เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 394 หวังเจียเหยาจะล้มงานแต่ง
ตอนที่ 394 หวังเจียเหยาจะล้มงานแต่ง?
พ่อบ้านฟางชื่นใจอย่างมาก “เมื่อไหร่ครับ? จะแต่งงานกับคุณฉินหงเหยียนเหรอ?”
เย่เฉินถอนหายใจพลางกล่าว “วันหลังจากมะรืน วันที่ 1 เมษายนไม่ใช่ฉินหงเหยียน แต่เป็นคุณหนูคนโตของตระกูลหลี่ซูมู่ชิง”
พ่อบ้านฟางเกิดความสงสัย “คุณชาย ทำไมเป็นแบบนี้?”
เย่เฉินตอบคำถาม “ฉินหงเหยียนหายตัวไป ผมสงสัยว่าเป็นฝีมือคนตระกูลซู ผมเลยต้องแต่งงานกับซูมู่ชิง ถึงจะได้รู้ว่าฉินหงเหยียนอยู่ที่ไหน”
พ่อบ้านฟางกล่าวพลางถอนหายใจ “คุณชาย คุณเคยคิดบ้างไหมครับ ถ้าหากว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือคนตระกูลซู จะไม่เท่ากับว่าคุณแต่งงานกับคนผิดคนเหรอ? ผู้หญิงตระกูลซูไม่ใช่คนที่จะแต่งงานก็ได้ แล้วอยากหย่าก็ได้หย่า”
เย่เฉินถามต่อ “ผมเองก็เคยคิดมาก่อนเหมือนกัน แต่สัญชาตญาณมันบอกผม ต่อให้เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือคนตระกูลซู แต่ถ้าผมอยากจะตามหาฉินหงเหยียนละก็ต้องแต่งงานกับซูมู่ชิง เหมือนกับว่าเรื่องราวทั้งหมดล้วนแต่กำลังบีบให้ผมต้องเลือกเดินเส้นทางนี้”
พ่อบ้านฟางอุทาน “นายท่านเองก็เคยพูดเอาก่อนนนี้นานแล้วว่า คุณชายมีสัญชาตญาณที่แม่นยำ ตอนนี้นายท่านกำลังพักผ่อน เดี๋ยวถ้าเขาตื่นแล้วเดี๋ยวผมจะบอกเขา แต่เกรงว่านายท่านคงจะไม่อาจมาร่วมงานแต่งงานของคุณชายได้ด้วยตนเอง”
เย่เฉินกล่าวต่อ “อ้อ เดิมผมเองก็ไม่ได้อยากให้คุณปู่มาร่วมงานหรอกครับ แค่บอกเขาให้ผมหน่อย บอกคุณปู่ว่าผมสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง”
เมื่อคุยกับพ่อบ้านฟางอีกเล็กน้อยแล้ว เย่เฉินก็กดวางสาย
จากนั้นเย่เฉินก็กดโทรหาเย่เทียนพี่ชายคนโต แต่อีกฝ่ายไม่ได้รับสาย
สิบนาทีผ่านไป เย่เทียนก็ใช้เบอร์แปลกๆ โทรกลับมา
“เย่เฉิน”
“พี่ใหญ่”
“เมื่อกี้ฉันยุ่งๆ อยู่ มีอะไรเหรอ? มีข่าวของพี่รองหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ พี่ใหญ่ ที่ผมโทรหาพี่เพราะอยากจะบอกพี่ว่าผมจะแต่งงานแล้ว”
เย่เทียนดีใจอย่างยิ่ง“จะแต่งงานแล้วเหรอ? เมื่อไหร่? พี่จะไปงานแต่งของนายกับฉินหงเหยียนด้วยตัวเองเลย”
ที่บาร์ในฝรั่งเศส เย่เทียนเคยพูดกับเย่เฉินว่าจะกลับมาร่วมงานแต่งางนของน้องชายกับฉินหงเหยียน
เย่เฉินเงียบไปครู่หนึ่งแล้วกล่าว “วันที่ 1 เมษาครับ แต่ว่าเจ้าสาวไม่ใช่ฉินหงเหยียนหรอกครับ แต่คือหลานสาวของซูเจิ้นหาง ซูมู่ชิง”
“อะไรนะ? นายแต่งงานกับตระกูลซูเหรอ?”
