชื่อหัวจื่อแล้ว ยังมีคนชื่ออันอันอีก
หัวจื่อเดินเข้ามาในห้องแล้วชี้ “หลังคาล่ะ”
โดยปกติแล้วหน่วยสอดแนมจะไม่อยู่ในห้อง แต่จะอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้แทน
“ฉันจะเอาไปให้เขา”
เย่เฉินเตรียมอาหารกล่องมาสองชุด โดยเย่เฉินวางยาลงในอาหารสองชุดนี้ หลังจากกินแล้วก็จะหลับสนิทไป
“กินอะไรหน่อยไหม? มีหอยนางรม ตีนไก่แล้วก็เป็ดย่าง”
เย่เฉินแหงนหน้ามองแล้วกล่าวกับเงาที่เห็นเลือนลาง
เงาร่างอ้อนแอ้นกระโดดลงมาจากหลังคาอย่างรวดเร็ว คิดไม่ถึงหน่วยสอดแนมจะเป็นผู้หญิง อีกทั้งยังงเป็นหญิงสาวที่มีเรือร่างอ้อนแอ้นบอบบางเสียด้วย
“ตอนที่มาได้เจอรถหรือคนที่น่าสงสัยไหม?” อันอันตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วอดเอื้อมมือไปรับช้าวกล่องจากมือเย่เฉินไม่ได้
ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่ล่ะ กลางคืนกลางค่ำ กระทั่งเงาผีก็ไม่มี เฮ้อ แล้วพวกนายเจออะไรที่นี่บ้างไหม?”
หัวจื่อที่เริ่มลงมือกินแล้วก็สบถ “เจออะไรล่ะ ทีนี่นอกจากกล่องนิรภัยแล้ว ไม่เห็นของอย่างอื่นเลย ในกล่องนิรภัยต้องมีของดีอะไรแน่ เสียดายที่ไม่รู้รหัสก็เลยแอบเอาออกมาใช้ไม่ได้ ได้ยินมาว่าเจ้าเด็กเย่เซวียนของตระกูลเย่เป็นคนลึกลับ มีทรัพย์สมบัติมากมาย แค่สมบัติชิ้นเดียวของเขาก็มีมูลค่าหลายร้อยหลายพันล้าน!”
เย่เฉินจึงกล่าวถาม “แล้วกล่องนิรภัยอยู่ไหน?”
หัวจื่อชี้ไปในห้อง “อยู่ข้างในนั้น”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “พวกนายกินกันก่อน ฉันขอเข้าไปดูหน่อย”
ทั้งสองคนไม่ได้สงสัยอะไร อย่างไรเสียเย่เฉินก็ไม่รู้รหัส เลยไม่กลัวว่าเขาจะขโมยของอะไรไป
หลังจากที่เย่เฉินเข้ามาแล้วก็เจอกล่องนิรภัยอย่างรวดเร็ว กล่องนิรภัยกล่องนี้เหมือนกับที่เย่เซวียนทิ้งเอาไว้ในร้านกาแฟซือเฉินไม่มีผิดเพี้ยน
แล้วเขาก็เผลอไผลนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนั้น ที่เขาเจอกับซูมู่ชิงเป็นครั้งแรกในร้านกาแฟซือเฉิน
เย่เฉินเองก็ลองใส่รหัสของกล่องนิรภัยด้วยความตื่นเต้น ครั้งแรกนั้นเขาลองใส่รหัสเป็นวันเกิดของเย่เซวียน
รหัสผิดพลาด!
“คงจะไม่ใช่วันเกิดของฉันหรอกล่ะมั้ง?”
เย่เฉินคิดในใจ แต่ว่าคงไม่ใช่แบบนี้ ตอนที่อยู่ในเทียนไห่รหัสเป็นวันเกิดเขา เพราะครั้งนั้นเป็นกล่องนิรภัยที่เย่เซวียนทิ้งไว้ให้เขา
แต่กล่องนิรภัยชิ้นนี้เย่เซวียนน่าทิ้งเอาไว้ใช้เองต่างหาก
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว เย่เฉินก็เลยลองกรอกรหัสเป็นวันเกิดตนเอง
แกร๊ก
แล้วก็มีเสียงดังกริ๊ก ว่ารหัสถูกต้อง กล่องนิรภัยก็เปิดออก!
“อะไรนะ? รหัสเป็นวันเกิดเราเหรอเนี่ย?”
คราวนี้คนที่ตกใจกลายเป็นเย่เฉิน ทำไมรหัสถึงยังเป็นวันเกิดเขาอีก
“หรือว่าชินแล้ว ดังนั้นเลยใช้รหัสเดียวกันกับทั้งกล่องนิรภัยหรือเปล่า? หรือว่าเขาไม่อยากให้คนคุ้นเคยเดาได้?”
มีความเป็นไปได้สองอย่าง เพราะรหัสเป็นวันเกิดของตนเอง มันจะเดาง่ายเกินไป
ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ เกรงว่าเย่เซวียนคงจะเดาได้ว่าเย่เฉินจะมาที่นี่!
เย่เฉินประหลาดใจอย่างมา เขาเปิดกล่องนิรภัย ทันใดนั้นเองตรงหน้าก็ปรากฏภาพเงินกองโตและทรัพย์สมบัติต่างๆ นานา!
พวกเพชรพลอย สร้อยคอ เพชรนิลจินดา ทองวาววับกระทบตา แล้วก็มีเงินดอลลาร์และบัตรหลายสิบใบ!
“แม่ง! ในที่สุดก็มีเงินแล้ว! คนชั่วๆ แบบพี่รองช่วยฉันอีกครั้งแล้วแฮะ!”
เย่เฉินเห็นสมบัติพวกนี้ ก็สบายใจขึ้นมาทันที
หากว่าเป็นเมื่อก่อนพวกเพชรนิลจินดาเหล่านี้ เย่เฉินไม่เคยแยแสด้วยซ้ำ เพราะว่าตัวเขาเองนั้นมีให้ตนเองใช้ไม่หมดแล้ว
แต่วันนี้ต่างไปจากที่ผ่านมา ตอนนี้ทรัพย์สินของเย่เฉินโดนอายัดไปหมดแล้ว กระทั่งอัลลิเพย์กับวีแชทก็ยังใช้ไม่ได้ เป็นคนจนที่แท้จริง
ถ้ามีเจ้าพวกนี้แล้ว เย่เฉินก็จะได้มีเงินใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาจะได้ไม่ต้องโดนหลี่เฉิงเจี๋ยเหยียดหยามอีกต่อไป!
เย่เฉินยื่นมือออกมาแล้วแล้วหยิบสร้อยคอเพชรมาถือ แล้วพลิกดูอย่างละเอียด สร้อยคอเพชรนี้มีหยกสีขาว 72 กะรัต และหยกเขียว 114 กะรัต!
“นี่คงจะเป็น A Heritage Bloom สร้อยคอที่แพงที่สุดในโลกมูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์! คิดไม่ถึงว่าสร้อยคอเส้นนี้จะอยู่ที่พี่รอง!”