เย่เทียนตื่นเต้นแล้วก็ตกใจ “นายไปแต่งงานกับคนบ้านนั้นได้ยังไง? นายรักฉินหงเหยียนไม่ใช่เหรอ? ฉันตัดสินใจเอารูปพ่อของฉินหงเหยียนให้นายดู ทั้งๆ ที่อาจจะโดนคุณปู่ด่าเลยนะเพราะอยากให้นายได้ลงเอยกับฉินหงเหยียน แล้วตอนนี้นายกลับแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นเหรอ? เย่เฉิน นายอย่าโลเลแบบพี่ชายคนที่รองของนายได้ไหม เป็นลูกผู้ชายควรต้องรับผิดชอบผู้หญิงสิ ต้องมั่นคงหน่อยสิ!”
พอจะฟังออกว่าเย่เทียนไม่เห็นด้วยที่เขาจะแต่งงานกับซูมู่ชิง
เย่เฉินถอนหายใจ “พี่ใหญ่ครับ พี่ไม่รู้อะไร ผมต้องรักฉินหงเหยียนอยู่แล้ว แล้วก็อยากแต่งงานกับหล่อนด้วย แต่ว่าจู่ๆ หงเหยียนก็หายตัวไป ไม่มีวี่แววข่าวคราวอะไรเลย ผมสงสัยว่าเป็นฝีมือคนตระกูลซู ที่ผมแต่งงานกับซูมู่ชิงก็เป็นจำใจเท่านั้นเอง”
“หายสาบสูญเหรอ?” เย่เทียนก็งุนงง
เย่เฉินจึงกล่าวถาม “พี่พอจะมางานแต่งงานผมตอนวันที่ 1 เมษายนได้ไหมครับ? พวกคนตระกูลซูอยากเจอคนในครอบครัวเรา”
เย่เทียนตอบ “ไปสิ พี่กับพี่ะใภ้จะไปร่วมงานแต่งของนายเอง จริงสิ เรื่องนี้บอกคุณพ่อกับคุณแม่หรือยัง พวกเขาจะไปไหม?”
เย่เฉินกล่าว “ไม่ได้บอกเลยครับ พ่อไม่ยอมพูดเรื่องพ่อของฉินหงเหยียนกับผมเลย ผมไม่อยากจะสนใจพ่อ แล้วก็ไม่ได้โทรหาแม่ด้วย”
เย่เทียน “เด็กโง่ นายอย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินใจสิ ที่พ่อไม่บอกนายมันเป็นเพราะกฎของตระกูล อีกเดี๋ยวพี่จะโทรบอกคุณแม่ให้นาย นายพักผ่อนเถอะ วันที่ 1 เมษาเจอกัน”
เย่เฉินตอบ “อื้ม ครับ พี่ครับ ผมจะรอพี่กับพี่สะใภ้มาหานะครับ”
……
ตัวอักษรมงคลคู่ที่เดิมถูกแปะไว้ตรงประตูเรือนสี่ประสานโดนฉีกทิ้งกันหมด แต่อักษรที่โดนมาติดแทนที่เป็นตัวอักษรคำว่าซูและอักษรมงคลที่ดูหรูหรากว่าเดิม
ไม่เพียงเท่านั้น ตระกูลหลี่เกิดเรื่อง ส่วนเรื่องที่ตระกูลซูจะมีเขยแต่งเข้ามานั้นก็ลือสะพัดไปทั่วเมืองหลวงแล้ว
“นี่ พวกนายได้ยินหรือยัง? คุณหนูคนโตของตระกูลซูคนนั้นน่ะ งานแต่งงานก่อนหน้ามีปัญหา แต่ว่างานจัดงานแต่งกลับจัดในวันเดิม แต่เปลี่ยนเจ้าบ่าว!”
“ได้ยินมาว่าเจ้าบ่าวเป็นคนต่างจังหวัด ไม่มีบ้านในเมืองหลวงด้วยซ้ำ แถมยังแต่งเช้าตระกูลซูด้วย!”
“แย่แล้ว ได้ยินมาว่าคุณหนูซูคนนี้งดงามปานนางฟ้า ทำไมฉันไม่โชคดีแบบนี้บ้าง ได้เป็นเขยตระกูลซูบ้าง เจ้าบ่าวคนนี้โชคดีจริงๆ!”
……
เขตซินเฉิง เมืองอวิ๋นโจว
“ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา”
หวังเจียเหยาเปิดเพลงเด็ก ไปพร้อมๆ กับร้องเพลงกล่อมลูกแฝดของตนเอง ด้วยใบหน้าเปี่ยมยิ้ม
ถึงแม้ว่าหวังเจียเหยาจะไม่ใช่ภรรยาที่ดีนัก แต่หล่อนเป็นมารดาที่ดี แต่ถ้าลองถามคนทั้งโลกจะมีแม่คนไหนไม่ชอบลูกของตัวเองบ้าง?
ดาราที่นอกใจจำนวนมากมายชอบสร้างภาพลักษณ์ของแม่ที่ดี เหมือนว่าจะดีกับลูกของตนเองเท่านั้น เพื่อลบล้างความผิดที่เคยทำ
และในเวลานี้เอง มารดาของหวังเจียเหยาซูหลานก็เดินมาด้วยท่าทางลนลาน
“ลูกแม่ เมื่อกี้แม่เห็นข่าวในกลุ่มเพื่อน หนูรู้ไหมว่าเรื่องใคร?”
หวังเจียเหยาในตอนนี้มีเงิน 1,500 ล้านเตรียมจะเปิดบริษัทใหม่ ชีวิตจึงดำเนินผ่านไปอย่างสงบสุข
อีกทั้งทุกวันล้วนแต่ใช้ครีมราคาแพง และออกกำลังกายทุกวัน
ทั้งหน้าตา เรือนร่าง หล่อนดูแลทั้งหมดไม่ขาดตกบกพร่องไปสักอย่าง แถมยังออกบ้านคนเดียวเพื่อให้เป็นเป้าสายตาของผู้ชายบ้าง
“ข่าวใครคะ? ทำไมแม่ตื่นเต้นขนาดนี้?” หวังเจียเหยาถามอย่างไม่ใส่ใจ
ซูหลานกล่าว “เย่เฉินน่ะสิ! เขาแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลซูแล้ว!”
“อะไรนะคะ?” หวังเจียเหยาตกใจ “ซูมู่ชิงน่ะเหรอคะ? พี่สาวของซูมู่หลินน่ะเหรอ?”
ทันใดนั้นเองหล่อนก็นึกถึงตอนที่บังเอิญเจอซูมู่ชิงตอนไปงานแต่งงานของฉินหงเหยียนกับสวี่ฉู่หมิง
ความสวยของซูมู่ชิงทำให้หวังเจียเหยารู้สึกเหมือนเจอคู่แข่ง!
หวังเจียเหยาหัวเสียทันที “ดีนี่เย่เฉิน ไล่ฉันกลับบ้านมาเลี้ยงลูก ส่วนตัวเองไประเริงรักกับฉินหงเหยียนแล้วก็โร่ไปหาคุณหนูตระกูลซูอีก!น่าโมโหชะมัด ในเมื่อนายไม่คบกับฉินหงเหยียน ทำไมถึงยังไม่เลือกฉัน!”
ซูหลานเองก็กล่าวว่า “นั่นสิ คิดดูนะลูกกับเย่เฉินก็มีลูกด้วยกันคนหนึ่งแล้ว ถ้าคืนดีกันจะดีขนาดไหน แต่ว่าทรัพย์สินเขาตอนนี้โดนอายัดเอาไว้ไม่ใช่เหรอ? ลูกไม่รังเกียจที่เขาจนเหรอ?”
หวังเจียเหยาแค่นเสียง “หนูไม่มีทางเชื่อว่าเย่เฉินจนแล้วล่ะค่ะ หนูพลาดโดนเขาเอาเรื่องนี้มาหลอกตั้งสองติดแล้ว! หนูรู้แล้วค่ะชีวิตนี้ของเขาไม่มีทางขาดเงินทอง! ฮึ เย่เฉินคนนี้ไม่มีหัวใจเลย ก่อนนี้หนูคบฟางเชา แต่งกับหลิ่วอวี่เจ๋อ เขาก็พังงานแต่งหนูตั้งสองรอบ งานแต่งฉินหงเหยียนเขาก้ไปแย่งตัวเจ้าสาวไม่ยอมให้คนอื่นได้แต่งงานเลย คราวนี้หนูจะไปถล่มงานเขาบ้าง! จะเอาให้งานล่มไปเลย! จะทำให้งานวุ่นวายไปเลย!”